สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองหลานโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา มณฑลกานซู่ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ร่วมมือกับประเทศไทย ในการแลกเปลี่ยนและร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดบ่อยครั้ง
เมื่อเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา มณฑลกานซู่จัดการประชุมส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า จีน ( กานซู่ ) -ไทย ที่กรุงเทพฯ และมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ ( เอ็มโอยู ) ว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ การเป็นเมืองมิตรภาพกับจังหวัดระยอง ทางตะวันออกของไทย
ขณะเดียวกัน หอการค้าไทย-จีน กระทรวงสาธารณสุขของไทย และคณะผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลไทยปในจีน เดินทางเยือนมณฑลกานซู่แล้วหลายครั้ง เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรมระหว่างสองฝ่ายให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
นายจาง เป่าจวิน ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการต่างประเทศของรัฐบาลมณฑลกานซู่ เปิดเผยว่า มณฑลกานซู่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมนานาชาติ ( ตุนหวง ) แห่งเส้นทางสายไหม ครั้งที่ 8 ในเดือนก.ย. นี้ โดยไทยได้ยืนยันว่าจะรับเกียรติเป็นประเทศเกียรติยศในงาน

อนึ่ง มณฑลกานซู่และไทยมีประวัติศาสตร์การแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน โดยมณฑลกานซู่ถือเป็น “ดินแดนทองคำ” ของเส้นทางสายไหม มีแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมระดับโลกมากมาย และมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ อาทิ ถ้ำหินแกะสลักโม่เกาในเมืองตุนหวง ถ้ำหินม่ายจีซาน ด่านเจียอวี้กวนของกำแพงเมืองจีน และอุทยานธรณีวิทยาจางเย่ตันเสีย
นอกจากนี้ มณฑลกานซู่และไทยยัง “ใกล้ชิดกันเหมือนกับครอบครัว” เนื่องมาจากความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างผู้คน และทั้งสองฝ่ายยังมีโอกาสอีกมากสำหรับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรมประเพณีเขตร้อนของไทยแตกต่างกับวัฒนธรรมเส้นทางสายไหม และทิวทัศน์ธรรมชาติของมณฑลกานซู่อย่างชัดเจน ความต่างนี้นำมาซึ่งศักยภาพมหาศาล ที่อาจทำให้สองฝ่ายกลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญระหว่างกัน
ปัจจุบันไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในต่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของชาวกานซู่ การท่องเที่ยวระหว่างมณฑลกานซู่กับไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากเมื่อปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจากมณฎลกานซู่เดินทางเยือนไทยมากถึง 43,000 คน และนักท่องเที่ยวไทยมาเยือนมณฑลกานซู่เกือบ 7,000 คน และจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเยือนมณฑลกานซู่เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 10,000 คน เมื่อปี 2567.
ข้อมูล : XINHUA
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, XINHUA
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.dailynews.co.th/news/4746128/&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw0mPouXPFMMGF7O2bEm7Iqi