MGM สนลงทุน “รีสอร์ทครบวงจรในไทย” ชี้สร้างงานนับพันตำแหน่ง

เอ็มจีเอ็ม รีสอร์ต อินเตอร์เนชันแนล (MGM Resorts International) ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรีสอร์ทประกาศความสนใจลงทุนในประเทศไทย หลังร่วมงานสัมมนา Thailand – U.S. Trade & Investment Summit 2025 ที่จัดโดยหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM Thailand) เมื่อไม่นานผ่านมา
โดยมุ่งหวังดันไทยสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค

ผ่านโมเดล “รีสอร์ทครบวงจร” (Integrated Resort) ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในสิงคโปร์ มาเก๊า และลาสเวกัส หนุนสร้างงานนับพันตำแหน่ง ช่วยเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวคุณภาพ กระตุ้นธุรกิจท้องถิ่นและ SMEs และยกระดับโครงสร้างพื้นฐานรองรับ MICE

นายเอ็ด บาวเวอร์ส ประธานฝ่ายพัฒนาระดับโลกของเอ็มจีเอ็ม รีสอร์ต อินเตอร์เนชันแนล ระบุว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวโลกกำลังเปลี่ยนจากการเที่ยวชมเชิงปริมาณ สู่ประสบการณ์ที่ลึกซึ้ง มีความหมาย และยั่งยืน

โดยไทยคือหนึ่งในเป้าหมายที่มีศักยภาพในการรองรับแนวโน้มดังกล่าว ทั้งจากจุดแข็งด้านวัฒนธรรม บริการ และโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังพัฒนา ชูศักยภาพไทยรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์

“การพัฒนารีสอร์ทครบวงจร คือโอกาสเชิงยุทธศาสตร์ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลก สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศอย่างมหาศาล และเสริมจุดแข็งด้านการเป็นศูนย์กลาง MICE ของภูมิภาค”

ทั้งนี้ เอ็มจีเอ็ม ยกบทเรียนจากต่างประเทศว่ารีสอร์ทครบวงจรสามารถสร้างงานจากการจ้างงานได้หลายพันตำแหน่งในแต่ละโครงการ ซึ่งกระตุ้นซัพพลายเชน พร้อมกระตุ้นระบบห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) หนุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการอาหาร วัสดุก่อสร้าง โลจิสติกส์ ไปจนถึงธุรกิจ SMEs และสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี  

โดยการพัฒนาโครงการในประเทศไทย หากเกิดขึ้นจริง จะดำเนินการภายใต้ MGM China Holdings โดยยึดมาตรฐานระดับโลกในการพัฒนา ศูนย์ประชุม ร้านอาหาร การแสดง ศูนย์ค้าปลีก และกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ ภายใต้พื้นที่เดียวกัน
 

นายบาวเวอร์ส ระบุว่า บริษัทให้การสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลไทยในการผลักดันร่างกฎหมายรีสอร์ตครบวงจร สู่การเติบโตระยะยาวพร้อมเสนอแบ่งปันองค์ความรู้จากประสบการณ์ตรง เพื่อช่วยวางรากฐานที่เหมาะสมกับบริบทของไทย จากความสำเร็จในสิงคโปร์และมาเก๊า 

เชื่อมั่นว่าประเทศไทยสามารถก้าวสู่ยุคใหม่ของการท่องเที่ยวระดับพรีเมียมได้เช่นกัน หากมีการกำหนดกรอบนโยบายและกฎหมายที่เหมาะสม โปร่งใส และยั่งยืน

ทั้งนี้ เอ็มจีเอ็ม ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มทุนระดับโลกที่มีพอร์ตโฟลิโอหลากหลาย ตั้งแต่ลาสเวกัสไปจนถึงญี่ปุ่นและจีน และมองว่าตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะไทย คือจุดยุทธศาสตร์ใหม่ในการขยายการลงทุนในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ 4 ราย ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในโครงการ Entertainment Complex หรือศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจรในประเทศไทย โดยมีการหารือกับ 2 บริษัทชั้นนำของโลกแล้ว ได้แก่ Wynn Resorts และ MGM Resorts ขณะที่อีก 2 รายอยู่ระหว่างนัดหมายเพื่อหารือเพิ่มเติม

โดยทั้งสองรายมองในทิศทางเดียวกัน คือ ให้ความสนใจในการลงทุนในประเทศไทย และเห็นว่ากฎหมายที่ทำไว้อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดีมาก โดยเฉพาะในเรื่องการควบคุมกำกับการฟอกเงิน และการควบคุมกำกับการแก้ปัญหาการพนัน อย่างไรก็ดีไทยได้แจ้งนักลงทุนว่า การเข้ามาหารือครั้งนี้เป็นเวทีเปิด สุดท้ายก็ต้องมาแข่งขันกันอย่างชัดเจน

สำหรับ MGM Resorts นั้น ดำเนินกิจการ 3-4 แห่งทั่วโลก และขณะนี้อยู่ระหว่างจัดตั้งธุรกิจที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผ่านกระบวนการกฎหมายที่เข้มแข็งนั้นมาแล้ว ส่วนในไทยนั้น  MGM Resorts ไม่มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม แต่ขอให้กฎหมายมีความชัดเจน