อะไรใหม่ใน iOS 26 รู้ก่อนเปิดตัว 9 มิถุนายน นี้

อะไรใหม่ใน-ios-26-รู้ก่อนเปิดตัว-9-มิถุนายน-นี้
อะไรใหม่ใน iOS 26 รู้ก่อนเปิดตัว 9 มิถุนายน นี้

เหลือเวลาอีกไม่ถึงสัปดาห์ก็จะถึงงาน Worldwide Developers Conference (WWDC) 2025 ซึ่งเป็นที่จับตามองของวงการไอทีทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัวระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ของ Apple ข่าวลือที่หนาหูที่สุดในขณะนี้คือ iOS 26 ที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทั้งด้านดีไซน์ ฟีเจอร์ AI และการทำงานร่วมกันภายใน Ecosystem ของ Apple บทความนี้จะสรุปทุกประเด็นข่าวลือที่น่าสนใจเพื่อให้คุณได้อัปเดตก่อนใคร

ios-19-to-26-thumb-2

1. การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค “26”: ระบบการตั้งชื่อ OS ใหม่

สิ่งแรกที่น่าสนใจคือ Apple อาจตัดสินใจข้ามจาก iOS 18 (หากนับตามลำดับปัจจุบัน) ไปเป็น iOS 26 เลยทีเดียว และจะใช้เลข “26” นี้กับระบบปฏิบัติการอื่นๆ ทั้งหมดด้วย (iPadOS 26, macOS 26, watchOS 26, tvOS 26, และ visionOS 26) เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาการปล่อยอัปเดตตั้งแต่กันยายน 2025 ถึงกันยายน 2026 ซึ่งจะช่วยให้การติดตามเวอร์ชันซอฟต์แวร์มีความชัดเจนและเข้าใจง่ายขึ้นสำหรับทุกแพลตฟอร์ม

2. ยกเครื่องดีไซน์ครั้งใหญ่: “Solarium” – เมื่อ iOS ผสานกลิ่นอาย visionOS

หัวใจสำคัญของ iOS 26 คือการปรับโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ภายใต้โค้ดเนมภายในว่า “Solarium” โดยได้รับแรงบันดาลใจหลักมาจาก visionOS ระบบปฏิบัติการของ Apple Vision Pro คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้:

  • ความโปร่งแสงและสไตล์กระจก (Translucent, Glass-inspired Aesthetic): อินเทอร์เฟซจะเน้นความโปร่งแสง คล้ายกระจกฝ้า (Frosted Glass) หรือมีความมันวาว (Glossy) เพื่อให้คอนเทนต์โดดเด่นและกลมกลืนกับพื้นหลังมากขึ้น
  • Floating UI Elements: จะมีการนำหน้าต่างและเมนูแบบลอยตัว (Floating Windows/Menus) คล้ายใน visionOS มาใช้ เช่น แถบนำทาง (Navigation Bars) และเมนูแบบ Pop-up ที่โค้งมนเป็นรูปทรงแคปซูล (Pill-shaped)
  • มิติและความลึก: ใช้เทคนิคการให้แสงเงา (Shading, Shadowing) และเอฟเฟกต์แสงที่ละเอียดอ่อน เพื่อให้ปุ่มและองค์ประกอบ UI ต่างๆ ดูมีมิติและ “ลอย” ขึ้นมาจากพื้นหลัง
  • ไอคอนและองค์ประกอบที่โค้งมนขึ้น: ไอคอนแอป, การแจ้งเตือน, เมนูในแอป, แถบค้นหา, และการ์ด UI ต่างๆ จะมีมุมที่โค้งมนมากขึ้น
  • แอปฯ พื้นฐานปรับโฉม: Apple วางแผนจะปรับปรุงดีไซน์ของแอปฯ ที่มากับเครื่องครั้งใหญ่ พร้อมทั้งจะออกแนวทางและเครื่องมือ (Design Guidelines and Assets) ให้นักพัฒนาภายนอก (Third-party) สามารถปรับแอปฯ ของตนให้เข้ากับสไตล์ใหม่นี้ได้

3. ปรับปรุงการนำทางและความสอดคล้องข้ามแพลตฟอร์ม

นอกจากการปรับดีไซน์แล้ว Apple ยังมุ่งเน้นการปรับปรุงระบบนำทาง (Navigation) ให้ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้งานมากขึ้น โดยจะมีการปรับแก้เมนู ปุ่ม และการควบคุมต่างๆ การเปลี่ยนแปลงดีไซน์และอินเทอร์เฟซเหล่านี้จะขยายไปยัง macOS, iPadOS, tvOS และ watchOS ด้วย เพื่อเพิ่มความสอดคล้องและประสบการณ์ใช้งานที่เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วทั้ง Ecosystem

 alleged-ios-19-camera-app-ren

4. ปลดปล่อยพลัง Apple Intelligence ยุคใหม่

iOS 26 จะมาพร้อมกับการอัปเกรดครั้งสำคัญของ Apple Intelligence:

  • AI Battery Management: ระบบจัดการแบตเตอรี่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งาน iPhone ของผู้ใช้ เพื่อปรับแต่งการดึงพลังงานของแอปฯ และฟีเจอร์ต่างๆ ของระบบให้เหมาะสมที่สุด ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยเฉพาะกับรุ่น iPhone 17 Air ที่ลือว่าจะมีแบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่ารุ่นอื่น
  • Shortcuts App อัจฉริยะขึ้น: แอป Shortcuts จะได้รับการผสานรวม Apple Intelligence ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างคำสั่งอัตโนมัติโดยใช้ภาษาพูดที่เป็นธรรมชาติได้ง่ายขึ้น แม้แต่ผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถสร้าง Shortcuts ที่มีประโยชน์ได้
  • Google Gemini Integration: มีข่าวลือหนาหูว่า Apple ใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับ Google ในการนำ Gemini เข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของโมเดล AI บน iPhone นอกเหนือจาก ChatGPT โดย Gemini จะสามารถทำงานร่วมกับ Siri เพื่อตอบคำถามที่ซับซ้อนและต้องการข้อมูลเชิงลึกได้
  • Siri Evolution (ภาคต่อ): ฟีเจอร์ส่วนบุคคลของ Siri ที่เคยเปิดตัวใน WWDC 2024 (Personal Context, Onscreen Awareness, Deeper App Integration) คาดว่าจะพร้อมใช้งานจริงใน iOS 26 อย่างไรก็ตาม หากยังไม่สมบูรณ์ Apple อาจจะยังไม่กล่าวถึงในงาน WWDC 2025 นี้

 ios-19-visionos-ui-elements

5. แอปฯ และฟีเจอร์ใหม่ที่น่าจับตามอง

  • New Gaming App: แอปฯ เกมใหม่ที่จะมาแทนที่ Game Center โดยรวมส่วนเกมของ App Store, ระบบสื่อสารกับผู้เล่นอื่น, Achievements, บทความแนะนำเกม, และ Leaderboards ไว้ในที่เดียว
  • อัปเดตแอปฯ เดิม:
    • Messages: เพิ่มการแปลภาษาอัตโนมัติ และรองรับการสร้างโพล
    • Music: แสดงภาพอาร์ตเวิร์กแบบเต็มหน้าจอพร้อมอนิเมชันบน Lock Screen
    • Notes: รองรับ Markdown
    • CarPlay: ปรับปรุง UI ให้สอดคล้องกับ iOS 26
  • AirPods Live Translate: ฟีเจอร์แปลภาษาบทสนทนาแบบเรียลไทม์ผ่าน AirPods เมื่อจับคู่กับ iPhone ที่ใช้ iOS 26
  • Connectivity Improvements:
    • ซิงค์ข้อมูลการล็อกอิน Captive Wi-Fi Portal ข้ามอุปกรณ์ Apple ทำให้ล็อกอินครั้งเดียวใช้ได้ทุกเครื่อง
    • อาจทำให้การโอน eSIM จาก iPhone ไปยัง Android ง่ายขึ้น
  • Health App โฉมใหม่ (อาจยังไม่เปิดตัว): ลือว่าจะมาพร้อม AI Health Coaching ให้คำแนะนำสุขภาพส่วนบุคคล และอาจมีฟังก์ชัน Food Tracking
  • Stage Manager บน iPhone (มีความเป็นไปได้): อาจเปิดใช้งานเมื่อเชื่อมต่อ iPhone (รุ่นที่มีพอร์ต USB-C) เข้ากับจอภายนอก มอบประสบการณ์คล้าย Mac ด้วยการเปิดหลายแอปฯ พร้อมกัน

6. นวัตกรรมการเข้าถึง (Accessibility) ที่ล้ำหน้า

Apple ได้เผยตัวอย่างฟีเจอร์ Accessibility ใหม่ๆ ที่จะมาใน iOS 26 แล้ว ได้แก่:

  • Music Haptics: ปรับแต่งการสั่นตามเพลงได้ละเอียดยิ่งขึ้น
  • App Store Accessibility Nutrition Labels: แสดงข้อมูลฟีเจอร์การเข้าถึงของแอปฯ ใน App Store
  • Accessibility Reader: โหมดการอ่านทั่วทั้งระบบที่ปรับแต่งฟอนต์ สี ระยะห่างได้
  • CarPlay: รองรับ Large Text และ Sound Recognition (เตือนเสียงเด็กร้อง, แตรรถ, ไซเรน)
  • Background Sounds: ปรับแต่ง EQ, ตั้งเวลา, และสร้าง Automation ใน Shortcuts ได้
  • Personal Voice: สร้างเสียงสังเคราะห์ส่วนตัวได้เร็วและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • Tracking: อัปเดต Head/Eye Tracking และรองรับอุปกรณ์ Brain-Computer Interface 

apple-invites-screenshots

7. iPadOS 26: ทรงพลังยิ่งขึ้น ใกล้เคียงประสบการณ์ Mac

iPadOS 26 จะได้รับการปรับปรุงดีไซน์ให้สอดคล้องกับ iOS 26 และลือว่าจะเพิ่มฟีเจอร์ที่ทำให้ประสบการณ์ใช้งาน iPad ใกล้เคียงกับการใช้ Mac มากขึ้น เช่น การปรับปรุงด้าน Productivity, Multitasking, และการจัดการหน้าต่าง (Window Management) ที่ดีขึ้น อาจมี Menu Bar คล้าย Mac เมื่อเชื่อมต่อกับ Magic Keyboard และเพิ่มตัวเลือกปากกา Reed Calligraphy สำหรับ Apple Pencil เพื่อการเขียนภาษาอาหรับ

8. ความเข้ากันได้ของอุปกรณ์และการจำกัดฟีเจอร์

ข่าวลือระบุว่า iOS 26 จะ ไม่รองรับ iPhone XR, iPhone XS และ iPhone XS Max แต่จะยังคงทำงานได้บน iPhone รุ่นอื่นๆ ที่รองรับ iOS 18 (ตั้งแต่ iPhone 11 และ iPhone SE รุ่นที่ 2 เป็นต้นไป) อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่าง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ Apple Intelligence อาจจำกัดเฉพาะ iPhone รุ่นใหม่ๆ ที่มีชิปประมวลผลที่ทรงพลังกว่า (เช่น iPhone 15 Pro และ iPhone 16 series)

อย่างไรก็คาม WWDC 2025 กำลังจะนำเสนอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับระบบปฏิบัติการของ Apple โดยเฉพาะ iOS 26 ที่จะมีการยกเครื่องดีไซน์ครั้งสำคัญ การผสานรวม AI ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อผู้ใช้งานทั่วไป แต่ยังเป็นสัญญาณสำคัญสำหรับนักพัฒนาในการเตรียมพร้อมรับมือกับเทคโนโลยีและแนวทางการออกแบบใหม่ๆ คงต้องติดตามการประกาศอย่างเป็นทางการในงานอีกครั้งว่าข่าวลือเหล่านี้จะเป็นจริงมากน้อยเพียงใด

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.sanook.com/hitech/1613639/&ct=ga&cd=CAIyHDY2MTU4YTVjYWRlYjI0MDk6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw08O6KBXN6KUu19DkhBGE5-

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *