วันที่ 6 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบทราบของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ว่าในพื้นที่เกาะพะงัน มีชาวต่างด้าวลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 และตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน เข้าตรวจสอบและจับกุม ซึ่งต่อมาสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ประกอบด้วย 1. นายลา มิน ไว อายุ 16 ปี สัญชาติ เมียนมา ได้ที่ ริมถนนสาธารณะ ม.8 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลาง ยาบ้า 1 เม็ด พร้อมแจ้งขอหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)” 2. นายเมา โค อา เทะ อายุ 25 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ ได้ที่ บ้านเช่าไม่มีบ้านเลขที่ ม.1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลาง ยาบ้า 1 เม็ด ,กระสุนลูกซองขนาดเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด ,กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 6 นัด แจ้งข้อหา“มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) และ มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย นำตัว ทั้ง 2 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันออกตรวจตราพื้นที่รับผิดชอบ เห็นนายลา มิน ไว อายุ 16 ปี สัญชาติ เมียนมาท่าทีมีพิรุธ พยายามที่จะเดินหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามและสั่งให้หยุด พร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอตรวจสอบ ได้แสดงท่าทีมีพิรุธ พูดจาวกไปวนมา เหงื่อออกตามร่างกายจำนวนมาก เจ้าหน้าตำตรวจได้ทำการขอตรวจค้นร่างกาย พบยาบ้า 1 เม็ด พร้อมให้การยอมรับว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของตนเองจริง ซึ่งได้มาจากเพื่อนที่ชื่อ นายเมา โค อา เทะ อายุ 25 ปี สัญชาติ เมียนมา พบว่ามีการถ่ายรูป ยาเสพติด รูปอาวุธปืน ไว้ในโทรศัพท์เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการขยายผลการจับกุมและได้ไปยังบ้านหลังดังกล่าว พบ นายเมา โค อา เทะ อายุ 25 ปี สัญชาติ เมียนมา นั่งอยู่บริเวณหน้าบ้าน ได้แสดงท่าทีมีพิรุธ และแสดงท่าทีที่จะหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งให้หยุดและแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงท่าทีที่จะปกปิดกระเป๋าสะพายข้างที่สะพายอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอตรวจค้นกระเป๋าใบ พบของกลาง ยาบ้า 1 เม็ด ,กระสุนลูกซองขนาดเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด ,กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 6 นัด ภายในกระเป๋าสีดำที่นายเมาฯสะพายอยู่ที่ตัว
เบื้องต้นสอบถามนายเมา ให้การยอมรับว่า ยาบ้าและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว เป็นของตนเองจริง โดยตนได้สั่งซื้อมาจากคนไทยไม่ทราบชื่อ ส่งมาจาก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ผ่านช่องทางเรือนอนข้ามฟาก สุราษฎร์ฯ-พะงัน โดยตนได้สั่งยาบ้ามาทั้งหมด 10 เม็ด, กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด และ กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 6 นัด โดยนายเมาฯให้การว่ายาบ้านั้นตนได้แบ่งให้กับเพื่อนๆและรวมถึงใช้เสพเอง
ส่วนอีกหนึ่งคดีตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ที่บริเวณ ม.3 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี มีชาวต่างด้าวทำงานเป็นช่างไม้อยู่ภายในบ้านสังกะสี ม.3 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ใช้เครื่องมือในการตัด เลื่อยไม้ ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านโดยรอบ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 เข้าตรวจสอบ พร้อมจับผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ 1. นายมานูเอล แวน เดน บูเวนแคมป์ อายุ 45 ปี สัญชาติ เนเธอร์แลนด์ แจ้งข้าหา “เป็นนายจ้าง จ้างบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ (ช่างไม้) และ เป็นนายจ้าง จ้างบุคคลต่างด้าวผู้ได้รับอนุญาตให้ทำงานไม่แจ้งให้ทราบถึงผู้เป็นนายจ้างสถานที่ทำงานของนายจ้างและลักษณะงานหลักที่ทำให้นายทะเบียนทราบ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เข้าทำงานกับนายจ้าง”
ขณะที่ 2. นายตา ตุน ไซ อายุ 36 ปี สัญชาติ เมียนมา พร้อมแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ (ช่างไม้) และ เป็นบุคคลต่างด้าวผู้ได้รับอนุญาตให้ทำงานไม่แจ้งให้ทราบถึงผู้เป็นนายจ้างสถานที่ทำงานของนายจ้างและลักษณะงานหลักที่ทำให้นายทะเบียนทราบ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เข้าทำงานกับนายจ้าง”จึงนำตัว ทั้ง 2 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดย นายมานูเอลให้การยอมรับว่า ตนได้ว่าจ้างนาย ตา ตุน ไซฯ ให้มาทำงานเป็นช่างไม้ภายในโกดัง ดังกล่าว จริง โดยให้ค่าจ้างวันละ 500 บาท เป็นเงินสดในทุกๆวันและจากการสอบถาม นายตา ตุน ไซ ทราบว่า ตนได้ถูกว่าจ้างโดย Mr.Manuel van den Bovenkamp สัญชาติ เนเธอร์แลนด์ ได้ว่าจ้างให้ตนมาทำงานเป็นช่างไม้ภายในโกดังดังกล่าว ซึ่งตนได้รับค่าจ้างจาก Mr.Manuel วันละ 500 บาท เป็นเงินสด
ด้าน คดีที่ 3 ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันได้รับแจ้งจากพลเมืองดี มีหญิงชาวอังกฤษ อาศัยอยู่ภายในห้องพักโดยไม่ได้ออกไปไหนเป็นระยะเวลานาน จึงได้ขอความช่วยเหลือให้ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันเข้าตรวจสอบ บริเวณบ้านพัก แห่งหนึ่งใน ม.1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าวจึงได้เดินตรวจสอบบริเวณรอบๆ พบว่ามีคนอาศัยอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เคาะประตู จนกระทั่ง นางสาวเทีย โคเล็ท เฟล็กแมน อายุ 56 ปีสัญชาติ อังกฤษ เปิดประตู เจ้าหน้าตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแสดงบัตรข้าราชการเพื่อขอตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่าอยู่เกินกำหนด จำนวน 1,880 วัน จึงได้แจ้งข้อหา“เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกินกำหนด 1,880 วัน)”พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามนางสาวเทียให้การยอมรับว่าตนได้อยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุดไปแล้วจริง เมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้ว นางสาวเทีย ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใดและอยู่ในราชอาณาจักรแบบผิดกฎหมายเรื่อยมา จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว
ด้าน พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำผบช.ทท.ได้กำชับหัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวนำร่องและพื้นที่ไกล้เคียงเร่งให้กวาดล้างการกระทำผิดของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ให้ดำเนินคดีเด็ดขาดไม่เว้นทุกกรณี เพื่อสร้างภาพลักษณการท่องเที่ยวสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว อย่างจริงจัง
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://siamrath.co.th/n/627123&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2viKeuaK_THR6sV__LJXZv