น.ส.ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือนภายหลังการจัดกิจกรรมแฟมทริป “สวัสดี หนีห่าว” ที่ ททท.ร่วมกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) สมาคมโรงแรม สมาคมสายการบินประเทศไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พ.ค.-1 มิ.ย. 2568 คงจะสามารถประเมินได้ชัดเจนว่า ในปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะยังกลับมาเที่ยวประเทศไทย และททท.จะสามารถขยับหนีจากกรณีเลวร้ายสุดที่ประเมินกันภายในว่า นักท่องเที่ยวจีนตลอดทั้งปีจะเหลือเพียง 5 ล้านคนได้หรือไม่ เนื่องจากการจัดงานครั้งนี้ได้เชิญเอเย่นต์ทัวร์ของจีน 400 คน จากทุกมณฑลทั่วจีนและบรรดาสื่อมวลชนจีน อินฟลูเอนเซอร์ และผู้นำทางความคิด (Key Opinion Leader: KOL) ชาวจีนมาไทย 200 คน รวมเป็น 600 คน
“เป้าหมายที่ ททท.ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้นปีคาดไว้ว่าตลาดนักท่องเที่ยวจีนของปีนี้อยู่ที่ 8 ล้านคน แต่มาถึงตอนนี้พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 พ.ค. 2568 นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยแล้ว 3.7 ล้านคน ลดลงไปถึง 32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความไม่เชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยของชาวจีนที่มีต่อประเทศไทย ที่ซ้ำเติมหนักมากคือ กรณีของนักแสดงชาวจีน ซิง ซิง ถูกลักพาตัวข้ามไปฝั่งเมียนมาเมื่อเดือน ม.ค. และข่าวสารในโลกออนไลน์ของจีนจนถึงตอนนี้ก็ยังมีภาพลบของประเทศไทย ทำให้คาดว่านักท่องเที่ยวจีนตลอดปีนี้จะเหลืออยู่ที่ 6.9 ล้านคน มากกว่าปี 2567 ที่มี 6.7 ล้านคน แต่ในกรณีเลวร้ายสุดจะเหลือเพียง 5 ล้านคน ซึ่งททท.ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น”
น.ส.ภัทรอนงค์ กล่าวว่า ททท.ในฐานะทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ประเทศไทยก็ต้องทำให้ดีที่สุด และยังเหลือเวลาส่งเสริมตลาดในปีนี้อีกหลายเดือน บนความคาดหวังว่าจะไม่มีข่าวทางลบเกี่ยวประเทศไทยอีก โดยกิจกรรมสวัสดีหนีห่าวจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยให้ดีขึ้น ในพิธีเปิดงานวันที่ 29 พ.ค. 68 ทาง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา จะช่วยสื่อสารถึงความตั้งใจของรัฐบาลไทยในการดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวจีน และภายในงานนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยจะมานำเสนอแหล่งท่องเที่ยวหรือมุมมองใหม่ๆ ของประเทศไทยด้วย ตั้งเป้าว่างานครั้งนี้สร้างการรับรู้ให้ชาวจีน 350 ล้านคน-ครั้ง เกิดการนัดหมายทางธุรกิจ 5,000 นัดหมาย
โดยระหว่างวันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย. 2568 จะนำเอเย่นต์ทัวร์ชาวจีนไปดูเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ รวมทั้งพาไปชมสวนทุเรียน ส่วนสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ และ KOL แบ่งไป 5 เส้นทาง เช่น ในกรุงเทพฯ จะพาไปเปิดช็อป Wacoal Yaowarat Space ย่านถนนเยาวราช ไปล่องเรือรอบเกาะชมวัดอยุธยา ไปชมสวนทุเรียน จ.ระยอง ดูสินค้าออร์แกนิก จ.นครปฐม และสินค้าเวลเนสส์ สปา ที่พัทยา
“การจัดงานครั้งนี้มีสัญญาณที่ดี เพราะจากที่จะเชิญเอเย่นต์จีนมา 300 รายก็เพิ่มเป็น 400 ราย หรือการเชิญสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ หรือ KOL มีการตอบรับอย่างรวดเร็วที่จะร่วมเดินทางมาไทย จากในช่วงหนึ่งเดี๋ยวบอกว่าจะมาแล้วไม่มา หรือขอยกเลิกไป ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้บริษัทโฮลเซลขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของจีนที่ขายสินค้าท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีไทยเป็นตลาดหลัก ก็จัดโปรแกรมนำเอเย่นต์ทัวร์จีน ตลอดจนพนักงานที่ทำหน้าที่แนะนำและขายแพ็คเกจทัวร์ ที่ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง เดินทางมาไทยเอง เพราะเขามองว่าไทยยังเป็นตลาดท่องเที่ยวสำคัญที่ขายได้”
รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า นอกจากตลาดจีนที่ลดลงพบว่า ตลาดฮ่องกง ซึ่งรับข้อมูลข่าวสารของไทยเหมือนชาวจีนได้รับลดลง 22% ตลาดเวียดนาม ลดลง 16% เพราะสายการบินของเวียดนามเปลี่ยนเส้นทางจากไทยไปจีนเพื่อทำตลาดจีนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีเที่ยวบินมาไทยลดลงและมีข้อมูลทางลบเกี่ยวกับประเทศไทย เช่น มีการระบาดของโควิด-19 ด้านเกาหลี ลดลง 15% ตั้งแต่สายการบินเจจู แอร์ ไถลออกนอกรันเวย์ที่เกาหลีใต้ ซึ่งมีต้นทางมาจากไทยจึงถูกกระทบไปด้วย และมีปัญหาการเมืองในประเทศ ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวชะงักไปด้วย อย่างไรก็ตาม มีตลาดที่ขยายตัว ประกอบด้วย อินเดีย +16% ออสเตรเลีย +16% อินโดนีเซีย +1% ฟิลิปปินส์ +32% เป็นต้น
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thairath.co.th/money/economics/thai_economics/2859992&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw1GCLj6e7UL6ZUgKCznTv5Q