บรรทัดทองสู้วิกฤต หวัง Pride Month 2025 ฟื้นยอดนักท่องเที่ยว

บรรทัดทองสู้วิกฤต-หวัง-pride-month-2025-ฟื้นยอดนักท่องเที่ยว
บรรทัดทองสู้วิกฤต หวัง Pride Month 2025 ฟื้นยอดนักท่องเที่ยว

วันนี้ (2 มิ.ย.2568) สปาเก็ตตีเรนโบว์ หรือ สปาเก็ตตีไพรด์มันธ์ เป็นเมนูแนะนำใหม่ของร้านล็อบสเตอร์ ซิตี้ บรรทัดทอง ตั้งใจกระตุ้นการขายในเดือนนี้โดยเฉพาะ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเพศหลากหลาย และ เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมฉลองเดือนแห่งไพรด์

นอกจากนี้ บริเวณหน้าร้านยังตกแต่งสัญลักษณ์รูปหัวใจสีรุ้ง ให้เข้ากับบรรยากาศเดือนไพรด์ สิทธิฉันท์ วุฒิพลกุล เจ้าของร้านแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี ธุรกิจย่านบรรทัดทอง รายได้ลดลงกว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปัจจัยมาจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวไทยลดลง

เทศกาลเดือนไพรด์ จึงเป็นเป้าหมายใหม่ที่ผู้ประกอบการย่านบรรทัดทอง หวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เดินทางมาย่านนี้เพิ่มมากขึ้น โดยสมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง มีแผนจะจัดกิจกรรมเกี่ยวกับ Pride month หวังดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ มาฟื้นธุรกิจ

ขณะที่ ร้านเก่าแก่อย่างร้านเจ้วรรณ ย่านบรรทัดทอง ที่เปิดขายมากว่า 35 ปี กนกวรรณ สงค์พง เจ้าของร้าน บอกว่า หลังสงกรานต์ นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง ทำให้รายได้หายไปกว่าร้อยละ 50 การดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เข้ามาในช่วงเดือนไพรด์ จึงเป็นความหวังว่าจะช่วยพยุงให้ร้านผ่านวิกฤตไปให้ได้ แม้รู้ว่าอาจจะเป็นเรื่องยาก

วาดดาว อรรณว์ ชุมาพร ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด ผู้จัดงาน Bangkok Pride Festival 2025 เปิดเผยว่า การจัดเทศกาลเฉลิมฉลองเดือนแห่งไพรด์ มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย คาดว่า ปีนี้ มีประชาชนร่วมกิจกรรมขบวนพาเหรดกว่า 300,000 คน ซึ่งยังเป็นการดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะจีน เกาหลี และประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนเข้ามาอีกด้วย

เห็นได้จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยปี 2565 มีเข้าร่วมเดินขบวนพาเหรดกว่า 20,000 คน ปี 2566 มีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดเป็น 100,000 คน และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนปีนี้ คาดว่า จะพุ่งสูงถึง 300,000 คน ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นการท่องเที่ยวของไทย

“จีนเที่ยวไทยหด” น่าห่วง แห่เที่ยวประเทศอื่นเพิ่มขึ้น

ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วกว่า 13 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 600,000 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุดอันดับ 1 ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน อยู่ที่ราว 1,900,000 คน แต่ตัวเลขนี้ เป็นจำนวนที่ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ 2,900,000 คน

นักท่องเที่ยวที่ลดลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทั้งมัคคุเทศก์ ร้านค้า ร้านอาหาร ได้รับผลกระทบตามไปด้วย อย่างเจ้าของร้านขนมไทยรายหนึ่ง บอกว่า ปกติลูกค้ากว่าครึ่งเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ทำให้ปัจจุบัน ยอดขายลดลงไปกว่าครึ่ง

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว ระบุว่า ปัจจุบัน บริษัทนำเที่ยวประเทศจีน หันไปทำทัวร์ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย ประเทศเหล่านี้ ถือเป็นคู่แข่งด้านการท่องเที่ยวที่น่ากลัวมากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ และโครงสร้างพื้นฐาน ระบบคมนาคม ขณะที่ประเทศไทยพัฒนาช้ากว่ามาก

หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวจีน คือ ญี่ปุ่น ซึ่งมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 53 ขณะที่เที่ยวบินมาไทย กำลังถูกยกเลิก และลดลง ราชัน นภาแสง มัคคุเทศก์นำเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เห็นสัญญาณนักท่องเที่ยวจีน เข้ามาเที่ยวในญี่ปุ่นมากขึ้น โดยมีทุกกลุ่มอายุ ทั้งวัยทำงานที่เที่ยวเป็นกรุ๊ปทัวร์ และกลุ่มวัยรุ่นท่องเที่ยวด้วยตัวเอง โดยมองว่า ปัจจัยสำคัญ คือ เงินเยนอ่อนค่า และระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่สะดวก

ขณะที่ JTB บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยการท่องเที่ยวญี่ปุ่น คาดการณ์ว่า ในปีนี้ นักท่องเที่ยวจีน จะเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 33 อยู่ที่ประมาณ 9,300,000 คน ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่น ตั้งเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน 60 ล้านคน ภายในปี 2573

ด้าน KKP Research วิเคราะห์ นักท่องเที่ยวจีนที่หายไปจากไทย อาจไม่ใช่แค่ชั่วคราว แต่เป็นปัจจัยเชิงโครงสร้าง ที่ต้องใช้เวลา และความพยายามอย่างต่อเนื่องในการแก้ไข โดยเฉพาะเรื่อง ความปลอดภัย ซึ่งไม่สามารถสร้างคืนได้ในระยะสั้น และพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนไป เที่ยวในประเทศมากขึ้น เที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์น้อยลง

พร้อมเสนอภาครัฐควรวางแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การปรับปรุงมาตรฐานที่พัก การยกระดับความปลอดภัย การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ตอบโจทย์ และการสร้างประสบการณ์เชิงคุณภาพ

ขณะที่รัฐบาล เดินหน้าดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน ผ่านแคมเปญ “สวัสดี หนีห่าว” นำตัวแทนบริษัทนำเที่ยว สื่อมวลชน และ กลุ่มคนที่สามารถสร้างกระแส ให้ความรู้ หรือแนะนำข้อมูลได้ เดินทางสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 28 พ.ค.- 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมเตรียมจัดกิจกรรม Nihao Month อย่างยิ่งใหญ่ ช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ และวันชาติจีนในช่วงเดือน ต.ค.

อ่านข่าวอื่น :

อัปเดต 2568! บัตรทองอัปเกรดสิทธิ 30 บาทครอบคลุมทั่วไทย

หมูเด้งฮีลใจ “น้องออโต้” สานฝันความทรงจำอบอุ่นครั้งสุดท้าย

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thaipbs.or.th/news/content/352797&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw0gGTNaCdk1Yp6bK-jjQQGa

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *