เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลางคณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เป็นคณะกรรมการร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เรียก สว. กลุ่มที่ 2 มารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมชี้แจง กรณีการฮั้วเลือก สว. และมีบรรดานักการเมืองที่ถูกเรียก เข้ามาให้ข้อมูลจำนวน 10 คน ซึ่งเป็นคนสังกัดพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด นักการเมืองที่ถูกสอบบอกว่า “กรรมการไม่อธิบายชัดว่า เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร ไม่ได้แจ้งพฤติการณ์ เราก็ได้แต่ชี้แจงข้อกล่าวหาว่า ไม่เกี่ยวข้อง”

รายงานข่าวภายในดีเอสไอเปิดเผยว่า สำหรับกรณีหนังสือของอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ส่งถึงอธิบดีดีเอสไอ ลงวันที่ 1 พ.ค. 68 เรื่อง เตือนให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหาหรือขอออกหมายจับ นายณฐพร โตประยูร (ผู้ร้องยุบพรรคภูมิใจไทย) ผู้ต้องหาที่ 2 ในคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินฯ (คดีพิเศษที่ 42/2559) ประเด็นเกี่ยวพันคดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น หากทั้ง 2 บุคคลไม่เข้าพบอัยการอีก ดีเอสไอจะเข้าสู่กระบวนการขอศาลอาญารัชดาภิเษกออกหมายจับ
“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย กล่าวว่า คดีนายณฐพรใกล้หมดอายุความในวันที่ 15 มิ.ย. มหาดไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับดีเอสไอว่าหลบซ่อนอยู่ที่ไหน แต่ต้องรอให้ดีเอสไอออกหมายจับก่อน ผู้มีหน้าที่จับกุมต้องอธิบายให้ได้ว่าทำไมปล่อยให้เวลาทอดมาถึงทุกวันนี้ จนใกล้หมดอายุความ นายณฐพร มีหลายคดีแล้ว ตั้งแต่ใช้ชื่อเก่า เช่น คดีเช็คแต่ไม่มีการควบคุมตัวเลย ซึ่งจากที่กรมการปกครองไปตรวจสอบประวัติอาชญากรก็มีหลายคดี
ขณะที่นายณฐพร ไปรายงานตัวกับพนักงานอัยการที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอเลื่อนการสั่งฟ้องคดี และบอกว่า อายุความคดีนี้เหลืออีก 4 ปี ไม่ใช่หมดอายุความในวันที่ 15 มิ.ย. แปลกใจอีกอย่างหนึ่งว่า ภายหลังจากที่เขายื่นยุบพรรค และยื่นคำร้องคดีต่าง ๆ ก็มีคนโทรฯ มาเตือนว่า ให้ระวังตัวเอาไว้ โดยจะให้อัยการดำเนินคดีและไม่ให้ยื่นประกันตัว
“อยากฝากขอบคุณไปถึงพรรคภูมิใจไทยที่ให้ความสำคัญกับผมจนออกมากันทั้งพรรค โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่บอกว่าถ้าดีเอสไอจับตัวผมไม่ได้ ก็จะให้กรมการปกครองจับแทน การกล่าวแบบนี้ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท ในขณะนี้ ผมไม่ได้ถูกหมายจับใดๆ ทั้งสิ้น แต่ผมไม่ฟ้องนายอนุทิน เพราะมองว่าเขาเป็นคนอ่อนด้อยทางสติปัญญา อัยการเลื่อนนัดส่งฟ้องศาลเป็นวันที่ 5 มิ.ย. นี้ก็จะมาพบพนักงานอัยการและพร้อมจะยื่นประกันตัว ได้สอบถามเรื่องอายุความ มีบางส่วนที่จะหมดอายุ ซึ่งก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการ”

