จากกรณี คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติเห็นชอบให้แจ้งข้อกล่าวหาต่อข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในคดีหมายเลข 01-2-0602/2566 ที่มีมูลความผิดเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างโครงการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ วงเงินรวมกว่า 158 ล้านบาท
ทั้งนี้ผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ประกอบด้วย นายเนติพงษ์ ตลับนาค รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ กสทช., อดีตผู้บริหารระดับสูงหลายราย รวมถึง พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. คนปัจจุบัน ซึ่งขณะเกิดเหตุปฏิบัติหน้าที่เลขานุการประธาน กสทช. และเป็นอนุกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศ นั้น
พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้ทราบเรื่องแล้ว แต่ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และกำลังเตรียมชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ภายใน 15 วัน ซึ่งข้อกล่าวหาระบุว่า การจัดซื้อจัดจ้างใน 2 โครงการของสำนักงาน กสทช. ได้แก่ โครงการพัฒนาระบบบริหารการเงิน การบัญชี การจัดการรายได้ และระบบสินทรัพย์ (ERP) วงเงิน 98 ล้านบาท และ โครงการพัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคล (HR) วงเงิน 60 ล้านบาท โดยมีพฤติการณ์ “แบ่งจ้าง” ปรับลดวงเงินงบประมาณลงให้เหลือโครงการละ 50 ล้านบาท เพื่อหลีกเลี่ยงการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. เพื่อให้เป็นอำนาจพิจารณาของ เลขาธิการ กสทช. โดยความเห็นชอบของประธาน กสทช. แทน ซึ่งเจตนาหลีกเลี่ยงกระบวนการตรวจสอบขององค์กร รวมถึงรู้เห็นกับ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี อดีตประธาน กสทช.ในการเสนอให้ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้รับการว่าจ้างเป็นที่ปรึกษาของทั้งสองโครงการ
พล.อ.ท.ธนพันธุ์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือ ตนเองไม่ได้เป็น เลขานุการประธาน กสทช. พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ตามที่กล่าวอ้าง และการกล่าวหาว่ารู้เห็นและให้ว่าจ้าง สจล.ในการดำเนินการทั้ง 2 โครงการ ก็เป็นการกล่าวด้วยวาจา ซึ่งมติที่ประชุมอนุกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ได้เห็นด้วยกับโครงการนี้ โดยเสนอให้บูรณาการทั้ง 2 โครงการ และว่าจ้างที่ปรึกษาที่เป็นมหาวิทยาลัยในงบประมาณ 4 ล้านบาท แทนการจัดซื้อจัดจ้างใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาระบบบริหารการเงิน การบัญชี การจัดการรายได้ และระบบสินทรัพย์ (ERP) วงเงิน 98 ล้านบาท และ โครงการพัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคล (HR) วงเงิน 60 ล้านบาท ซึ่งการปรับลดวงเงินเหลือโครงการละ 50 ล้านบาท เป็นเรื่องของมติบอร์ด กสทช.ในชุดก่อน
“ขอชี้แจงโต้แย้งว่าขณะนั้นตนเองไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดๆ ใน กสทช. เป็นเพียงอนุกรรมการไอที และในการประชุมดังกล่าว มีมติชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการ 2 โครงการนี้ แต่ให้บูรณาการโครงการเข้าด้วยกันและจัดจ้างที่ปรึกษาด้วยวงเงินที่ต่ำกว่ามาก ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของนายเนติพงษ์อย่างสิ้นเชิง”
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.dailynews.co.th/news/4807420/&ct=ga&cd=CAIyHDY2MTU4YTVjYWRlYjI0MDk6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3NK-XZrtsXUo5HL5AFey65