เว็บไซต์รัฐบาลไทย

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดงาน “Thai Fists in Thai Fest” กลางกรุงปารีส ดันมวยไทยสู่เวทีโลก หนุน Soft Power ไทยสร้างแรงบันดาลใจนักท่องเที่

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดงาน “Thai Fists in Thai Fest” กลางกรุงปารีส ดันมวยไทยสู่เวทีโลก หนุน Soft Power ไทยสร้างแรงบันดาลใจนักท่องเที่

วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ณ สวนบากาแตล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “Thai Fists in Thai Fest” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้เทศกาลไทย โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วม อาทิ นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส, นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ, ผศ. พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และนายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย

นายสรวงศ์ กล่าวว่า “กิจกรรม Thai Fists in Thai Fest เป็นเวทีสำคัญในการเผยแพร่อัตลักษณ์ของมวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ และมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าของไทย สู่สายตาชาวโลก ถือเป็นการขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศผ่านกีฬา สร้างแรงบันดาลใจให้ชาวต่างชาติเกิดความสนใจ เดินทางมาท่องเที่ยวและเรียนรู้มวยไทย ณ ประเทศไทย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน”

ภายในงานมีการแสดงไหว้ครูมวยไทย การสาธิตทักษะมวยไทย และการต่อสู้แบบมวยไทยโบราณจากนักมวยชื่อดัง อาทิ นาบิล อานาน, ยอดแสนไกล แฟร์แท็กซ์, แดเนียล โรดริเกวซ พร้อมด้วยทีมเทรนเนอร์ชั้นนำ อาทิ เทรนเนอร์เก สุทัศน์ ม่วงมัน, ครูบีม ร้อยโทนิธิโรจน์ บัวศรีธรานนท์ และครูปอ จ่าสิบตรี ศุภชัย พันธุ์สุวรรณ ที่ร่วมกันถ่ายทอดเสน่ห์และเทคนิคของมวยไทยอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Workshop มวยไทยที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้ร่วมงาน รวมถึงการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) ในอุตสาหกรรมมวยไทย และกิจกรรม Meet & Greet กับนักมวยระดับแชมป์โลก

ทั้งนี้ งาน “Thai Fists in Thai Fest” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24–25 พฤษภาคม 2568 โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับมวยไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ต่อยอดสู่การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และสร้างบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางศิลปะการต่อสู้มวยไทยของโลกอย่างแท้จริง