นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ซึ่งใช้งบประมาณจากกรอบวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท (ที่โยกจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท) ได้รับการจัดสรรงบประมาณรวม 1,780 ล้านบาท และเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อนเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนมิถุนายนนี้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีการปรับลดจำนวนสิทธิสนับสนุนค่าเดินทางจากเดิม 1 ล้านสิทธิ เหลือ 500,000 สิทธิ เนื่องจากต้องจัดสรรงบบางส่วนไปสนับสนุนโครงการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งในรูปแบบเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ

โครงการยังคงรูปแบบการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในโรงแรมและร้านอาหารในอัตรา 50% เช่นเดิม ยกเว้นค่าตั๋วเครื่องบินที่จะไม่รวมอยู่ในสิทธิครั้งนี้ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินโครงการได้ภายในเดือนกรกฎาคม

ด้านการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นผู้ดำเนินการ คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ภายในกลางเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งฝั่งประชาชนและผู้ประกอบการ โดยไม่ต้องรอการอนุมัติงบจาก ครม.

สำหรับรูปแบบโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” อยู่ระหว่างการพิจารณาใน 2 แนวทาง ได้แก่

1.แยกตามเมืองท่องเที่ยว

  • เมืองหลัก รัฐสนับสนุน 40% ประชาชนจ่าย 60%
  • เมืองรอง/เมืองน่าเที่ยว รัฐสนับสนุน 50% ประชาชนจ่าย 50%
  1. แยกตามวันเดินทาง
  • วันธรรมดา (จันทร์–ศุกร์) รัฐสนับสนุน 50% ประชาชนจ่าย 50%
  • วันหยุด (เสาร์–อาทิตย์/นักขัตฤกษ์) รัฐสนับสนุน 40% ประชาชนจ่าย 60%

ผู้ใช้สิทธิเข้าร่วมได้คนละ 5 สิทธิ (คืน) โดยวงเงินค่าที่พักไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน พร้อมรับคูปองดิจิทัลสำหรับใช้ในร้านอาหาร ร้านของที่ระลึก ร้านค้าโอทอป และแหล่งท่องเที่ยว โดยรายละเอียดวงเงินคูปองยังอยู่ระหว่างพิจารณา