ปลายเดือนเม.ย. 68 ที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน เปิดตัวโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเนื่องในวันการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (China Tourism Day) ครั้งที่ 15 เริ่มตั้งแต่ 19-31 พ.ค. 68 โครงการนี้มีมาตรการอันเป็นประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยวทั่วจีน 6,000 รายการ มีการจัดสรรเงินอุดหนุนกว่า 1,000 ล้านหยวน (ประมาณ 4,500 ล้านบาท) ให้แก่องค์กรที่ทำงานร่วมกันกว่า 60 แห่ง รวมถึงเหม่ยถวน (Meituan) และอาลีเพย์ (Alipay)

โดยมีจุดมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวขาเข้าจีน มีการจะทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่การท่องเที่ยวขาเข้าและนำเสนอผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวหลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งเชิญบริษัทนำเที่ยวในต่างประเทศมาลงพื้นที่ และเจรจาธุรกิจในจีน รวมถึงประชาสัมพันธ์ทรัพยากรการท่องเที่ยวของจีนในต่างประเทศ

ข้อมูลจากสำนักบริหารการตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีน ระบุว่าปริมาณการเดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่จีนของชาวต่างชาติช่วงไตรมาส 1/68 สูงถึง 17.44 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 33.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ล่าสุดธนาคารซิตี้แบงก์ระบุว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจีนอาจมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับ 1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 5 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2569 หลังจากจีนพยายามกระจายความเสี่ยงออกมาจากอุตสาหกรรมการผลิต สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการมากขึ้น

เห็นได้จากนโยบายของจีนที่มีการออกมาตรการสำคัญ ๆ รองรับนักท่องเที่ยวขาเข้า เพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ โดยช่วงเดือนพ.ค. 68 ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนออกมาตรการเพิ่มให้ประชาชนจาก 9 ประเทศ ในทวีปอเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง มาพักอาศัยในจีนไม่เกิน 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่าและล่าสุดมอบสิทธินี้เพิ่มเป็น 47 ประเทศ ทั่วโลก 

ย้อนไปช่วงเดือนธ.ค. 67 จีนปรับนโยบายการเดินทางผ่าน โดยอนุญาตให้นักเดินทางที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า สามารถอยู่ในประเทศถึง 10 วัน หรือ 240 ชั่วโมง จากที่อนุญาตให้เพียง 72 หรือ 144 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสัญชาติของนักเดินทาง) 

พร้อมกันนี้นักท่องเที่ยวสามารถรับสิทธิลดหย่อนภาษีง่ายขึ้น หลังรัฐบาลปรับลดเงื่อนไขการซื้อขั้นต่ำจาก 500 หยวน มาอยู่ที่ 200 หยวน ช่วงเดือนเม.ย. 68 ที่ผ่านมา และจีนความพยายามของบริษัทที่ดำเนินการระบบชำระเงินและธนาคารกลางของประเทศ ในการเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานให้เหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติ 

มาตรการเหล่านี้ ถือว่ามีความสำคัญต่อการดึงดูดนักท่องเที่ยวขาเข้า ให้มีปริมาณกลับมาเท่ากับช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีน บ่งชี้ว่า ปี 2567 นักท่องเที่ยวต่างชาติมีการใช้จ่ายรวมมากถึง 94,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 77.8% ผลักดันผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เติบโต 0.5%

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวฮ่องกง มาเก๊าและไต้หวัน คิดเป็น 80% ของนักท่องเที่ยวขาเข้าทั้งหมด 131 ล้านคนช่วงปี 2567 อย่างไรก็ตามแนวโน้มนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่น ๆ มีแนวโน้มอยู่ข่วงขาขึ้น โดยช่วงไตรมาส 1/68 นักท่องเที่ยวต่างชาติมีอัตราเพิ่มขึ้น 40.2% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน

ความพยายามของรัฐบาลปักกิ่ง กำลังเริ่มแสดงผลจากจุดหมายท่องเที่ยวจีน กำลังเป็นที่น่าสนใจและนักท่องเที่ยวต่างชาติ กำลังเสาะหาประสบการณ์จีนที่แท้จริง นอกจากนี้เมืองรองต่าง ๆ และจุดท่องเที่ยวท้องถิ่น รับผลประโยชน์จากแนวโน้มนี้เช่นกัน อย่าง “จางเจียเจี้ย” ที่กลายเป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยวชาวเกาหลี

“ภาวะเงินฝืด” และค่าเงินหยวนที่อ่อนตัวของจีนอาจผลักดันให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายมากขึ้น หากดีมานด์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดทั้งปี เชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 40%”

นอกจากนี้รายได้จากนักท่องเที่ยวขาเข้าปีนี้อาจเพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน มาที่ 8.8 แสนล้านหยวน อาจเพิ่มการเติบโต GDP ได้ประมาณ 0.15% และช่วยสนับสนุนตลาดแรงงาน โดยมีการประเมิณว่าอาจสร้างอาชีพนอกภาคการเกษตรถึง 500,000  ตำแหน่ง

นี่คือคำตอบชัดว่า…ทำไมยอดนักท่องเที่ยวเข้าไทย..ถึงถดถอยเช่นนี้..!!