“พิชัย” ลุยเมืองเลย-อุดรฯ หนุนสร้างรายได้เกษตรกรยกระดับเศรษฐกิจภูมิภาค

“พิชัย”-ลุยเมืองเลย-อุดรฯ-หนุนสร้างรายได้เกษตรกรยกระดับเศรษฐกิจภูมิภาค
“พิชัย” ลุยเมืองเลย-อุดรฯ หนุนสร้างรายได้เกษตรกรยกระดับเศรษฐกิจภูมิภาค

Highlight

ไฮไลต์

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่อุดรธานี–เลย ผลักดันเศรษฐกิจฐานราก รับฟังข้อเสนอเอกชน หนุนกิจกรรมกระตุ้นการค้า ดันสับปะรดไร่ม่วงขึ้น GI พร้อมยกระดับตลาดชุมชน–วัฒนธรรมสู่นวัตกรรมสร้างรายได้

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ร่วมลงพื้นที่จังหวัดเลยและอุดรธานี ระหว่างวันที่ 7-8 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา

โอกาสนี้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นประธานเปิดงาน “โครงการจัดงานประชาสัมพันธ์สับปะรดไร่ม่วงเมืองเลย ประจำปี 2568” ณ ตลาดต้องชม “ตลาดผลไม้บ้านไร่ม่วง” ต.น้ำหมาน อ.เมืองเลย จ.เลย พร้อมเปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผลไม้ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลไม้ท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูงอย่าง “สับปะรดไร่ม่วงเมืองเลย” ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูกรวมกว่า 610 ไร่ จากเกษตรกร 102 ครัวเรือน สร้างรายได้เฉลี่ย 50,000 บาทต่อไร่ หรือรวมกว่า 30 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในเดินหน้าส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทย ผ่านกิจกรรมรณรงค์ทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ “Thai Fruit Festival 2025 by DIT” โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาระดับราคาผลผลิตทางการเกษตร ไม่ให้ตกต่ำ และเปิดช่องทางตลาดทั้งในและต่างประเทศให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น

“ดีใจที่ได้มาจังหวัดเลย หากมีอะไรที่กระทรวงพาณิชย์ช่วยได้ ขอให้แจ้งท่าน สส.ในพื้นที่ได้เลย เรายินดีจะแก้ปัญหาให้ทุกเรื่อง ท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตรให้ความสำคัญกับเกษตรกรมาก เราใช้นโยบายตลาดนำนวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรพี่น้องชาวสวนมีรายได้เพิ่มขึ้น” นายพิชัย กล่าว

นอกจากนี้ นายพิชัย พร้อมคณะ ยังได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดอุดรธานี เพื่อพบปะหารือร่วมกับภาคเอกชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เพื่อรับฟังข้อเสนอและหารือแนวทางส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค

นายพิชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีความมุ่งมั่นในการผลักดันเศรษฐกิจการค้าของประเทศ โดยเฉพาะในระดับภูมิภาคที่มีศักยภาพสูง ดังเช่น จ.อุดรธานี ซึ่งกระทรวงพาณิชน์ได้เริ่มเจรจาการค้าประเด็นภาษีกับสหรัฐฯ แล้ว เชื่อมั่นว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี นอกจากนี้ยังมีแผนเจรจาการค้ากับจีน โดยเสนอให้ภาคเอกชนจีนร่วมมือกับผู้ประกอบการไทยอย่างถูกต้อง ไม่ผ่านระบบนอมินี เพื่อให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าไปยังตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งกระทรวงฯ ยังมีแผนคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเพื่อผลักดันเข้าสู่ตลาดต่างประเทศภายใต้แบรนด์ Thailand Brand รวมถึงพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่สำหรับ SMEs เพื่อให้สามารถบริหารจัดการด้านบัญชี และเชื่อมโยงเข้าสู่แพลตฟอร์ม e-commerce ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านภาคเอกชน นายกัณฑ์พงศ์ สุระวรรณวิจิตร ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ระบุว่า ธุรกิจในพื้นที่ยังคงชะลอตัว พร้อมเสนอแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การจัดแคมเปญ “ลดทั้งเมือง” ตามแบบโมเดลพาณิชย์ลดราคา การจัดงานเกษตรแฟร์ประจำปี รวมถึงฟื้นฟูตลาดผ้าบ้านนาข่า ภายใต้โครงการ “ตลาดต้องชม” ของกรมการค้าภายใน เพื่อรองรับการจัดงานพืชสวนโลก ปี 2569 ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าสู่เมืองเป็นจำนวนมาก

เช่นเดียวกับ พันโท ดร.วรายุส์ ศรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ได้เสนอแผนการลงทุนด้านไบโอเทคโนโลยีโดยใช้ชานอ้อยเป็นวัตถุดิบ พร้อมทั้งส่งเสริมการปลูกไผ่เพื่อผลิตถ่านชีวภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มให้เกษตรกรในพื้นที่ ขณะที่ นางอรอนงค์ บุญโต ประธาน MOC Biz Club ไทยแลนด์ ได้เสนอแนวคิดจัดตั้ง “Biz Shop” เชื่อมโยงสินค้าชุมชนจากภูมิภาคต่าง ๆ และผลักดันเข้าสู่ช่องทางจัดจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรด พร้อมขอการสนับสนุนด้านบัญชี และดิจิทัลแพลตฟอร์มจากกระทรวงพาณิชย์

นอกจากนี้ ภาคธุรกิจยังเสนอให้ลดความถี่ในการตรวจสอบการตีตราปั๊มน้ำมันโดยสำนักงานชั่งตวงวัด จากปีละสองครั้งเหลือปีละครั้ง เพื่อลดภาระต้นทุน รวมถึงข้อเสนอจากกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ให้พิจารณาทบทวนข้อจำกัดการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติที่พำนักถาวรในไทย โดยเฉพาะชาวต่างชาติวัยเกษียณที่ต้องการลงทุนในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้ความสำคัญกับการส่งออก การลงทุน และการท่องเที่ยว เป็นสามเสาหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมผลักดันให้จังหวัดอุดรธานีเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และการค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเต็มที่

“ที่ผ่านมาได้มีโอกาสพบกับ นายมะไลทอง กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว ในระหว่างเยี่ยมชมงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 และได้หารือเพื่อผลักดันการค้าระหว่างสองประเทศให้บรรลุเป้าหมาย 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570 ซึ่งไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่ง สปป.ลาว ครั้งที่ 8 โดยเร็ว หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้จัดร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2561 เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนแผนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น” นายพิชัย กล่าว

คอนเทนต์แนะนำ

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.amarintv.com/spotlight/economy/516333&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2RCsMO9m1ozrmQ2ggQFoW4

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *