r
R

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (วันพุธที่ 4 มิถุนายน 2568) เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุม 402 ชั้น 4 อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าว “THAILAND ENTERTAINMENT COMPLEX” โดยมี นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นำเสนอรายละเอียดของโครงการ  Thailand Entertainment Complex ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล ที่มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้หมุนเวียนมหาศาล และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก 

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับ Thailand Entertainment Complex มหานครแห่งประสบการณ์ระดับโลก ที่สร้างเพื่อคนไทยทุกคน โดยกล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยต้องการเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวใหม่มาขับเคลื่อน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงทาง Geopolitics และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในระดับโลกที่มีการแข่งขันกันสูงมากขึ้น หนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอด คือ ภาคการท่องเที่ยว ขณะที่หลายประเทศในโลกเองเริ่มแข่งกันสร้างสร้าง Man-Made Tourist Destination ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพื่อนำมาพัฒนา สร้างกลไกในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ประเทศไทยก็เช่นกัน ทุกวันนี้ไทยต้องการจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างแรงดึงดูดใหม่ ๆ 

รัฐบาลจึงได้ใช้โมเดล Thailand Entertainment Complex ในการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ สร้างอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตในระดับที่เหมาะสม โดยรัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับเสียงของประชาชนเป็นอันดับต้น ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลได้เดินหน้ายกร่างกฎหมาย Entertainment Complex และปัจจุบันได้ส่งไปถึงสภาผู้แทนราษฎร แต่ยังคงมีเสียงสะท้อน ข้อห่วงใยในหลายมิติ ซึ่งรัฐบาลมีการหารือกับทั้งสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการในหลายภาคส่วน และผู้คนอีกจำนวนมาก เป็นการสื่อสารทางตรง และขอทำความเข้าใจว่า Thailand Entertainment Complex ไม่ใช่โครงการแบบครั้งเดียวจบ แต่เป็นการขับเคลื่อน สร้างโอกาสที่สำคัญให้ประเทศไทยในการต่อยอดการท่องเที่ยวในอนาคต โดยรัฐบาลยืนยันว่า ทุกขั้นตอนจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส มีกฎหมายรองรับครบถ้วน มีข้อมูลสนับสนุนและมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด 

จากนั้น นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอรายละเอียดของโครงการ ว่า ถึงเวลาที่ประเทศไทยต้อง ‘สร้างโอกาส’ ครั้งใหม่ พัฒนาการท่องเที่ยวที่ทำให้รายได้ต่อหัวนักท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว รัฐบาลจึงเดินหน้าการท่องเที่ยวด้วยการวางเป้าหมายใหม่ ๆ กำหนดยุทธศาสตร์ใหญ่ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบไม่ต้องรอฤดูกาล และเน้นการท่องเที่ยวที่ ‘สร้างขึ้นใหม่’ ไม่ว่าจะเป็นแผนงานการดึงอีเวนต์ระดับโลกเข้ามาในประเทศ เช่น F1, วิจิตรเจ้าพระยา, มหาสงกรานต์ Splash, การแข่งขันรายการวอลเลย์บอลระดับโลก, การท่องเที่ยวที่เน้นการสร้างคุณค่า เช่น การทำ THACCA, 5 Must Do in Thailand, Health & Wellness Tourism และ Man-Made Destination เช่น กระเช้าภูกระดึง, Cruise Terminal และ Entertainment Complex

โดย Entertainment Complex เป็น Man-Made Destination ที่ถูกเสนอเป็นทางเลือกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในเมกะโปรเจกต์ ที่สามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น คอนเสิร์ตฮอลล์ พื้นที่จัดงาน นิทรรศการระดับโลก และเปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงศิลปวัฒนธรรม สร้างรายได้ และยกระดับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์

โครงการนี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ระดับโลกให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยว เช่น สนามกีฬาในร่มขนาดใหญ่สำหรับคอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่าง ๆ งานแสดงสินค้า ศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมไทยที่เปิดโอกาสให้สินค้าไทย สินค้าเกษตร อาหาร และงานฝีมือเข้าถึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงศูนย์ประชุมนานาชาติระดับใหญ่เพื่อรองรับการจัดงานนิทรรศการระดับโลกอย่างที่จัดในลาสเวกัสหรือลอนดอน โดยยังรวมถึงสวนสนุก พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหารระดับมิชลิน และพื้นที่สาธารณะสีเขียวเพื่อจัดกิจกรรม outdoor และท่าเรือยอชต์ ที่รองรับนักท่องเที่ยวระดับบน ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล เพิ่มการจ้างงาน และดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก ซึ่งแม้ประเทศไทยจะเริ่มช้ากว่าประเทศอื่นในภูมิภาค แต่ถือเป็นโอกาสดีในการเรียนรู้จากโมเดลของประเทศต่างๆ และพัฒนารูปแบบที่เหมาะสมกับบริบทไทย สร้าง “เครื่องยนต์ใหม่” ให้การท่องเที่ยวไทยเติบโต

