ชำแหละงบ 1.3 หมื่นล้าน บูสต์ท่องเที่ยว-กีฬา ชิงเค้กงบกระตุ้นเศรษฐกิจแสนล้าน

ชำแหละงบ-1.3-หมื่นล้าน-บูสต์ท่องเที่ยว-กีฬา-ชิงเค้กงบกระตุ้นเศรษฐกิจแสนล้าน
ชำแหละงบ 1.3 หมื่นล้าน บูสต์ท่องเที่ยว-กีฬา ชิงเค้กงบกระตุ้นเศรษฐกิจแสนล้าน

ชำแหละงบ 1.3 หมื่นล้าน กระทรวงท่องเที่ยว ชิงเค้กงบกระตุ้นเศรษฐกิจแสนล้าน

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอขอสนับสนุนวงเงินประมาณรวมกว่า 13,381 ล้านบาท สำหรับการลงทุนใน 184 โครงการ ในสังกัดของกระทรวงท่องเที่ยว รวมถึงโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนครอบคลุมทุกมิติของการพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาภายใต้กรอบงบวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท

สรวงศ์ เทียนทอง

ในขณะนี้แม้จะมีหลายกระทรวง เสนอขอใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ โดยมีคำขอใช้งบประมาณรวมกันประมาณ 400,000 ล้านบาท ในขณะที่กรอบงบประมาณ ที่รัฐบาลกำหนดไว้มีเพียง 157,000 ล้านบาทเท่านั้น ส่งผลให้คณะอนุกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องพิจารณาอย่างรอบ โดยให้สำนักงบประมาณ ซึ่งเป็นผู้กลั่นกรอง โครงการรอบแรก กลับไปทบทวนรายละเอียด ให้รอบครอบขึ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ซึ่งก็คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า

สำหรับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เราได้เสนอคำขอไปรวมทั้งสิ้น 13,000 กว่าล้านบาท ครอบคลุม 184 โครงการ ถือว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับความสำคัญของภาคการท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจของประเทศ และคาดว่าจะส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวมูลค่า 267,000 ล้านบาท

ทุกโครงการที่กระทรวงท่องเที่ยวเสนอเข้าไปต้องผ่านการกลั่นกรองแล้ว และสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ จะต้องมีการเซ็นสัญญาว่าจ้างภายในเดือนกันยายน 2568

ขอจัดสรรให้ททท.สูงสุด 9 พันล้านบาท เดินหน้าเที่ยวไทยคนละครึ่ง

สำหรับวงเงินที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯขอรับการสนับสนุน จะแบ่งออกเป็น

  1. สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา 9 โครงการ วงเงินงบประมาณ 166.8 ล้านบาท
  2. กรมการท่องเที่ยว 14 โครงการ วงเงิน 1,467 ล้านบาท
  3. กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว 3 โครงการ วงเงิน 414 ล้านบาท
  4. กรมพลศึกษา 28 โครงการ วงเงิน 309 ล้านบาท
  5. มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ 6 โครงการ วงเงิน 176 ล้านบาท
  6. การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) 99 โครงการ วงเงิน 1,752 ล้านบาท
  7. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 24 โครงการ วงเงิน 9,021 ล้านบาท
  8. องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรืออพท. 1 โครงการ วงเงิน 72 ล้านบาท

การจัดสรรงบประมาณครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูและพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่ง ในเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจไทย หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา

เปิดงบกระทรวงท่องเที่ยว ชงของบ 1.3 หมื่นล้าน ดัน 184 โครงการลงทุน

โดยทั้ง 184 โครงการ มั่นใจว่าโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” จะได้รับการดำเนินการเป็นลำดับแรก เป็นการต่อยอดจากความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยภายในประเทศ ช่วยสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

