รายได้ท่องเที่ยวไทยติดลบ 2.87% สัญญาณวิกฤติที่ต้อง ‘พลิกเกม’

รายได้ท่องเที่ยวไทยติดลบ-2.87%-สัญญาณวิกฤติที่ต้อง-‘พลิกเกม’
รายได้ท่องเที่ยวไทยติดลบ 2.87% สัญญาณวิกฤติที่ต้อง ‘พลิกเกม’

เศรษฐกิจ

12 มิ.ย. 2025 เวลา 7:00 น.

รายได้ท่องเที่ยวไทยติดลบ 2.87% สัญญาณวิกฤติที่ต้อง ‘พลิกเกม’

    การท่องเที่ยวถือเป็น “เครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” มาอย่างยาวนาน สร้างทั้งงาน สร้างรายได้ และกระจายความเจริญไปยังภูมิภาคต่างๆ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาช่วงวันที่ 1 ม.ค.-8 มิ.ย. 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 15,016,878 คน และสร้างรายได้จากการใช้จ่ายได้ราว 699,295 ล้านบาท

    แต่ตัวเลขรายได้นี้กลับ “ติดลบ 2.87%” เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว นี่คือ “สัญญาณเตือนที่ชัดเจน” ว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการ “ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่” เพื่อฟื้นฟูให้การท่องเที่ยวกลับมาเป็น “เครื่องยนต์หลักที่แข็งแกร่ง” และเพิ่มขีดความสามารถในการ “แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน” ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไทยให้ได้มากขึ้นอย่างเร่งด่วน
    สถานการณ์ที่น่าจับตาอีกประการคือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาดนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรกในช่วงเวลาเดียวกัน โดยพบว่า “มาเลเซียได้ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1” ด้วยจำนวนกว่า 2.04 ล้านคน “แซงหน้าจีน” ที่อยู่ในอันดับ 2 ซึ่งมีจำนวนใกล้เคียงกันแต่มี “แนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง” ขณะที่ “อินเดียมีการเติบโตอย่างโดดเด่นจนทะลุ 1 ล้านคน” ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ตามมาด้วยรัสเซียและเกาหลีใต้ในอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ

   ตลาดจีนซึ่งเคยเป็น “หัวใจสำคัญ” ของการท่องเที่ยวไทยชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง เป็นปัญหาหลักที่ต้องได้รับการแก้ไข การ “ทำความเข้าใจสาเหตุ” ของความชะลอตัวนี้อย่างรวดเร็วและแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากปัจจัยภายในของจีนเอง สภาพเศรษฐกิจ ปัญหานโยบายการเดินทาง หรือแม้แต่ปัญหาด้านความปลอดภัยและภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยที่อาจเปลี่ยนแปลงไป การวิเคราะห์นี้จะนำไปสู่การ “หากลยุทธ์ที่ตรงจุด” หากยังไม่สามารถฟื้นฟูตลาดนี้ได้อย่างรวดเร็ว ก็จำเป็นต้อง “พิจารณาหาตลาดทดแทนที่มีศักยภาพ” ควบคู่ไปด้วย

     ขณะเดียวกัน “การที่มาเลเซียก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 และอินเดียเติบโตอย่างก้าวกระโดด” ถือเป็น “โอกาสทองที่ต้องคว้าไว้” ควรใช้โมเมนตัมนี้ “ทำการตลาดเชิงรุกและต่อเนื่อง”ที่ “สอดคล้องกับพฤติกรรมและความสนใจ” ของนักท่องเที่ยวจากสองประเทศนี้ รวมถึงการไม่พึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไปเป็นสิ่งสำคัญต่อความยั่งยืน จึงต้อง “กระจายความเสี่ยงและรักษาตลาดเดิมอย่างแข็งขัน” ทั้งรัสเซีย เกาหลีใต้ และตลาดดั้งเดิมอื่นๆ ผ่านการสื่อสารเพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยและคุณภาพ การรักษาความสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมต่างๆ และการนำเสนอสินค้าบริการที่หลากหลาย

    เพื่อให้การท่องเที่ยวกลับมาเป็นเครื่องยนต์กระตุ้นเศรษฐกิจที่ทรงพลังอย่างแท้จริง และแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ จำเป็นต้อง “พัฒนาคุณภาพและสินค้าทางการท่องเที่ยวยกระดับคุณภาพบริการ”ให้มีมาตรฐานทุกพื้นที่ เน้นบริการที่มีเอกลักษณ์และคุณค่าสูง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเชิงลึก การท่องเที่ยวเชิงผจญภัยที่มีความรับผิดชอบ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือเชิงกีฬา ควบคู่ไปกับการ “ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองที่มีศักยภาพ” เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น การดำเนินการอย่างเป็นระบบและบูรณาการ คือ “หัวใจสำคัญ” ที่จะทำให้การท่องเที่ยวไทยสามารถปรับตัว แข่งขัน และกลับมาเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.bangkokbiznews.com/blogs/business/economic/1184378&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3-EW3sDr2Sx5sCFoSWOBBE

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *