TDRI เตือนรัฐบาล พิจารณารอบด้านก่อนดัน Entertainment Complex ที่มี กาสิโน ชี้ยังเสี่ยง ทั้งภาพลักษณ์และสังคม หนุนเดินหน้า Wellness เห็นผลชัด ตอบโจทย์เศรษฐกิจยั่งยืน
แนวคิดการจัดตั้ง Entertainment Complex ซึ่งรวมถึง “กาสิโน” ไว้เป็นส่วนหนึ่ง กำลังเป็นที่ถกเถียงในวงสาธารณะต่อเนื่อง หลังมีความพยายามผลักดันให้โครงการดังกล่าวกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทย ฝากฝั่งรัฐบาล และผู้สนับสนุนมองว่า โครงการนี้จะสามารถดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนจำนวนมากและสร้างรายได้จากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะเป็น “จุดเปลี่ยนประเทศเศรษฐกิจไทย”
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเสียงสนับสนุนก็มีเสียงคัดค้านอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในแง่ ผลกระทบทางสังคม ภาพลักษณ์ของประเทศ และความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย เนื่องจากโครงการประเภทนี้เกี่ยวข้องกับเงินลงทุนขนาดใหญ่และกิจกรรมที่ถูกมองว่าเป็น “อบายมุข” เช่น การพนัน ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ เป็น “สีเทา”
ที่ผ่านมา นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เสนอแนวคิดให้รัฐบาล ผลักดันให้ไทยเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลาง Wellness Center แทน Entertainment Complex โดยชี้ว่า Wellness สอดรับกับแนวโน้มของโลก และตอบโจทย์การเข้าสู่สังคมสูงวัยได้ดีกว่า
ข้อเสนอนี้ได้รับการสนับสนุนจากนักวิชาการชั้นนำอย่าง ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ซึ่งกล่าวกับ สำนักข่าวโพสต์ทูเดย์ ว่า แม้ทั้งสองแนวทางสามารถดำเนินควบคู่กันได้ แต่ต้องพิจารณาความเหมาะสมและความคุ้มค่าอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจเดินหน้า
กลุ่มธุรกิจ Wellness เห็นประโยชน์ชัด ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ในขณะที่ Entertainment Complex ยังไม่เห็นประโยชน์ชัดเจน เมื่อเทียบกับต้นทุนความเสี่ยงทางสังคมที่อาจเกิดขึ้น
ดร.นณริฏ ยังเน้นย้ำว่า การดำเนินโครงการลักษณะ Entertainment Complex ต้องมีการประเมินความคุ้มค่า การออกแบบมาตรการลดผลกระทบทางสังคม และที่สำคัญคือ การป้องกันความเสี่ยงเชิงนโยบายจากการโครงการที่มีเม็ดเงินขนาดใหญ่ ควบคู่กับการทำประชามติรับฟังเสียงประชาชน และการรักษาผลประโยชน์ของรัฐอย่างสูงสุด
ในทางตรงกันข้าม กลุ่มธุรกิจ Wellness มีตัวอย่างความสำเร็จที่เริ่มเป็นรูปธรรมแล้วในประเทศไทย อาทิ ศูนย์ Wellness ขนาดใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น และธุรกิจ Non-Medical Wellness ที่ขยายตัวจากจุดแข็งด้านบริการนวดและสปาในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างจริงจัง ก็จะสามารถยกระดับเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน
มองว่าเศรษฐกิจคุณภาพ ไม่ควรพึ่งพาอบายมุข เป็นแกนหลัก เช่น สุรา การพนัน หรือกัญชา แม้จะขายได้กับนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม แต่ก็มีผลเสียกับประชากรกลุ่มอื่นๆ และมักนำมาซึ่งปัญหาสังคมตามมา ทางหลักธรรมถึงมองว่ากิจกรรมพวกนี้มันคือ หนทางแห่งความเสื่อม จึงมองว่าไม่ควรพัฒนาเศรษฐกิจไปในแนวทางนี้
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.posttoday.com/business/724677&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw0MJ_ZVBFP6V7UBUiwUYAuz