ดัชนีเชื่อมั่นดิ่งยกแผง 4 เดือนติด ต่ำสุดรอบ 2 ปี! เหตุกังวลสงครามการค้าเศรษฐกิจฟื้นช้า

ดัชนีเชื่อมั่นดิ่งยกแผง-4-เดือนติด-ต่ำสุดรอบ-2-ปี! เหตุกังวลสงครามการค้าเศรษฐกิจฟื้นช้า
ดัชนีเชื่อมั่นดิ่งยกแผง 4 เดือนติด ต่ำสุดรอบ 2 ปี! เหตุกังวลสงครามการค้าเศรษฐกิจฟื้นช้า

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนพ.ค.68 ว่า ดัชนีปรับตัวลดลง โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดต่ำสุดรอบ 2 ปี และลดลงทุกรายการ สะท้อนว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคเป็นขาลงแล้ว เพราะเศรษฐกิจยังไม่มีทิศทางสดใส และมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยง่ายขึ้น

“ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงทุกรายการ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 เพราะผู้บริโภคเริ่มเชื่อมั่นในอนาคตลดลง หากสงครามการค้ารุนแรงขึ้น และเศรษฐกิจไม่สามารถกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ก็จะมีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย แต่ศูนย์ฯ ยังคงประเมินเศรษฐกิจไทยปี 68 ขยายตัวในกรอบ 1.5 – 2%”

สำหรับการเจรจามาตรการภาษีกับสหรัฐฯ นั้น ใกล้จะครบกำหนดการชะลอบังคับใช้ออกไป 90 วันในวันที่ 7 ก.ค.นี้ ซึ่งหลายประเทศอยู่ระหว่างการเจรจา โดยศูนย์ฯ ได้ประเมินเบื้องต้นถึงความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจไทย คาดว่า หากเก็บภาษีไทย 36% จะทำให้รายได้จากการส่งออกหายไป 150,000-200,000 ล้านบาท และยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะจะมีผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค และภาคเอกชน โดยอาจทำให้เศรษฐกิจมีโอกาสโตต่ำกว่า 1% ได้

ดังนั้น สิ่งที่ภาครัฐจะต้องเร่งดำเนินการ คือ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว โดยเฉพาะงบ 157,000 ล้านบาท รวมถึงผ่อนคลายมาตรการทางการเงิน ลดดอกเบี้ย ปรับโครงสร้างหนี้ เร่งกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยตั้งเป้าหมายให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ 35 ล้านคน พร้อมทั้งเร่งให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยหากดำเนินการได้ เชื่อว่ายังสามารถทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวอยู่ในกรอบได้

พร้อมระบุว่า ก่อนหน้านี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง มักมีสาเหตุมาจากความกังวลต่อปัญหาสงครามการค้าเป็นหลัก แต่ระยะหลัง ผู้บริโภคเริ่มเพิ่มความกังวลเรื่องการเข้าถึงสินเชื่อที่ยากขึ้น รวมทั้งปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง สำหรับความเสี่ยงการเมืองในช่วงครึ่งปีหลัง หากมีการยุบสภาเกิดขึ้น จะทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ต้องสิ้นสุดลง และต้องเริ่มต้นกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 69 ใหม่ โดยรัฐบาลใหม่ ซึ่งกระบวนการนี้ จะทำให้การจัดทำงบประมาณต้องล่าช้าออกไปจากปกติ 6-9 เดือน เพราะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ จัดตั้งรัฐบาล ทำกระบวนการงบประมาณใหม่ ซึ่งจะทำให้ระหว่างนี้ เศรษฐกิจไทยขาดแรงที่จะมีเม็ดเงินมากระตุ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไตรมาส 4

ด้านนายวาทิตร รักษ์ธรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนพ.ค.68 อยู่ที่ 54.2 ลดลงจาก 55.4 ในเดือนเม.ย.68 เป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 27 เดือนนับตั้งแต่เดือนมี.ค.66, ดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบัน อยู่ที่ 38.8 ลดจาก 39.8 และดัชนีในอนาคต อยู่ที่ 61.7 ลดลงจาก 62.9 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 48.1 ลดจาก 49.3, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน อยู่ที่ 51.9 ลดจาก 53.0, และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 62.7 ลดจาก 63.9 เพราะผู้บริโภคเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ค่าครองชีพสูง สงครามการค้ามีแนวโน้มรุนแรงขึ้น และเศรษฐกิจไม่สามารถจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

ส่วนนายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนพ.ค.68 อยู่ที่ระดับ 48.0 ลดลงจาก 48.3 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เพราะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและนโยบายภาษีของสหรัฐฯ เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ค่าครองชีพสูง ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่าย ส่งผลกระทบต่อยอดขายของธุรกิจ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เป็นต้น จึงต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มกำลังซื้อ ออกมาตรการเงินที่ช่วยเหลือสภาพคล่องของภาคธุรกิจ บริหารจัดการน้ำ กระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองหลัก เมืองรอง เป็นต้น

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thairath.co.th/money/economics/thai_economics/2864113&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3vpWSTwNLWa7UtAvyq3XWW

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *