เปิดชีวิต ‘สารวัตรแชมป์’ กอส.39 เส้นทางตำรวจเหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิต | เดลินิวส์

จากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ทำให้หลายคนเริ่มมองหน้าหาสถานที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ แต่กลับเจอ “ที่พักทิพย์” เสียทั้งเงิน และความรู้สึก กรณีตำรวจท่องเที่ยว ภายใต้การอำนวยการ พ.ต.อ.กรฤวิศวร์ ทองศรีวาณิช ผกก.1 บก.ทท.3 มอบหมายให้ พ.ต.ต.ธนภัทร ทองไพบูลย์ สว.กก.1 บก.ทท.3 นำกำลังจับกุม นางราตรี (นามสมมุติ) ผู้ต้องหา หลอกจองที่พัก ในอ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารเพจเฟซบุ๊กปลอม หลังมีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความถูกหลอกโอนเงินค่าจองที่พักโดยเสนอโปรโมชัน และราคาที่น่าสนใจ เหยื่อหลงเชื่อโอนเงิน แต่เมื่อถึงกำหนดเข้าพักก็ไม่สามารถติดต่อเพจดังกล่าวได้ และปิดเพจนี้ไป สร้างผลกระทบและความเสียหายให้กับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

“ดาวประดับฟ้า” สัปดาห์นี้ จึงขอพาไปทำความรู้จัก พ.ต.ต.ธนภัทร ทองไพบูลย์ สว.กก.1(สืบสวน) บก.ทท.3 ชื่อเล่นว่า “แชมป์” เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2532 ปัจจุบันอายุ 35 ปี พื้นเพเป็นคนหนองคาย เมื่ออายุประมาณ 9 ปี ได้ย้ายตามบิดามารดา มาอยู่ที่ขอนแก่น และปัจจุบันย้ายบ้านมาอยู่กรุงเทพฯ จบการศึกษาชั้นมัธยมจาก โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ต่อคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนสอบเข้ารับราชการตำรวจ (ตำรวจท่องเที่ยวเปิดรับตรงรุ่นแรก ระดับสัญญาบัตร) และ เข้าอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอส.) รุ่นที่ 39

เส้นทางชีวิตข้าราชการ “เริ่มบรรจุ รอง สารวัตร สถานีตำรวจท่องเที่ยวอุดรธานี และต่อมา ได้รับโอกาสให้มาช่วยราชการที่กรุงเทพฯ และได้เรียนรู้หน้างานตำรวจท่องเที่ยวจากที่นี่ จนกระทั่งได้ย้ายมาเป็นตัวจริงที่ สถานีตำรวจท่องเที่ยว2 กรุงเทพ รับผิดชอบพื้นที่ บก.น.4-6 และต่อมาได้ย้ายไปหาประสบการณ์ในหน้างานสืบสวน ที่ กองกำกับการควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว หรือ กก.คธม.บช.ทท. ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น กองกำกับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และเมื่อครองตำแหน่งรองสารวัตรได้ครบ 7 ปี ก็ได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง สารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวกาญจนบุรี (สว.ส.ทท.1บก.ทท.3) และเมื่อมีการปรับโครงสร้าง บช.ทท. ก็ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งสารวัตรสืบสวนรับผิดชอบหน้างานสืบสวนในพื้นที่ 8 จังหวัด ของ ภ.7 (สว.กก.1สืบสวน บก.ทท.3) จนถึงปัจจุบัน”

สารวัตรแชมป์ เล่าว่า “ผมว่ามันคือโชคชะตา ฟ้าลิขิตเหมือนกันนะครับ ผมเห็นประกาศรับสมัครสอบในอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการรับสมัครสอบพอดี จึงลองสมัครสอบดู ปรากฎว่าผมสอบข้อเขียน (ทั่วไป) ติดอันดับสำรอง จนกระทั่งทดสอบภาษาอังกฤษและทดสอบสมรรถภาพร่างกาย มีผู้ไม่ผ่านการทดสอบจำนวนมาก แต่ผมทดสอบผ่าน จึงได้มาเป็นตำรวจท่องเที่ยวจนถึงทุกวันนี้ครับ”

เพื่อนร่วมร่น อาทิ พ.ต.ต.สมชนก ชัยประเสริฐสกุล สว.กก.2 บก.ทท.1 (สืบสวน), พ.ต.ต.รชา มากมณี สว.กก.2 บก.ป. และ พ.ต.ต.เจตน์ ยุทธโยธิน สว.กก.สส.บก.ตม.1

ทัศนคติหรือวิสัยทัศน์การทำงาน “ใจเขา ใจเรา ผมว่า คำนี้ใช้ได้กับทุกเรื่อง เช่น เรื่องคน เราอยากให้เขาปฏิบัติอย่างไรกับเรา เราก็ควรปฏิบัติแบบนั้นให้เขาก่อน หากปฏิบัติแล้ว เขาไม่ปฏิบัติตอบ เราก็จะได้คัดคนออกไปได้ หรือเรื่องงาน ยิ่งเราเป็นตำรวจท่องเที่ยว มีหน้าที่ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย หากนักท่องเที่ยวเดือดร้อน ขอความช่วยเหลือ เราก็ควรที่จะเข้าใจความรู้สึกเขา ถ้าเราเป็นเขา อยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขาในต่างประเทศ และไม่รู้จักใคร เราจะเป็นอย่างไร ต้องการสิ่งไหน เมื่อคิดได้แบบนี้ ผมก็จะพยายามแก้ปัญหาให้นักท่องเที่ยวเขาแฮปปี้ที่สุด แต่อยู่ภายใต้ความถูกต้องของกฎหมาย“