การรับรู้ข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน ส่วนใหญ่จะเป็นผลกระทบจากต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายของผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ไตรมาสแรก ยังไม่เห็น ผลกระทบที่ชัดเจน เนื่องจากผลกระทบ มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ยังไม่มีผลบังคับใช้ จนกว่าจะครบ 90 วันตามที่ ทรัมป์ ได้ขีดเส้นตายเอาไว้ การแสดงพลังในการร่วมมือพันธมิตรทางการค้าการลงทุนของประเทศต่างๆ มุมหนึ่งเป็นการสร้างความร่วมมือในการต่อรองให้มี เพาเวอร์ มากขึ้น แต่อีกมุม เป็นการหยั่งท่าทีของแต่ละประเทศ สุดท้ายก็ต้องยึดเอาประโยชน์ประเทศของตัวเองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น สมาชิกอาเซียน หรือ สมาชิกกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ ตะวันออกกลาง ต่างก็ต้องเอาตัวรอดจากมรสุมเศรษฐกิจ ที่กำลังจะมาถึง
ถ้าลงลึกเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบนอกจากสินค้าการเกษตร พลังงาน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีมูลค่าสูงเริ่มได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ มีมูลค่ามากเท่าไหร่ผลกระทบก็จะแรงมากขึ้นเท่านั้น ดูตัวอย่าง วิกฤติธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีน ทำให้เศรษฐกิจจีนทรุดฮวบฮาบ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ปริมาณการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ลดลง เพราะความระมัดระวังในการใช้จ่ายจากผู้ซื้อทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยห้องชุดในช่วงไตรมาสแรก เป็นการโอนกรรมสิทธิ์จากชาวต่างชาติ จำนวน 3,919 หน่วย มูลค่า 16,392 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ปัจจุบันการถือครองอสังหาริมทรัพย์โดยต่างชาติอยู่ที่ 29.3% ของมูลค่าการโอนทั้งหมด
ในรายละเอียด จีน ยังมีการโอนอสังหาริมทรัพย์มากที่สุด 1,481 หน่วย มูลค่า 6,117 ล้านบาท ลดลงไป 7.2% เมียนมา โอนกรรมสิทธิ์ 439 หน่วย เพิ่มขึ้น 12% มูลค่า 1,587 ล้านบาทมาเป็นอันดับ 2 รัสเซีย 288 หน่วย ลดลง 2.4% มูลค่า 987 ล้านบาทเป็นอันดับ 3 ไต้หวัน 197 หน่วย เพิ่มขึ้น 37.8% ฝรั่งเศส 158 หน่วย เพิ่มขึ้น 22.5% สหรัฐฯ 147 หน่วยลดลง 10.4% อังกฤษ 131 หน่วย เพิ่มขึ้น 21.3% เยอรมนี 115 หน่วย ลดลง 23.8% สิงคโปร์ 93 หน่วย เพิ่มขึ้น 63.2% ออสเตรเลีย 61 หน่วย ลดลง 26.5%
ส่งสัญญาณถึงเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศกำลังจะเจอพายุหมุนระลอกใหญ่ โดยเฉพาะผลกระทบกับการเงินการคลังของประเทศ รายรับรายจ่าย หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในรูปแบบงบประมาณขาดดุลต่อเนื่อง และการใช้งบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีอยู่ 1.57 แสนล้าน จึงจำเป็นต้องมีแผนการใช้เงินและเป้าหมายที่ชัดเจน อะไรจำเป็นไม่จำเป็น เช่นการผลิตปฏิทินของสำนักงานประกันสังคม ปีที่ผ่านมาจัดสรรงบประมาณไว้ที่ 54.89 ล้านบาท ปีก่อนหน้านั้นเคยตั้งงบไว้ถึงประมาณ 76 ล้านบาท
ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์และรายได้.
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thairath.co.th/news/politic/2860683&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw20hyMC70W7EKIqJJ0csoKo