เพราะโครงการนี้เดิมอยู่ในงบที่ได้เสนอขอไว้ตั้งแต่แรก แต่เมื่อรัฐบาลมีการจัดตั้งกรอบงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ สำนักงบประมาณจึงได้แนะนำให้นำโครงการเข้าร่วมในกรอบดังกล่าว เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความเชื่อมโยงกับโครงการอื่นๆ ในภาพรวม จึงคาดว่าจะนำโครงการที่ผ่านการพิจารณาเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็วๆนี้

โดยหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีการเสนอขอวงเงินงบประมาณสูงสุด คือ “ททท.” ด้วยงบประมาณ 9,021 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 67% ของงบประมาณทั้งหมด หลักๆจะนำมาใช้ในโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” วงเงิน 1,780 ล้านบาท ล่าสุดปรับเงื่อนไขการใช้สิทธิ กำหนดจำนวนสิทธิอยู่ที่ 500,000 สิทธิ  โครงการสนับสนุนแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) วงเงิน 800 ล้านบาท

โครงการสนับสนุนเที่ยวบินเช่าเหมาลำ และเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ วงเงิน 750 ล้านบาท ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 790,000 คน ภายใต้โครงการนี้แบ่งการจัดสรรงบ 350 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จากประเทศจีนและตลาดอื่นๆ บินตรงเข้าไทย ด้วยการสนับสนุนเงิน 350,000 บาทต่อเที่ยวบินเช่าเหมาลำ จำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 เที่ยวบินจาก 15 เมืองรองของจีนเข้าสู่กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย พัทยา กระบี่ และสมุย คาดดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย 140,000 คน

นอกจากนี้ยังของบ 250 ล้านบาทเพื่อนำไปทำโปรโมชันร่วมกับเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ของสายการบินทั้งในไทยและต่างประเทศ คาดจะดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทยมากกว่า 500,000 คน และอีก 150 ล้านบาทสำหรับกระตุ้นตลาดเดินทาง เพื่อเป็นรางวัล (อินเซนทีฟ) และกลุ่มซัมเมอร์แคมป์

จัดเอ็กซ์คลูซีฟ คอนเสิร์ตระดับโลกในไทย

อีกทั้งกระทรวงจัดทำคำของบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อให้ ททท.จัดทำโครงการ Amazing Thailand Entertainment Hub ซึ่งเป็นการทำ Exclusive Concert และคอนเสิร์ตระดับโลกทั่วไป ดึงเอาศิลปินระดับโลกมาจัดแสดงที่ประเทศไทย และสนับสนุนงานคอนเสิร์ตที่ผู้ประกอบการของไทยเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์

ททท.มีการประสานเบื้องต้นกับบริษัทชั้นนำระดับโลกแล้ว รวมถึง Live Nation และบริษัทอื่นๆ ที่ดูแลศิลปินระดับโลก การลงทุนในโครงการคอนเสิร์ตนี้ จะเป็นกรอบงบประมาณ โดยขึ้นอยู่กับว่าจะติดต่อศิลปินใดได้บ้าง และรูปแบบการจัดงานจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการหลายรายมาก่อนหน้านี้แล้ว

เราวางเป้าหมายให้ประเทศไทยสามารถโชว์ศักยภาพการจัดคอนเสิร์ตระดับโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตลอดจนฐานแฟนคลับของศิลปินระดับโลกเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

การลงทุนในคอนเสิร์ตระดับโลก เพื่อดึงให้เข้ามาจัดในไทย จะสร้างผลตอบแทนในหลายมิติ ทั้งรายได้ทางตรง (Direct) และทางอ้อม (Indirect) ซึ่งรายได้ทางอ้อมจะมีสัดส่วนสูงกว่า เนื่องจากจะสร้าง Effect ต่อการท่องเที่ยวโดยรวม รายได้ทางอ้อมประกอบด้วย การใช้จ่ายรอบนอกของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมคอนเสิร์ต

การพักโรงแรม การซื้อสินค้าและบริการต่างๆ การใช้บริการขนส่ง และกิจกรรมท่องเที่ยวอื่นๆ ในระหว่างการมาเยือนประเทศไทย ไม่ใช่เพียงแค่รายได้จากค่าตั๋วเข้าชมเท่านั้น เมื่อมีศิลปินระดับโลกมาจัดคอนเสิร์ต จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในหลายหมื่นล้านบาท

ขณะที่งบในโครงการของกรมการท่องเที่ยว โครงการพัฒนาห้องน้ำสาธารณะ วงเงิน 400 กว่าล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ การซ่อมแซมห้องน้ำเดิมที่ชำรุด และการสร้างห้องน้ำใหม่ในพื้นที่ที่ขาดแคลน โครงการนี้จะดำเนินการในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สถานที่ท่องเที่ยวของกระทรวงวัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานต่างๆ ที่จะของบผ่านกระทรวงท่องเที่ยวฯ ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ

เนื่องจากกระทรวงท่องเที่ยวฯ ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวหรือสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นของตนเอง การพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ห้องน้ำสาธารณะ จะต้องดำเนินการในสถานที่ท่องเที่ยวของหลายหน่วยงาน ทำให้ต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีนโยบายชัดเจนว่า ไม่ให้มีการซ่อมสร้างอย่างเดียว แต่ต้องมีงบประมาณประจำในการจ้างพนักงานดูแลความสะอาดตลอดเวลาด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าห้องน้ำเหล่านี้จะได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องและมีมาตรฐานที่ดี

ในส่วนของโครงการของ “อพท.” 1 โครงการ วงเงิน 72 ล้านบาท จะเป็นโครงการก่อสร้างโรงจำกัดขยะแบบครบวงจร ที่เกาะช้าง จ.ตราด ดำเนินการเรื่อง Waste Management เพื่อส่งเสริมให้เป็น World Class Destination

ดันการกีฬาสูงสุด 99 โครงการ บูสต์ท่องเที่ยว-กีฬา

ในด้านการของบสนับสนุนของ “การกีฬาแห่งประเทศไทย” ส่วนใหญ่เป็นงบลงทุนปรับปรุงสนามกีฬาต่างๆ ทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค เช่น สนามราชมังคลากีฬาสถาน อินดอร์ สเตเดียม และสนามเฉลิมพระเกียรติ ที่โคราช เป็นต้น การเตรียมความพร้อมสำหรับการจัด SEA Games ก็ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงและพัฒนาสถานที่กีฬาต่างๆ ให้ได้มาตรฐานสากล รวมถึงการซ่อมแซมและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และมีบางส่วนเกี่ยวกับการจัดอบรมสร้างบุคลากรทางกีฬากระจายลงในภูมิภาคทั่วประเทศ

ขณะที่การขอสนับสนุนงบของ “กรมพละศึกษา” จะเป็นการพัฒนาสนามกีฬาของกรมพลศึกษา โดยเฉพาะสนามที่สร้างแล้ว แต่ถ่ายโอนไม่ได้ หรือถ่ายโอนแล้ว แต่ไม่มีการดูแลรักษาหรือที่เรียกว่า “ปล่อยร้าง” ปัญหานี้เกิดขึ้นมานานและสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของรัฐ เมื่อมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมา จึงได้นำเรื่องนี้เข้ามาแก้ไข โดยมุ่งเน้นให้โอกาสเด็กและเยาวชนในต่างจังหวัดได้ใช้ประโยชน์จากสนามกีฬาเหล่านี้ให้มากที่สุด ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาของเยาวชนไทยและสร้างโอกาสให้กับการกีฬาระดับฐานราก

ทั้งหมดล้วนเป็นในการเสนอขอใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แต่เม็ดเงินจริงจะได้เท่าไหร่ ยังคงต้องรอดูกันต่อไป

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,104 วันที่ 12 – 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thansettakij.com/business/tourism/629692&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw1rM9dJOGS_4V4JIhdizbFl

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *