“รองนายกฯ ประเสริฐ” ลงพื้นที่ศรีสะเกษ สั่งกรมชลประทานเร่งเครื่อง “อ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง” หวังเป็นแหล่งน้ำต้นทุนใหม่ บรรเทาภัยแล้งระยะยาว พร้อมหนุนพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ดันเศรษฐกิจท้องถิ่น เตรียมพร้อมรับมือฤดูฝนเต็มกำลัง สั่ง สทนช. และหน่วยงานเกี่ยวข้องบูรณาการแผน ป้องกันทั้งน้ำท่วม-น้ำแล้ง สร้างความมั่นคงให้ประชาชน
จังหวัดศรีสะเกษกำลังจะมีความหวังใหม่ในการแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบ เมื่อนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ลงพื้นที่กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เขตตรวจราชการที่ 14 ณ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของภาคเกษตรกรรมและคุณภาพชีวิตของประชาชน การลงพื้นที่ครั้งนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่โดยตรง
ลงพื้นที่จริง รับฟังปัญหาถึงแก่น
ภารกิจแรกของรองนายกรัฐมนตรี คือการเดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำ ณ พื้นที่โครงการแก้มลิงห้วยไร่ ตำบลบก อำเภอโนนคูณ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำในระดับหนึ่ง โดยมีนางพัชรวีร์ สุวรรณิก รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลและรายงานสถานการณ์ การลงพื้นที่จริงเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการทำความเข้าใจสภาพปัญหาอย่างลึกซึ้ง เพื่อนำไปสู่การวางแผนและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ณ ที่ว่าการอำเภอโนนคูณ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต้อนรับและรายงานสถานการณ์ทั่วไปของอำเภอ พร้อมด้วยรองเลขาธิการ สทนช. หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นการหาทางออกร่วมกันเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้กล่าวถึงเจตนารมณ์ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า “การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำของอำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมรับฟังสภาพปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการด้านน้ำของประชาชนในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางสนับสนุนหรือแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ในการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด” คำกล่าวนี้เป็นการตอกย้ำถึงความใส่ใจและความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสำคัญ
อ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง: ความหวังใหม่ของชาวศรีสะเกษ
ไฮไลท์สำคัญของการลงพื้นที่ครั้งนี้ คือข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีที่ให้กรมชลประทานเร่งเตรียมความพร้อมและขอตั้งงบประมาณเพื่อดำเนิน “โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง” อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โครงการนี้ถูกมองว่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพลิกฟื้นสถานการณ์น้ำของจังหวัด โดยรองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า “เพื่อช่วยลดปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ และให้เป็นแหล่งน้ำต้นทุนแหล่งใหม่ของจังหวัด” การมีแหล่งน้ำต้นทุนที่เพียงพอและมั่นคง จะส่งผลดีต่อภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนในพื้นที่ ช่วยลดความเสียหายจากภัยแล้งที่เกิดขึ้นซ้ำซาก และสร้างความมั่นคงทางอาหารในระยะยาว
ยิ่งไปกว่านั้น รองนายกรัฐมนตรียังมองการณ์ไกลถึงศักยภาพของอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุงในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่า “ทั้งนี้ หากสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดได้ ให้ร่วมกับจังหวัดหารือเพื่อจัดทำแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบ ใช้สำหรับกิจกรรมสันทนาการและส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อไป” แนวคิดนี้จะช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ และกระจายรายได้สู่ชุมชน สอดรับกับนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของรัฐบาล
บูรณาการรับมือฤดูฝน ป้องกันครอบคลุม
นอกจากการผลักดันโครงการใหม่แล้ว รองนายกรัฐมนตรีประเสริฐยังได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง โดยได้มอบหมายให้ สทนช. ประสานร่วมกับกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ “ทั้งการระบายน้ำและการกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ เพื่อให้สามารถเป็นแหล่งเก็บกักน้ำในฤดูน้ำหลาก บรรเทาปัญหาอุทกภัย และใช้ประโยชน์จากน้ำที่เก็บกักไว้ในฤดูแล้งหน้าได้”
