พิชัย สั่งล้างบางธุรกิจผิดกฎหมายบ่อยทำลายเศรษฐกิจไทย

พิชัย-สั่งล้างบางธุรกิจผิดกฎหมายบ่อยทำลายเศรษฐกิจไทย
พิชัย สั่งล้างบางธุรกิจผิดกฎหมายบ่อยทำลายเศรษฐกิจไทย

พิชัย สั่งล้างบางธุรกิจผิดกฎหมายบ่อยทำลายเศรษฐกิจไทย

พิชัย เดินหน้านโยบายล้างบางธุรกิจผิดกฎหมายทั่วประเทศ ตรวจเข้มนอมินี 46,918 ราย เริ่ม 4 จังหวัดเป้าหมาย ป้องกันบ่อนทำลายเศรษฐกิจไทย

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่กระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงและผู้แทนจาก 17 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมเพื่อเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งจัดการปัญหาสินค้าไร้คุณภาพ ธุรกิจต่างชาติที่หลบเลี่ยงกฎหมาย และธุรกิจนอมินีที่บ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจไทย

นายพิชัย ระบุว่า ได้กำชับให้ทุกหน่วยเดินหน้าเต็มที่ภายใต้ 4 แนวทางหลัก ได้แก่ 1) บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับแพลตฟอร์ม e-Commerce 2) ตรวจสอบคุณภาพสินค้านำเข้าทุกช่องทางโดยเฉพาะในเขตปลอดภาษี (Free Zone) 3) เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อจับตาการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า และ 4) ปรับปรุงกฎหมายขนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศ (Transshipment) ให้ทันต่อกลยุทธ์เลี่ยงภาษี

จากสถิติตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ถึงพฤษภาคม 2568 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินคดีกับสินค้าผิดกฎหมายแล้ว 57,739 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 2,287 ล้านบาท จัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าราคาต่ำกว่า 1,500 บาทได้ถึง 1,875 ล้านบาท และลบสินค้าผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์มออนไลน์กว่า 14,976 รายการ อีกทั้งยังปราบปรามธุรกิจนอมินีแล้ว 861 ราย มูลค่าความเสียหายสูงถึง 15,296 ล้านบาท

ในด้านการปราบปรามนอมินี นายพิชัยย้ำว่า ได้สั่งตรวจสอบเชิงรุกนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยง 46,918 ราย โดยเฉพาะใน 4 จังหวัดเป้าหมาย คือ ชลบุรี กรุงเทพฯ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี พร้อมตั้งคณะทำงานระดับจังหวัด บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับหน้าที่กำกับ ตรวจสอบ จับกุม และดำเนินคดีให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี โดยช่วง 6 เดือนแรกจะดำเนินการครอบคลุม 69 จังหวัดก่อน

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เสริมว่า รัฐบาลกำลังเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ฟอกเงิน โดยเพิ่ม “การเป็นนอมินี” เป็นความผิดมูลฐาน ซึ่งจะเปิดทางให้ยึดทรัพย์บริษัทที่กระทำผิดได้ ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านการรับฟังความคิดเห็นแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา

“นี่คือการเดินหน้าตามนโยบายเชิงรุกของรัฐบาลอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่ตรวจสอบย้อนหลัง แต่ต้องป้องกันไม่ให้เกิดผู้กระทำผิดรายใหม่ เพื่อคุ้มครองผู้ประกอบการที่สุจริต และฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจไทยให้โปร่งใสและเข้มแข็ง” นายพิชัยกล่าว

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.posttoday.com/business/725696&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3DfuNGDXUWoDrS4Kh0ffHi

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *