ทั้งหมดนี้ ผู้ประกอบการไทย SME ไทย จะได้รับประโยชน์ตรงนี้อย่างแน่นอน และผมคิดว่านี่คือโอกาสที่ประเทศไทยไม่ควรจะพลาดไป ประเทศไทยไม่ใช่ที่แรก เพราะที่ผ่านมา เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถูกพูดถึงและเป็นโครงการที่หลายประเทศกำลังมุ่งไป โดยคาดการณ์โอกาสในตลาดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์สูงถึง 54 ล้านล้านบาท/ปี
ขอยกตัวอย่างข้อมูลรายได้ต่อปีจากสถานบันเทิงครบวงจรปี 2022 ของประเทศเวียดนาม คือ 1.8 แสนล้านบาท/ปี , เกาหลีใต้ 3.2 แสนล้านบาท/ปี , สิงคโปร์ 4.3 แสนล้านบาท/ปี , ญี่ปุ่นที่กำลังจะเปิดในปี 2030 เป็นต้น ข้อมูลตัวเลขจากประเทศเพื่อนบ้านแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน
ส่วนโมเดลการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของไทย คือ โมเดลเหมือนสิงคโปร์ UAE และที่ญี่ปุ่นกำลังทำ นั่นคือจํากัดจํานวน เช่น ให้มีจํานวนน้อย แล้วบังคับให้การลงทุนเป็นการลงทุนขนาด mega size เท่านั้น (XXL 100,000 ล้านบาทขึ้นไปเท่านั้น) โมเดลนี้จะมาพร้อมกับการลงทุนขนาดใหญ่ที่เข้ามา
สิ่งที่เราจะได้คือการยกระดับตัวอุตสาหกรรมขึ้นมาทั้งหมด และมาพร้อมกับมาตรฐานการกํากับดูแลระดับโลกด้วย เพราะเราต้องการดึงมาตรฐานระดับโลก ดึง global best practice เข้ามา ประกอบกับ local governance ของเรา เพื่อสร้างมาตรการในการป้องกัน มาตรฐานในการกํากับดูแลที่เข้มแข็งที่สุด
ทั้งนี้ จุดที่เราศึกษาอยู่ใกล้กับแหล่งคมนาคมขนส่ง และที่สําคัญคืออยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เพราะเราตั้งใจว่า เมื่อมี Entertainment Complex แล้ว นอกจากเราจะดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามา เราต้องการให้ผู้คนมาเที่ยวที่นี่แล้วก็ไปเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวข้างๆ ด้วย โดยกระจายรายได้ออกไปให้ทุกภาคส่วนกว้างขวางที่สุด
นายศึกษิษฏ์ ย้ำว่า Entertainment Complex ไม่ใช่การพนันออนไลน์ เป็นคนละเรื่อง แยกกันอย่างชัดเจน ใน พ.ร.บ. ระบุไว้ชัดเจนว่า พนันออนไลน์ไม่อนุญาตให้เกิดขึ้นในนี้ และรัฐบาลก็เดินหน้าปราบปราม และกําจัดพนันออนไลน์ด้วย ซึ่งเราปิดเว็บไซต์ไป 90,000 กว่าเว็บฯ ปิดบัญชีม้าไปประมาณ 700,000 กว่าบัญชี วันนี้เราต้องการการลงทุนที่เรียกว่า on land คือลงทุนเป็น land-based Entertainment Complex ที่มีการลงทุนเกิดขึ้นจริง ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานจริง มีเงินเข้ามาในประเทศจริง มีการจ้างงานจ้างอาชีพจริงๆ
ส่วนเรื่องของกาสิโน ผมขอย้ำว่า ไม่ใช่ทุกคนที่เข้าได้ และ กาสิโนจะอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย และมาตรฐานการดูแลระดับโลก ตั้งแต่มาตรการดูแลผู้เล่นในกาสิโน , การห้ามเข้า , มีการลงทะเบียนและติดตามผู้เล่น รวมถึงมีมาตรการดูแลเพื่อสังคม เช่น การสนับสนุนทุนการศึกษา , การทำ CSR เพื่อสังคม และการป้องกันเยียวยาด้วย
“ขอยืนยันว่าเป็นการลงทุนที่ไม่ต้องใช้เงินภาษีจากพี่น้องประชาชน เพราะเป็นการลงทุนโดยเอกชน แต่สิ่งที่จะได้คือ เราจะเกิดรายได้ตั้งแต่ช่วงก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างเกิดขึ้นในไทยแน่นอนสินค้า โต๊ะ ตู้ เตียง ต่างๆ ผ้าห่ม หมอน ต่างๆ ของเมืองไทยแน่นอน และการจ้างงานทุกอย่างเป็นคนไทย 100%
ส่วนหลังเปิดให้บริการแล้ว ก็จะสามารถ ช่วย GDP ไปได้ ถึง 0.2-0.8% ตามการคาดการณ์ ซึ่งผมคิดว่าสามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้สูงกว่านี้ด้วยซ้ำ นอกจากนี้ จะสร้างรายได้ให้การท่องเที่ยว 1-2 แสนล้านบาท จากกิจกรรมที่ที่พูดไปข้างต้น คือ คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สวน สวนสนุก มิวเซียม เรือยอร์ช สิ่งเหล่านี้สามารถยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเราได้ชัดเจน จะเกิดการจ้างงาน 9,000-15,000 อัตรา เพราะสิงคโปร์ แค่มารีน่าเบย์แซนด์เจ้าเดียว ก็เกิดการจ้างงานกว่า 12,000 อัตราเข้าไปแล้ว
ทั้งยังเพิ่มการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ประมาณการว่า 22,300 บาท/คน/ทริป เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้น 5-20% ต่อปี เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวช่วง Low Season ขึ้น 13% ทำให้การท่องเที่ยวสม่ำเสมอทั้งปี ไทม์ไลน์การลงทุนยังอีกยาวไกล
ปัจจุบันเราอยู่ที่จุดเริ่มต้น คือการทำกฎหมายเท่านั้น เฉพาะแผนการทำงานคาดว่าจะกินเวลาราว 3 ปี และทุกนาทีที่เสียไป เท่ากับ โอกาส ที่ประเทศไทยเสียไปเช่นกัน” นายศึกษิษฏ์ กล่าว
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.nationtv.tv/politic/378962295&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2ntLIvel-rMpANNfjPjyZS