ขนลุก! ลูกในท้อง ‘กิน’แฝด เรื่องเหลือเชื่อที่คุณแม่ทั่วโลกถึงกับช็อก หมอเฉลยปมสุดลี้ลับ | เดลินิวส์

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานเรื่องราวสุดเหลือเชื่อของคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ต้องเจอประสบการณ์สุดพีค! จากอัลตราซาวด์เจอแฝด 2 สู่แฝด 3 ที่ทำเอาอึ้ง ก่อนจะพลิกผันเหลือเพียง 1 ชีวิตน้อยๆ ที่แข็งแรงสมบูรณ์ แพทย์ไขปริศนา 2 ทฤษฎี สู่ภาวะ “ฝาแฝดอันตรธาน” และภาวะ “ไคเมอริซึม” ที่หลายคนไม่เคยรู้!

การตั้งครรภ์ ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของว่าที่คุณแม่ทุกคน แต่บางครั้งก็อาจมีเรื่องราวไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับคุณแม่รายหนึ่งในต่างประเทศ ที่ได้ออกมาเผยประสบการณ์สุดระทึกขวัญ เมื่อเธอเข้าใจว่ากำลังจะคลอดลูกแฝดสาม แต่สุดท้ายกลับเหลือทารกเพียงคนเดียว สร้างความตกตะลึงให้กับเธอและผู้คนในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก

คุณแม่ผู้ใช้ TikTok บัญชี “vfbabygirl28” ได้แบ่งปันเรื่องราวสุดเหลือเชื่อของการตั้งครรภ์ของเธอที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ขึ้นๆ ลงๆ ราวกับรถไฟเหาะตีลังกา โดยการตรวจอัลตราซาวด์ครั้งแรก เธอได้รับข่าวดีว่ากำลังจะมีลูกแฝดสอง แต่แล้วเมื่อถึงการตรวจครั้งที่สอง สถานการณ์ก็กลับตาลปัตร เมื่อเธอได้รู้ข่าวที่น่ายินดีและประหลาดใจยิ่งกว่า นั่นคือเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกแฝดสาม!

แต่เรื่องราวกลับพลิกผันอีกครั้งในการตรวจครั้งที่สาม เมื่อคุณหมอแจ้งข่าวที่ทำให้เธอถึงกับช็อก นั่นคือทารกสองคนได้ “หายไป” อย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงทารกที่แข็งแรงหนึ่งคนเท่านั้น ซึ่งเธอได้โพสต์ภาพทารกแรกเกิดที่ดูสุขภาพดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง พร้อมแคปชั่นที่แสดงความประหลาดใจว่า “เจ้าตัวน้อยคนนี้กินพี่น้องของมันเอง! พระเจ้าช่วย!”

เรื่องราวของคุณแม่รายนี้ สร้างความตกใจและคำถามมากมายให้กับชาวเน็ตจำนวนมาก โดยหลายคนสงสัยว่า “ทารกจะกินทารกอีกคนได้อย่างไร?” ซึ่งต่อมาผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาอธิบายถึงปรากฏการณ์นี้ว่ามีสาเหตุที่เป็นไปได้สองประการ:

1. ภาวะฝาแฝดอันตรธาน (Vanishing Twin Syndrome – VTS): เป็นภาวะที่พบได้บ่อยกว่า เกิดขึ้นเมื่อตัวอ่อนหลายตัวเริ่มพัฒนาในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ แต่แล้วตัวอ่อนบางตัวก็หยุดการเจริญเติบโตและถูกร่างกายของแม่หรือทารกที่เหลืออยู่ดูดซึมกลับไป มักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ และอาจไม่ถูกตรวจพบหากไม่มีการอัลตราซาวด์เป็นประจำ

2. ภาวะมนุษย์ไคเมอริซึม (Human Chimerism): เป็นภาวะที่หายากกว่า เกิดขึ้นเมื่อตัวอ่อนสองตัวหลอมรวมกันตั้งแต่ช่วงแรกของการพัฒนา ส่งผลให้เกิดเป็นบุคคลที่มี DNA สองชุด หากเป็นเช่นนี้ ทารกอาจมี DNA ที่แตกต่างกันในส่วนต่างๆ ของผิวหนัง มีเลือดสองชนิด หรือมี DNA ในอวัยวะภายในที่แตกต่างจากส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

เรื่องราวของคุณแม่รายนี้จึงเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความซับซ้อนและน่าอัศจรรย์ของการตั้งครรภ์ ที่บางครั้งก็มีเรื่องราวเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นได้เสมอ

ที่มา https://www.ctwant.com/article/423494/