ตลาดหุ้นโลกยังอ่อนไหว “บลจ.วรรณ” ชี้ครึ่งปีหลังอาจดีขึ้น ทรัมป์คือจุดเปลี่ยน

ตลาดหุ้นโลกยังอ่อนไหว-“บลจ.วรรณ”-ชี้ครึ่งปีหลังอาจดีขึ้น-ทรัมป์คือจุดเปลี่ยน
ตลาดหุ้นโลกยังอ่อนไหว “บลจ.วรรณ” ชี้ครึ่งปีหลังอาจดีขึ้น ทรัมป์คือจุดเปลี่ยน

ตลาดหุ้นโลกยังอ่อนไหว “บลจ.วรรณ” ชี้ครึ่งปีหลังอาจดีขึ้น ทรัมป์คือจุดเปลี่ยน

พจน์ หะริณสุต CEO บลจ.วรรณ ชี้ภาพรวมตลาดหุ้นโลกอาจจะดีขึ้น แต่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ในระดับสูง เผยทรัมป์คือจุดเปลี่ยน

ท่ามกลางกระแสความผันผวนในตลาดการเงินโลกและตลาดหุ้นไทยที่ยังคงเผชิญแรงกดดันจากหลากหลายปัจจัย นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด ได้แสดงทัศนะต่อภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ภายในงานสัมมนา “Thailand Investment Forum 2025: Great Depression พลิกเกมฝ่าวิกฤติ” ซึ่งจัดโดย ฐานเศรษฐกิจ กรุงเทพธุรกิจ และโพสต์ทูเดย์  ในหัวข้อ “Growth Stock Im-Depth : Strategies for Success” โดยให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า แม้จะมีสัญญาณเชิงบวกให้จับตา แต่ความไม่แน่นอนยังเป็นปัจจัยหลักที่ต้องระมัดระวัง

.

“หลังจากนี้ภาพรวมตลาดหุ้นโลกอาจจะดีขึ้น แต่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ในระดับสูง” นายพจน์กล่าว

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยเองก็มีปัจจัยเฉพาะตัวที่ทำให้เกิดความอ่อนไหว ขึ้นอยู่กับการแก้ไขสถานการณ์ และหลายองค์ประกอบที่ทำให้ตลาดปรับตัวขึ้น หรือลงได้ 

ตลาดหุ้นโลกยังอ่อนไหว

ศก.สหรัฐฯ ยังแข็งแรง แต่ทรัมป์คือจุดเปลี่ยน

ผู้บริหารจากบลจ.วรรณ มองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญของทิศทางตลาดทุนทั่วโลก  โดยในตอนแรกตนมองว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งยังมีเศรษฐกิจที่แข็งแรง เห็นได้จากตัวเลขการจ้างงานที่ยังสูง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะสั้น และเคยทำให้มีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะถูกปรับลดลง 3-4 ครั้งในปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวต่อเนื่อง

แต่เมื่อทรัมป์เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อขึ้นสูง ทำให้ลดดอกเบี้ยไม่ได้ ไม่เอื้อต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ประชาชนเกิดความกังวลจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น 

“การบริหารงานของทรัมป์ ทำให้นโยบายการเงิน และการคลังเปลี่ยนไป โดยนโยบายทางการเงินมีการระบุแล้วว่า ดอกเบี้ยคงจะไม่ลดลงในเร็ววันนี้ ส่วนนโยบายการคลังเป็นกระแสนิยมอย่างมากจากปัญหาเรื่องการชัตดาวน์ ซึ่งส่งผบกระทบไปยังตัวเลขการเติบโตในตลาดหลักทรัพย์ โดยแค่บอกว่าขึ้นภาษีกับจีนก็ส่งผลกระทบอย่างมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องดูว่าขึ้นมากน้อยแค่ไหน”

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.posttoday.com/business/stockholder/725219&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2kxmogd-8JiRpENtApb8a7

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *