AWC ทุ่ม 5 พันล้านบาท พลิกโฉมพื้นที่ประวัติศาสตร์ 3 แปลง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า AWC อยู่ระหว่างการลงทุนรวมกว่า 5,000 ล้านบาท ในการพลิกโฉมพื้นที่ประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ควบคู่ไปกับการบริการระดับอัลตร้าลักชัวรี เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่มาตรฐานสากล
โดยจะพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 3 แปลง ให้เป็น“โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์” ได้แก่ พื้นที่ฝั่ง เดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น ซึ่งเป็นพื้นที่เช่าระยะยาว และพื้นที่อีก 2 แปลงบริเวณถนนทรงวาด ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันครอบคลุมพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมห้องพักทั้งหมด 191 ห้อง เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวในสายน้ำเจ้าพระยา ภายใต้ AWC River Journey
โครงการนี้เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ เพื่อสร้างจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวระดับโลกที่ไม่ซ้ำใคร โดยผสานความหรูหราของแบรนด์ริทซ์-คาร์ลตัน เข้ากับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมไทย-จีน ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และการพัฒนาโครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างรายได้ระยะยาว แต่ยังสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลก
เปิดแผนลงทุน ฝั่ง เดอะ ล้ง 1919 เชื่อม ทรงวาด สร้าง River Journey
การพัฒนาพื้นที่ทั้ง 3 แปลง ครอบคลุมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบไปด้วย
- แปลงพื้นที่ฝั่ง เดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น จะเป็นโรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์ เป็นอาคารหลักสูง 20 ชั้น ประกอบไปด้วยห้องพักระดับลักชัวรี ห้องอาหารรูฟท็อปพร้อมวิวแบบพาโนรามา ห้องบอลรูมขนาดใหญ่ และห้องอาหารอีกหลากหลายแห่ง ในขณะที่อาคารเก่าแก่สองหลังจะได้รับการบูรณะเป็นห้องพักเพิ่มเติม พร้อมห้องอาหาร และศูนย์สุขภาพขนาดใหญ่ รวมห้องพักทั้งหมด 167 ห้อง และจะมีห้องพัก Presidential Suite ที่แพงที่สุดในประเทศไทยด้วย มีขนาดใหญ่ และรวมเข้ากับศูนย์เวลเนส
- ฝั่งทรงวาด (แปลงอาคาร Shophouse) จะพัฒนาเป็นโรงแรม Exclusive Suites จำนวน 24 ห้อง
- อีกแปลงฝั่งทรงวาด จะเป็นที่จอดรถและร้านอาหาร โดยพื้นที่จะเชื่อมต่อถึงกันด้วยบริการเรือไฟฟ้า เพื่อการเดินทางที่สะดวกและไร้รอยต่อ
ปัจจุบันได้ตอกเสาเอกเริ่มก่อสร้างแล้วในวันนี้ ในฝั่งล้ง 1919 การก่อสร้างเริ่มจากอาคารหลักด้านหลังก่อน เพื่อสร้างฮวงจุ้ยให้ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว มองออกสู่แม่น้ำ ก่อนจะดำเนินการในส่วนอาคารอนุรักษ์และพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
ส่วนแปลงอื่นๆจะทยอยก่อสร้างควบคู่กันไป คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี คาดว่าจะเปิดให้บริการ กลางปี 2571 โดยในส่วนห้องพักทั้ง 191 ห้อง จะเน้นห้องพักขนาด 2-3 ห้องนอน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของห้องพักทั้งหมด
การเชื่อมต่อกับโครงการอื่น
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ AWC River Journey Project ที่เชื่อมต่อแลนด์มาร์กต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ปากคลองตลาด และเวิ้งนครเกษม เยาวราช ในอนาคต โครงการมีเลานจ์ที่เอเชียทีคเพื่อให้บริการแก่แขกที่เดินทางผ่านเส้นทางสายน้ำ พร้อมโปรแกรมท่องเที่ยวแบบครึ่งวันและเต็มวัน
AWC มุ่งเป้าหมายสู่กลุ่มนักเดินทางคุณภาพระดับสากล ที่มองหาประสบการณ์เชิงลึกและคุณค่าทางวัฒนธรรม โดยไม่จำกัดสัญชาติ แต่เน้นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
“นักเดินทางรุ่นใหม่ไม่ได้มองหาแค่ที่พัก แต่ต้องการประสบการณ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ และสามารถนำไปเล่าต่อได้ ซึ่งตรงกับจุดเด่นของโครงการที่ผสานเรื่องราวประวัติศาสตร์กับการบริการระดับโลก”
แนวคิด Holistic Wellness Resort
อีกทั้งโครงการนี้ยังนำเสนอแนวคิดใหม่ด้วยการเป็น “Holistic Wellness Resort” ที่ผสานปรัชญาหยิน-หยางเข้ากับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยแบ่งประสบการณ์เป็น 2 ฝั่ง
- ฝั่งล้ง 1919: เน้นความสงบ รีแลกซ์ และการดูแลสุขภาพ
- ฝั่งทรงวาด: เน้นกิจกรรมสนุกสนาน การกิน การช็อป เชื่อมต่อไชน่าทาวน์
โครงการมุ่งหวังสร้างผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยใน 3 ด้าน ได้แก่
1. ยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว: สร้างจุดหมายปลายทางระดับอัลตร้าลักชัวรีที่ไม่มีที่ไหนเทียบได้
2. ส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน: ผ่านโครงการ AWC River Journey Project ที่เชื่อมต่อแลนด์มาร์กริมเจ้าพระยา
3. สร้างการจ้างงาน: ทั้งในช่วงก่อสร้างและดำเนินงาน พร้อมพัฒนาทักษะแรงงานในท้องถิ่น
การอนุรักษ์และมาตรฐานการก่อสร้าง
โครงการดำเนินการภายใต้การควบคุมของกรมศิลปากร เนื่องจากเดอะ ล้ง 1919 เป็นโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้ว การก่อสร้างใช้เทคนิคพิเศษเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนและปกป้องโครงสร้างอาคารเดิม
โครงการผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อขอรับรองมาตรฐาน Green Building ตามนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ AWC
การบูรณะดำเนินการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.พีรยา บุญประสงค์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) และอะแดปทีฟ ดีไซน์ แอนด์ ดอค จำกัด
ความร่วมมือกับแมริออท อินเตอร์เนชันแนล
AWC ร่วมมือกับแมริออท อินเตอร์เนชันแนลในการพัฒนาโครงการ โดยนำแบรนด์เดอะ ริทซ์-คาร์ลตันซึ่งเป็นแบรนด์ระดับอัลตร้าลักชัวรีมาดำเนินการ
มร.แบรด เอ็ดแมน รองประธานกรรมการประจำประเทศไทย กัมพูชา และเมียนมา แมริออท อินเตอร์เนชันแนล ระบุว่าโครงการเป็นตัวอย่างการผสานการอนุรักษ์วัฒนธรรมกับมาตรฐานการบริการระดับสากล
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thansettakij.com/business/tourism/629579&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3UURxKJVLLHGbg1S4JGI-e