พร้อมกันนี้ ยังมีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจังหวัด กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น “เร่งรัดตรวจสอบสภาพของแหล่งน้ำ อาคารชลศาสตร์ และบ่อบาดาลต่าง ๆ หากพบว่ามีการชำรุดเสียหาย หรือยังไม่พร้อมใช้งาน ให้ดำเนินการซ่อมแซมหรือปรับปรุง เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้ำในฤดูฝนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ฟื้นฟูแหล่งน้ำบาดาลให้ใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ” การดูแลรักษาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำที่มีอยู่ให้พร้อมใช้งานถือเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเตรียมตัวและรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที รองนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้จังหวัด “ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างกระบวนการรับรู้สถานการณ์น้ำ เฝ้าระวังแจ้งเตือน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝน ปี 2568 โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้ได้มากที่สุด”
สทนช. ขานรับนโยบาย ชี้อ่างฯ ห้วยขะยุงแก้ปัญหาตรงจุด
ทางด้านนางพัชรวีร์ สุวรรณิก รองเลขาธิการ สทนช. ได้ให้ข้อมูลสนับสนุนว่า จังหวัดศรีสะเกษมักประสบปัญหาทั้งน้ำหลากและภัยแล้ง “ที่ผ่านมาจังหวัดศรีสะเกษมักประสบปัญหาน้ำหลากจากแม่น้ำมูลและพื้นที่ตอนบน โดยเฉพาะมวลน้ำจากห้วยสำราญ ซึ่งไหลผ่านเขตชุมชนเมืองที่มีลำน้ำแคบ ส่งผลให้บางพื้นที่เกิดอุทกภัย ขณะเดียวกัน ยังมีบางพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุนในจังหวัดมีจำกัด”
โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุงจึงเป็นคำตอบสำคัญ โดยนางพัชรวีร์กล่าวว่า “กรมชลประทานจึงได้ดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของจังหวัดศรีสะเกษ โดยหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 40 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) มีพื้นที่ป้องกันน้ำท่วม 1,725 ไร่ พื้นที่ได้รับประโยชน์ 42,500 ไร่ และครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์ 2,874 ครัวเรือน” ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงประโยชน์มหาศาลที่โครงการนี้จะมอบให้กับประชาชน ทั้งในแง่ของการมีน้ำใช้เพื่อการเกษตร การป้องกันอุทกภัย และการยกระดับคุณภาพชีวิต
ปัจจุบัน โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุงอยู่ระหว่างการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาพนมดงรัก โดยกรมชลประทานมีแผนดำเนินการในปี 2570 ซึ่งหากเป็นไปตามแผน จะเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัดศรีสะเกษ
โครงการอื่น ๆ เสริมทัพความมั่นคงด้านน้ำ
นอกเหนือจากอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุงแล้ว ยังมีแผนงานโครงการด้านน้ำอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการและวางแผน อาทิ โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองศรีสะเกษ ระยะที่ 1, โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำกุดเตอะ – กุดหวาย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมอาคารประกอบ, และโครงการขุดลอกคลองบ้านหนองคำถึงบ้านหัวนา พร้อมอาคารประกอบ โครงการเหล่านี้ล้วนมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งอุทกภัยและภัยแล้งอย่างยั่งยืน สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับจังหวัด
สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2568) อ่างเก็บน้ำทุกแห่งของจังหวัดศรีสะเกษมีปริมาตรน้ำรวม 129.24 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 43% ของความจุเก็บกัก ซึ่ง สทนช. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดการณ์ทั้งพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและพื้นที่เสี่ยงฝนทิ้งช่วงในตลอดฤดูฝนนี้ เพื่อติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 อย่างเคร่งครัด
การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการภายใต้การกำกับดูแลของรองนายกรัฐมนตรีประเสริฐ จันทรรวงทอง ในครั้งนี้ จึงนับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของจังหวัดศรีสะเกษ ที่จะก้าวไปสู่ความมั่นคงด้านน้ำ ลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน.
#รองนายกประเสริฐ #ศรีสะเกษ #สถานการณ์น้ำ #อ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง #กรมชลประทาน #สทนช #ภัยแล้ง #อุทกภัย #ท่องเที่ยวศรีสะเกษ #เศรษฐกิจศรีสะเกษ #บริหารจัดการน้ำ #น้ำคือชีวิต
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://thereporter.asia/2025/05/huai-khayung-reservoir/&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2XdJ4JFxaDrKfoRBb5xGR6