โฆษกรัฐบาลยกภารกิจนายกฯแพทองธาร เยือนยุโรป สร้างผลงานเด่น 4 ด้าน เตรียมดันประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ F1 ภายในปี 2571
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการเยือนสหราชอาณาจักรและราชรัฐโมนาโก ระหว่างวันที่ 21–25 พฤษภาคม ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการเดินทางที่ประสบความสำเร็จในหลายมิติ แม้จะเป็นคณะเล็กและใช้เวลาสั้นเพียง 4 วัน แต่สามารถสร้างผลสัมฤทธิ์ชัดเจนใน 4 เรื่องสำคัญ ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การค้า และการท่องเที่ยว
นายจิรายุ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีไม่กังวลกับกระแสโจมตีในโซเชียลมีเดีย เพราะข้อมูลหลายประเด็นไม่เป็นความจริง และยืนยันว่าการเดินทางครั้งนี้มีเป้าหมายชัด คือการสร้างโอกาสใหม่ให้ประเทศ โดยเฉพาะการผลักดันวาระ Soft Power และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยสู่เวทีโลก
ไทยเดินหน้าสู่เจ้าภาพ F1 ปี 2571
หนึ่งในความคืบหน้าที่โดดเด่น คือการที่นายกรัฐมนตรีเสนอแนวคิดให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง (Formula 1 – F1) ภายใต้แนวทาง “Sustainable F1” ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริหารระดับสูงของ F1 เป็นอย่างดี คาดว่าไทยจะสามารถเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติหลักการในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ ก่อนเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้และจัดทำแผนดำเนินการ โดยมีเป้าหมายเป็นเจ้าภาพภายในปี 2571
การจัด F1 จะดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชน มูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านบาท และสามารถสร้างรายได้จากกิจกรรมเสริม เช่น การท่องเที่ยว งานโชว์ ยานยนต์ คอนเสิร์ต และสิทธิถ่ายทอดสด รวมแล้วอาจมีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 100,000 ล้านบาท
ดัน Soft Power มวยไทยสู่ระดับโลก
ภารกิจที่สองคือ การผลักดันอุตสาหกรรมวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะ “มวยไทย” ซึ่งได้รับความนิยมในยุโรป โดยนายกรัฐมนตรีมีนโยบายจัดตั้งสถาบันระดับนานาชาติเพื่อออกแบบหลักสูตรฝึกสอนมาตรฐาน ครอบคลุมทั้งครูมวย นักมวย กรรมการ พี่เลี้ยง และค่ายมวย พร้อมสนับสนุนแพลตฟอร์มเชื่อมโยงโรงยิมไทยกับต่างประเทศ เพื่อส่งออกทักษะและขยายวิชาชีพเชิงวัฒนธรรม
เร่งเจรจา FTA ไทย–อังกฤษ ขจัดอุปสรรคทางการค้า
ผลสัมฤทธิ์ประการที่สาม คือ การมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) หรือ mini-FTA กับสหราชอาณาจักร เพื่อเปิดตลาดใหม่ให้สินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ลดภาษีศุลกากร เพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ และยกระดับความปลอดภัยของสินค้าให้สอดคล้องกับมาตรฐานยุโรป
กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวยุโรป–เจาะกลุ่มไฮเอนด์
ภารกิจสุดท้ายคือ การขยายตลาดท่องเที่ยวยุโรป โดยนายกรัฐมนตรีได้หารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสายการบินรายใหญ่ เช่น Trailfinders และ Emirates เพื่อเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างไทยและยุโรป พร้อมสนับสนุนการจัดทำแพ็กเกจร่วมกับ ททท. เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายสูงและนิยมท่องเที่ยวแบบหรูหรา
นายจิรายุย้ำว่า การเดินทางของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในสายตานานาชาติ แต่ยังเป็นการวางรากฐานเชิงยุทธศาสตร์ให้ไทยก้าวสู่เวทีโลก ผ่านมิติใหม่ของเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และความร่วมมือระดับสากล ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศในช่วงเวลาที่ทั่วโลกเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ.
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.posttoday.com/politics/724572&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3eOfMEAL6mjmpwBH0uiFHe