สำหรับความเคลื่อนไหวในฝั่ง สว. ที่จะล่ารายชื่อ สว.เพื่อยื่นประธานวุฒิสภา ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ระงับยับยั้ง สว.ประชุมเพื่อรับรององค์กรอิสระ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. บอกว่า ไม่สามารถหาได้ครบ 20 คน เนื่องจาก สว.กลุ่มอิสระ มีเพียง 40-50 คน จะหารายชื่อ 20 คนถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เพราะคำร้องถอดถอน สว.มีเนื้อหาแข็งกร้าว เป็นยาแรง จนอาจกระทบ สว. ที่ลงชื่อ และหากมีการตอบโต้ เอาคืน สว.สีน้ำเงิน ก็สามารถรวมเสียงได้ง่ายชั่วพริบตา
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร กล่าวว่า ต้องใช้ สว.อีก 19 คน จนถึงวันนี้ไม่แน่ใจว่า สว.สีน้ำเงิน มีมากกว่า 150 หรือไม่ และไม่รู้ว่าคนที่เรียกตัวเองว่าสีขาว เปลี่ยนไปแล้วหรือไม่ ในสัปดาห์หน้า คงใช้ช่องทางสุดท้าย เรื่องร้องล้มล้างการปกครอง
ส่วนกรณีลงโทษแพทย์ 3 รายที่เกี่ยวข้องกับคดี “อดีตนายกฯ แม้ว” ชั้น 14 รายงานข่าวแจ้งว่า ท่าทีของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ดูเหมือนจะยับยั้งหรือวีโต้มติของแพทยสภา โดยมองประเด็นขั้นตอนการพิจารณาของอนุกรรมการกลั่นกรอง แพทยสภา ที่มีการเพิ่มโทษ หากรัฐมนตรีมีความเห็นอย่างไร ก็เข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดแพทยสภา ซึ่งมีทั้งหมด 70 คน ก็ต้องมีการลงมติโดยใช้เสียง 2 ใน 3 ว่าจะยืนยันตามมติเดิมของแพทยสภา หรือจะทบทวนตามที่มีการวีโต้กลับมาหรือไม่
“ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากมาก เมื่อมีการวีโต้กลับมาแล้วจะใช้เสียง 2 ใน 3 หรือ จำนวน 47 คน เพื่อยืนยันมติเดิม โดยในส่วนของกรรมการ 35 คน ที่มาจากการเลือกตั้งจะส่งผู้แทนเข้าร่วมไม่ได้ ขณะนี้มีกระแสการล็อบบี้ ทำให้องค์ประชุมน้อยลง สุดท้ายก็ต้องไปดูในวันประชุมจริงคือ 12 มิ.ย.นี้”

วาระในการประชุมสภาสมัยวิสามัญ คือการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดย “สส.ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล กล่าวว่า การตั้งงบประมาณปี 69 ไม่ตอบโจทย์อะไรเลยกับสภาพเศรษฐกิจตอนนี้ เหมือนเป็นงบประมาณปกติ ปีนี้งบกระตุ้นเศรษฐกิจเหลือ 2.5 หมื่นล้านบาท ส่วนโครงการอื่นๆ หน้าตาเหมือนเดิมทั้งหมด อาจจะมีบางโครงการที่พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น โครงการที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งปีนี้ทำตัวเลขขึ้นมาจนได้เกือบ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนกรณีอดีตนายกฯ แม้ว “ทักษิณ ชินวัตร” ให้แบ่งงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทไปปราบปรามยาเสพติด ดูเป็นเรื่องเกินเลย เพราะใช้งบนอกหลักการที่ ครม.อนุมัติ ให้ไปขอ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ใช้งบกลาง
“2 ปีของการจัดงบประมาณของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยที่ใช้เงินมือเติบ สุรุ่ยสุร่าย เราอยากจัดสรรงบปี 69 ใหม่ให้เหมาะสม วาระ 1 อาจจะตัดไม่ได้ แต่เราจะไปตัดกันในชั้น กมธ.วิสามัญ มติของพรรค ปชน.คือ โหวตไม่เห็นด้วยกับการจัดงบในครั้งนี้”

ผู้สื่อข่าวถามนายกฯ อิ๊งค์ เรื่องพ่อแม้วเสนอความเห็นให้โยกงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ที่จะใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ออกมาใช้แก้ไขปัญหายาเสพติด นายกฯ ไม่ตามใจพ่อ บอกว่า มันมีงบประมาณเรื่องยาเสพติดอยู่แล้ว หรืออะไรที่จำเป็นเร่งด่วนก็จะใช้งบกลาง แต่อันไหนที่อยู่ในงบประมาณได้ก็อยู่ในงบประมาณ ค่อนข้างที่จะครอบคลุมทุกหัวข้อ และถ้าพ่อแม้วมาช่วยลงพื้นที่ดูเรื่องยาก็เห็นเป็นเรื่องดี
จากนั้น นายกฯ อิ๊งค์ แถลงต่อที่ประชุมสภา ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 วาระแรก ว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าโลก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย จากราคาน้ำมันดิบโลกและมาตรการภาครัฐ ด้านภาวการณ์เงินโดยรวม ยังตึงตัวแต่ฐานะการเงินด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี เงินสำรองระหว่างประเทศ วันที่ 31 ธ.ค. 2567 มี 237,045 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้ปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลต้องดำเนินนโยบายงบประมาณขาดดุล เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนการฟื้นตัวและส่งเสริมอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับเหมาะสม
งบประมาณรายจ่ายปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น รายจ่ายประจำ 2.65 ล้านล้านบาท รายจ่ายชดใช้เงินคงคลัง 123,541 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 864,077 ล้านบาท และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 151,200 ล้านบาท รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย จำนวน 669,365 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรองรับเหตุการณ์กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้ข้อจำกัดด้านรายได้และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก จึงดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุล เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างมั่นคง เกิดผลสัมฤทธิ์การพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป.
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.dailynews.co.th/news/4756387/&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2nvZxGyOt3ZW4LEsBx4I5i