โดยรองเลขาธิการฯ ได้ยกตัวอย่างข้อมูลรายได้ต่อปีจากสถานบันเทิงครบวงจรปี 2022 ของประเทศเวียดนาม คือ 1.8 แสนล้านบาท/ปี, เกาหลีใต้ 3.2 แสนล้านบาท/ปี, สิงคโปร์ 4.3 แสนล้านบาท/ปี เป็นต้น ข้อมูลตัวเลขจากประเทศเพื่อนบ้านแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน 

นอกจากนี้ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นการลงทุนที่ไม่ต้องใช้เงินภาษีจากพี่น้องประชาชน เพราะเป็นการลงทุนโดยเอกชน แต่สิ่งที่จะได้คือ เพิ่มการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ประมาณการว่า 22,300 บาท/คน/ทริป เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้น 5-20% ต่อปี เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวช่วง Low Season ขึ้น 13% ทำให้การท่องเที่ยวสม่ำเสมอทั้งปี

 รองเลขาธิการฯ ย้ำว่า  ‘กาสิโน’ ไม่ใช่ทุกคนที่เข้าได้ และยืนยันว่า ไม่ใช่ศูนย์การพนันออนไลน์ เป็นการลงทุนในโครงการแลนด์เบสที่มีโครงสร้างพื้นฐานจริง สร้างงานจริง และยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่น ไม่ใช่กาสิโนเสรีหรือออนไลน์แต่อย่างใด มีกฎเข้มงวดทั้งการห้ามโฆษณา การอบรมพนักงานเพื่อช่วยสังเกตพฤติกรรมเสี่ยง ตลอดจนการใช้มาตรการแบบองค์รวมทั้งการป้องกัน การบำบัด และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งรายได้จากโครงการ Entertainment Complex จะถูกนำไปสนับสนุนในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เช่น ทุนการศึกษา การพัฒนาเยาวชนในด้านกีฬา ดนตรี และเทคโนโลยี การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง โดยรัฐบาลได้กำหนดเกี่ยวกับการใช้รายได้จากโครงการฯ ไว้ใน พ.ร.บ. ฯ อย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นธรรมต่อชุมชน รวมทั้ง รัฐบาลจะเปิดกว้างต่อข้อเสนอแนะต่างๆ และจะนำเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. ให้รัดกุมยิ่งขึ้น

สำหรับการป้องกันฟอกเงินและการควบคุมผู้เข้าใช้ รัฐบาลวางมาตรการที่รัดกุมทุกขั้นตอน เช่น การสแกนใบหน้า และการตรวจสอบบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต การจัดเก็บข้อมูลผู้เข้าใช้ทุกคน และการตรวจสอบที่มาของเงินตามมาตรฐานสากล โดยผู้ลงทุนต้องผ่านการกำกับดูแลจากหน่วยงานระดับโลก อีกทั้งยังมีระบบตรวจสอบการใช้เงินอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการฟอกเงินโดยสิ้นเชิง พร้อมกำหนดชัดเจนว่าผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีจะไม่สามารถเข้าใช้บริการในพื้นที่เหล่านี้ได้

โครงการ Entertainment Complex จะถือเป็นโอกาสการลงทุนครั้งใหญ่ของประเทศ ที่ไม่เพียงสร้างรายได้จากภาษีให้รัฐปีละ 12,000–40,000 ล้านบาทเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการจ้างงาน และช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 5–20% ทำให้ประเทศไทยไม่มีช่วง low season อีกต่อไป รายได้จากโครงการนี้จะส่งผลบวกต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม สวนสนุก ห้างสรรพสินค้า ตลอดจน SMEs ของไทย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร สปาของไทย ซึ่งจะสร้างแรงกระเพื่อมให้กับเศรษฐกิจโดยรวม เช่นเดียวกับที่สิงคโปร์เคยทำสำเร็จ

“ประเทศไทยไม่ควรเสียโอกาสทางเศรษฐกิจอีกต่อไป ท่ามกลางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวที่รุนแรงขึ้นทั่วโลก รัฐบาลไทยต้องการใช้โอกาสนี้ในการดึงดูดการลงทุนระดับแสนล้าน และยกระดับการท่องเที่ยวของประเทศให้ทันกับประเทศอื่น พร้อมนำมาตรฐานสากลมาปรับใช้ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการดูแลสังคมอย่างรอบด้าน” นายจุลพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thaigov.go.th/news/contents/ministry_details/97131&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw12NE-PFA5grXLFYS3ZxhOv

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *