ท่องเที่ยวไทยเผชิญมรสุม หลังนักท่องเที่ยวจีนหดตัว SME 4 แสนราย ถึงเวลาตื่นตัว หันโฟกัสนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูง ปรับกลยุทธ์การตลาด สร้างเครือข่ายความร่วมมือ
SMEs กว่า 4 แสนราย ที่พึ่งพานักท่องเที่ยวทั้งจีนเป็นหลักกำลังเผชิญความเสี่ยงครั้งใหญ่ หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยขยายตัวต่ำ
ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัวทั่วทุกภูมิภาค
ศูนย์วิจัยและข้อมูลธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย รายงานว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทยยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสแรกของปี 2568 นักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปยังประเทศอื่น อาทิ เวียดนาม (+71%) ญี่ปุ่น (+78%) ขณะที่ไทยกลับติดลบถึง -24%
ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยระบุว่า จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากการหายไปของนักท่องเที่ยวจีนมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และภูเก็ต โดยในไตรมาส 1/68 พบว่า กทม. ขาดนักท่องเที่ยวจีนเฉลี่ยวันละ 76% รองลงมาคือ ชลบุรี 34% และภูเก็ต 29%
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง ได้แก่ ภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยของไทย และการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาลจีน ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกัน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในเดือนเมษายน 2568 ลดลง -8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และยอดสะสมตลอดปีติดลบ -0.3% โดยยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัวทั่วทุกภูมิภาคอย่างชัดเจน ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังคงตัว
ในเดือนมีนาคม 2568 อัตราการเข้าพักโรงแรมและรายได้จากนักท่องเที่ยวก็ลดลงตามไปด้วย สะท้อนถึงแรงกดดันต่อภาคท่องเที่ยวไทยที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ แม้จะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายหน่วยงานทั้งรัฐ – เอกชน พยายามสื่อสารถึงแนวทางรอด SME โดยเฉพาะที่อยู่ในภาคท่องเที่ยวและบริการ คือถึงเวลาตื่น ปรับตัว มองหาโอกาสใหม่ ๆ และเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ
อย่างธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย แนะว่า
- เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่: นอกเหนือจากจีน มองหาตลาดใหม่ๆ ที่มีกำลังซื้อและชื่นชอบประเทศไทย เช่น กลุ่มนักท่องเที่ยวระยะไกล อาทิ ยุโรป สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ฯลฯ
- ยกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยว: สร้างความประทับใจด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ เน้นความแตกต่างและตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม
- ปรับกลยุทธ์การตลาด: ใช้ช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์ โปรโมทสินค้าและบริการให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ อย่างตรงจุด
- สร้างเครือข่ายและความร่วมมือ: ร่วมมือกับ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและขยายโอกาสทางธุรกิจ
นักท่องเที่ยวระยะไกลหนุนรายได้ท่องเที่ยวไทยโต แม้ยอดนักท่องเที่ยวระยะใกล้ยังหดตัว
ศูนย์วิจัยและข้อมูล SME D Bank ยังได้เปิดเผยแนวโน้มการท่องเที่ยวของไทยล่าสุด พบว่า “นักท่องเที่ยวระยะไกล” จากกลุ่มประเทศที่มีกำลังซื้อสูง เช่น ยุโรป สหรัฐฯ และออสเตรเลีย มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นสัดส่วนถึง 37% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด
แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจากกลุ่มระยะไกลจะน้อยกว่านักท่องเที่ยวระยะใกล้ เช่น จีน มาเลเซีย และอินเดีย ซึ่งยังครองสัดส่วนถึง 63% แต่กลับพบว่ายอดนักท่องเที่ยวระยะใกล้กลับลดลงถึง -5.5%
ที่สำคัญคือ นักท่องเที่ยวระยะไกลมี “กำลังซื้อสูง” โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 62,939 บาท เทียบกับนักท่องเที่ยวระยะใกล้ที่ใช้จ่ายเฉลี่ยเพียง 38,564 บาทเท่านั้น ส่งผลให้รายได้รวมจากภาคการท่องเที่ยวไทยยังมีแนวโน้มเติบโต แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะไม่ฟื้นตัวเต็มที่
อย่างไรก็ตามธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ชี้ว่า ธุรกิจท่องเที่ยวขนาดกลางและเล็ก (SMEs) อาจยังไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากเทรนด์นี้มากนัก เนื่องจากลูกค้าหลักของธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวระยะใกล้และนักท่องเที่ยวไทย ซึ่งมีกำลังซื้อน้อยกว่า
ทั้งนี้ ภาครัฐและเอกชนจึงต้องร่วมมือกันเพื่อปรับกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวระยะไกลมากขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้สามารถรองรับตลาดกลุ่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.posttoday.com/smart-sme/725155&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw38oXg68B-CESTJNpMPmf0L