น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงตลอด 2 สัปดาห์นี้ ททท.ได้จัดงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวครั้งยิ่งใหญ่ 2 งาน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ และส่งเสริมให้เกิดการขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทยเพิ่มมากขึ้น
โดยระหว่างวันที่ 28 พ.ค.-1 มิ.ย. 2568 ได้จัดโครงการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต 50 ปี ไทย-จีน “สวัสดี หนีห่าว” (Sawasdee Nihao) เพื่อมุ่งสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และเป็นมิตร เพื่อสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยนำตัวแทนบริษัทนำเที่ยว (Travel Agents) 400 ราย สื่อมวลชน และ KOLs 200 ราย จากจีนเดินทางสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว พร้อมจัดเวทีเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยกว่า 600 ราย เพื่อผลักดันการขายสู่ตลาดจีน คาดว่าจะสร้างการรับรู้กว่า 350 ล้านคน-ครั้ง และการเจรจาธุรกิจกว่า 5,000 นัดหมาย
ขณะที่สัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ 4 – 6 มิ.ย. 2568 ได้จัดงาน Thailand Travel Mart Plus (TTM+) 2025 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย 450 ราย เสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวกว่า 406 ราย จาก 53 ประเทศทั่วโลก ในงานนี้สามารถสร้างจำนวนนัดหมายเจรจาธุรกิจกว่า 13,000 นัดหมาย รายได้หมุนเวียนกว่า 4,296 ล้านบาท ส่วนในปี 2569 เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน TTM+2026
.ทำมาตรฐานความปลอดภัยเพิ่ม
ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า หลังจากการจัดแคมเปญ “สวัสดี หนีห่าว” และหารือร่วมกับบริษัทนำเที่ยวของจีน ได้รับการบ้านที่ ททท.จะนำมาดำเนินการ 4 เรื่องสำคัญที่อยู่ในใจของนักท่องเที่ยวจีน คือ 1.การสร้างมาตรฐานความปลอดภัยผ่านกล้อง CCTV 2.การมีระบบการจ่ายเงินที่มีประสิทธิภาพ ป้องกันการหลอกลวง และสามารถรองรับนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เช่น การจ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับระบบที่ชาวจีนใช้อยู่ 3.มีการให้บริการสื่อสารภาษาจีน หรือ ภาษาอังกฤษ 4.การมีระบบโครงสร้างพื้นฐานหรือการคมนาคมที่สะดวกเข้าถึงโรงแรมที่พักได้
“เรื่องของความสะอาด สะดวก ปลอดภัย ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่นักท่องเที่ยวจีนให้ความสำคัญ ที่ผ่านมาช่วงเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ททท.เคยจัดทำมาตรฐาน SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าสถานประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ปรับปรุงมาตรฐานความสะอาดและสุขอนามัยแล้ว และเพื่อสนองตอบความต้องการของนักท่องเที่ยวจีน ททท.จึงจะจัดทำมาตรฐานใหม่เพิ่มขึ้น ภายใต้ชื่อ SHA trusted”
สำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี 2568 ถ้ามองจากเวลานี้ ททท.ตั้งเป้าไว้ที่ 6.9 ล้านคนเอาไว้ก่อน มากกว่าปี 2567 ที่มี 6.7 ล้านคน แม้ว่าจะเกิดวิกฤตินักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสที่ 1 ต่อเนื่องมาไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ แต่หลังจากแคมเปญ“สวัสดี หนีห่าว”แล้ว ในเดือนก.ค.จะมาประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนกันใหม่อีกที ที่มุ่งมั่นมากคือ ถ้าหากจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยกว่าปีก่อน ในส่วนของรายได้จะต้องทำให้มากขึ้น
.ดันตลาดคุณภาพให้เกินล้านคน
น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ในระหว่างที่ ททท.พบว่าเกิดวิกฤติในตลาดนักท่องเที่ยวจีน ก็ได้พยายามที่จะหาตลาดนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดระยะไกลทั้งในตะวันออกกลาง ยุโรป สหรัฐอเมริกา เนื่องจากตลาดเหล่านี้มีระยะเวลาพำนักนานและมีการใช้จ่ายสูง ในปีนี้จะมีตลาดนักท่องเที่ยวที่เกิน 1 ล้านคนเพิ่มขึ้น ได้แก่ สหราชอาณาจักร เยอรมัน ฝรั่งเศส จากที่ รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา แตะ 1 ล้านคนในปีที่ผ่านมาแล้ว ขณะเดียวกัน ในงาน TTM+ ปีนี้ พบว่าจากผู้ซื้อทั้งหมด 406 ราย เป็นผู้ซื้อรายใหม่ 143 รายหรือ เพิ่มขึ้น 35.2% แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
.เปิดกิจกรรมโชว์เคส 2 งานยักษ์
ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ทั้ง 2 งาน ททท.ได้จัดกิจกรรมสำคัญ ในงานสวัสดี หนีห่าว จัดโชว์เคส “5 Must Do in Thailand” นำเสนอที่สุดแห่งประสบการณ์การท่องเที่ยวไทย 5 รูปแบบ ที่ชาวจีนไม่ควรพลาด มุ่งเน้นการสร้างภาพจำประเทศไทย ในฐานะจุดหมายปลายทางที่ผสมผสาน วัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ อาหารผลไม้ ช้อปปิ้ง และนวัตกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และนำคณะสื่อมวลชนและ KOL ชาวจีน บุกตระเวนชิมร้านอาหารย่านบรรทัดทอง โปรโมทร้านอาหาร สนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น รวมทั้งไปแหล่งท่องเที่ยวที่พัทยา ระยอง นครปฐม สร้างกระแสในโซเชียลมีเดีย ชวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย
ส่วนกิจกรรม ในงาน TTM+ 2025 นำเสนอการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health and Wellness) โดยเฉพาะกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพกายและจิตใจ ที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น เน้นความโดดเด่นของทุกภูมิภาค เช่น สปาล้านนา ที่ Fah Lanna Spa การนวดฟ้อนเล็บ ที่ ZiRa Spa ภาคกลาง การนวด ZILA Stone Massage ภาคตะวันออก รวมทั้งการนำเสนอภาพลักษณ์ประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) และสวรรค์ของนักชิม ตั้งแต่ร้านสตรีทฟู้ดไปจนถึงภัตตาคารที่มีชื่อเสียง และร้านอาหารที่ได้รับการยอมรับ โดย Michelin Guide Thailand 2025 กว่า 400 แห่งทั่วประเทศ และจัดกิจกรรม Post-Tour 6 เส้นทาง ระหว่างวันที่ 7-11 มิ.ย. 2568 นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงสู่เมืองน่าเที่ยวลำปาง-แพร่-น่าน เส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหารในขอนแก่น นำเสนอความสวยงามของธรรมชาติ ลิ้มรสอาหารถิ่น ระยอง ชลบุรี ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สุราษฎร์ธานี
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thairath.co.th/money/business_marketing/corporates_leadership/2862964&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2eTSr3TtDgmlFcBzjb9ozJ