AOC 1441 เตือนภัย “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างเป็น “ตำรวจ” ข่มขู่ผู้เสียหายเอี่ยวคดีฟอกเงิน – ยาเสพติด พบสูญเงินกว่า 25 ล้านบาท
AOC 1441 เตือนภัย “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างเป็น “ตำรวจ” ข่มขู่ผู้เสียหายเอี่ยวคดีฟอกเงิน – ยาเสพติด พบสูญเงินกว่า 25 ล้านบาท
นางสาววงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 26 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) ได้มีรายงานเคสตัวอย่างอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวง จำนวน 5 เคส ประกอบด้วย
คดีที่ 1 คดีข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center) มูลค่าความเสียหาย 14,115,680 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างเป็นพนักงานขนส่งแจ้งว่าเอกสารของผู้เสียหายถูกตีกลับ และได้โอนสายสนทนาไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ผู้เสียหายดำเนินการแจ้งความ จากนั้นมิจฉาชีพให้เพิ่มเพื่อนทาง Line อ้างว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า การฟอกเงิน และยาเสพติด ให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากไม่ทำตามจะได้รับโทษขั้นร้ายแรง ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป ภายหลังไม่สามารถติดต่อมิจฉาชีพได้ ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 2 คดีหลอกลวงให้รักแล้วโอนเงิน (Romance Scam) มูลค่าความเสียหาย 3,257,056 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทางแอปพลิเคชันหาคู่ ใช้โพรไฟล์เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี การศึกษาดี ผู้เสียหายสนใจจึงพูดคุยสักระยะหนึ่งแล้วเพิ่มเพื่อนทาง Line มิจฉาชีพชักชวนให้โอนเงินเพื่อร่วมลงทุน แจ้งว่าเพื่อต้องการสร้างชีวิตคู่ไปด้วยกัน โดยเป็นการโอนเงินให้มิจฉาชีพนำไปลงทุนให้ หลังโอนเงินไปมิจฉาชีพแจ้งว่ากำลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน หากผู้เสียหายไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องให้โอนเงินไปเพื่อให้พ้นข้อกล่าวหา ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปให้ ภายหลังมิจฉาชีพแจ้งให้โอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 3 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ มูลค่าความเสียหาย 3,330,587 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่จากกองคลัง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แจ้งว่าได้จัดส่งอีเมลให้ 2 ฉบับ แต่ผู้เสียหายได้รับเพียง 1ฉบับ มิจฉาชีพจึงขอให้เพิ่มเพื่อนทาง Line จากนั้นมิจฉาชีพแจ้งว่าจะมีการคุ้มครองบัญชีเงินฝาก โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินไปเพื่อทำการคุ้มครองเงินฝาก และแจ้งว่าเป็นการโอนเงินชั่วคราวจะได้รับเงินคืน ภายหลังโอนเงินไปไม่สามารถติดต่อได้และไม่ได้รับเงินคืน ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 4 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ มูลค่าความเสียหาย 1,854,035 บาท ทั้งนี้ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Instagram ใช้โพรไฟล์เป็นหนุ่มฐานะดี จากนั้นมิจฉาชีพชักชวนทำงานหารายได้พิเศษ ผู้เสียหายสนใจจึงเพิ่มเพื่อนทาง Line มิจฉาชีพแจ้งว่าให้โอนเงินเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมแล้วจะได้รับค่าคอมมิชชัน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปช่วงแรกได้รับเงินคืนจริง ภายหลังโอนเงินเพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ มิจฉาชีพอ้างว่า
ต้องโอนเงินเพื่อจ่ายค่าภาษี ค่าประกันบัญชี และค่านิติบุคคล ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
และคดีที่ 5 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ มูลค่าความเสียหาย 2,514,660 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถช่วยเหลือเรื่องคดีที่ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน และสามารถนำเงินที่ถูกหลอกกลับคืนมาได้ แต่จะต้องโอนเงินไปตามขั้นตอนเพื่อตรวจสอบบัญชี ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไป จากนั้นมิจฉาชีพยังคงติดต่อให้โอนเงินเพิ่มอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่เหลือเงินในบัญชี ผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก
สำหรับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้ง 5 คดี รวม 25,072,018 บาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ ศูนย์ AOC 1441 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 มีตัวเลขสถิติผลการดำเนินงาน ดังนี้
1. สายโทรเข้า 1441 จำนวน 1,766,746 สาย / เฉลี่ยต่อวัน 3,062 สาย
2. ระงับบัญชีธนาคาร จำนวน 684,603 บัญชี / เฉลี่ยต่อวัน 1,280 บัญชี
3. ระงับบัญชีตามประเภทคดีสูงสุด 5 ประเภท ได้แก่ (1) หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 217,405 บัญชี คิด เป็นร้อยละ 31.76 (2) หลอกลวงหารายได้พิเศษ 159,294 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 23.27 (3) หลอกลวงลงทุน 96,853 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 14.15 (4) หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล 90,116 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 13.16 (5) หลอกลวงให้กู้เงิน 49,155 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 7.18 (และคดีอื่นๆ 71,780 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 10.48)
“จากเคสตัวอย่างจะเห็นได้ว่า มิจฉาชีพใช้กลอุบายข่มขู่ผู้เสียหาย โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ลวงว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า คดีฟอกเงิน และยาเสพติด ขณะเดียวกันมิจฉาชีพยังมีการหลอกลวงให้รัก รับรางวัล หรือการหารายได้พิเศษ ซึ่งพบว่ามีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 25 ล้านบาท ทั้งนี้ขอย้ำว่า หน่วยงานของรัฐ ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ จะไม่มีการโทรติดต่อโดยตรง หรือติดต่อผ่านทางโซเชียลมีเดีย และจะไม่มีการให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบบัญชีแต่อย่างใด ดังนั้นหากมีการติดต่อเข้ามา ให้ประเมินว่าเป็นการหลอกลวงของมิจฉาชีพ ด้านการลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีการรับรองโดยหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นการเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง ขอให้ผู้เสียหายตรวจสอบและติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัด” นางสาววงศ์อะเคื้อ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนยึดหลัก 4 ไม่ คือ 1. ไม่กดลิงก์ 2.ไม่เชื่อ 3.ไม่รีบ และ 4.ไม่โอน ก่อนที่จะทำธุรกรรมใดๆ อย่ากดเข้าลิงก์เว็บไซต์ หรือดาวน์โหลด และอัปโหลดแพลตฟอร์ม ที่มีการส่งต่อจากช่องทางที่ไม่แน่ใจ โดยกระทรวงดีอี ได้เร่งดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันภัยอาชญากรรมออนไลน์ ผ่านศูนย์ AOC 1441 เพื่อแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
หากประชาชนโดนหลอกออนไลน์ โทรแจ้งดำเนินการ ระงับ อายัดบัญชี AOC 1441
แจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.)
| Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com
————————————————————————————–
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thaigov.go.th/news/contents/ministry_details/97035&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2l1DT7uuk-zDbbOo_xBHcR