DMT ชูธงจ้างงานผู้สูงวัย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สอดรับสังคมสูงอายุ – TheReporterAsia

“ทางยกระดับดอนเมือง” หรือ DMT ประกาศนโยบายเชิงรุก เปิดรับผู้สูงอายุเข้าทำงาน ตอบโจทย์สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบของไทย หวังดึงศักยภาพ ประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ มาขับเคลื่อนองค์กรและเศรษฐกิจประเทศ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิต สอดรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) นำร่องรับแล้ว 2 ตำแหน่ง สะท้อนวิสัยทัศน์องค์กรที่ใส่ใจสังคมอย่างแท้จริง

ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์” (Complete Aged Society) อย่างเป็นทางการ ซึ่งหมายถึงการมีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด หรือประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 14 สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้โครงสร้างประชากรของประเทศเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัดส่วนแรงงานในวัยทำงานที่ลดน้อยลง ก่อให้เกิดความท้าทายต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ผู้ให้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ดอนเมืองโทลล์เวย์” ภายใต้การนำของ ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ ได้ตระหนักถึงประเด็นดังกล่าวและเล็งเห็นคุณค่าของผู้สูงอายุที่ยังมีศักยภาพ

ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่มองว่า ผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยยังคงมีสุขภาพแข็งแรง เปี่ยมด้วยประสบการณ์ ความรู้ และทักษะเฉพาะด้านที่สั่งสมมายาวนาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นทรัพยากรบุคคลอันล้ำค่าที่สามารถนำมาต่อยอดและสร้างประโยชน์ให้แก่องค์กรและสังคมโดยรวมได้ แทนที่จะมองว่าผู้สูงอายุเป็นภาระ การดึงศักยภาพของพวกเขากลับเข้ามาในระบบเศรษฐกิจจึงเป็นแนวทางที่ชาญฉลาดและสร้างสรรค์

ด้วยเหตุนี้ DMT จึงได้ริเริ่มนโยบายใหม่ในการเปิดโอกาสจ้างงานผู้สูงอายุเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม ผ่านการเพิ่มกำลังซื้อและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจของผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีรายได้ที่มั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ลดความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าหรือความรู้สึกด้อยค่า นโยบายนี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 8 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth) และเป้าหมายที่ 10 การลดความเหลื่อมล้ำ (Reduced Inequalities)

เบื้องต้น DMT ได้นำร่องรับผู้สูงอายุที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเข้าทำงานแล้วจำนวน 2 ท่าน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการผลักดันนโยบายนี้ให้เกิดขึ้นจริง และพร้อมที่จะเป็นอีกหนึ่งองค์กรตัวอย่างในการสร้างสังคมที่ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง

การตัดสินใจของ DMT ในการเปิดรับผู้สูงอายุเข้าทำงานนับเป็นโมเดลที่น่าสนใจและสอดรับกับทิศทางนโยบายของภาครัฐที่พยายามส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ เพื่อรองรับโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเป็น “สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด” (Super Aged Society) ในอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า ซึ่งหมายถึงการมีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 28 หรือประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 การเตรียมความพร้อมด้านกำลังแรงงานจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวด

การจ้างงานผู้สูงอายุก่อให้เกิดประโยชน์หลายมิติ ประการแรกต่อตัวผู้สูงอายุเอง การมีงานทำช่วยให้พวกเขามีรายได้เลี้ยงชีพ ลดการพึ่งพิงบุตรหลานหรือสวัสดิการจากภาครัฐ นอกจากนี้ การได้ทำงานยังช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่า ได้พบปะผู้คน มีกิจกรรมทำ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพจิตและอาจชะลอความเสื่อมถอยของร่างกายได้อีกด้วย

ประการที่สองต่อองค์กร การจ้างงานผู้สูงอายุช่วยให้องค์กรได้บุคลากรที่มีประสบการณ์สูง มีความรอบคอบ และมีความผูกพันกับองค์กร (Loyalty) ที่มักจะสูงกว่าพนักงานอายุน้อย ผู้สูงอายุหลายท่านยังมีทักษะเฉพาะทางที่หาได้ยากในตลาดแรงงานปัจจุบัน นอกจากนี้ การผสมผสานระหว่างพนักงานต่างวัย (Generational Mix) ยังก่อให้เกิดการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่น สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่หลากหลายและแข็งแกร่ง

ประการที่สามต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม การดึงผู้สูงอายุกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานช่วยเพิ่มจำนวนแรงงานในระบบ ลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในบางสาขาอาชีพ ช่วยเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) โดยรวมของประเทศ และยังช่วยลดภาระทางการคลังของภาครัฐในด้านสวัสดิการผู้สูงอายุในระยะยาวได้อีกด้วย

แน่นอนว่าการจ้างงานผู้สูงอายุอาจมีความท้าทายอยู่บ้าง เช่น การปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือข้อจำกัดด้านสุขภาพในบางกรณี อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้สามารถบริหารจัดการได้ผ่านการออกแบบตำแหน่งงานที่เหมาะสม การจัดโปรแกรมฝึกอบรมพัฒนาทักษะ (Reskill/Upskill) การจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เอื้ออำนวย (Age-Friendly Workplace) และการส่งเสริมสุขภาพที่ดีในที่ทำงาน

ความคิดริเริ่มของDMT ภายใต้การนำของ ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย จึงไม่เพียงแต่เป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในระดับองค์กรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อให้ผู้สูงอายุสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีและมีคุณภาพ การให้ความสำคัญกับศักยภาพของผู้สูงอายุ และการสร้างโอกาสให้พวกเขายังคงเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ สะท้อนถึงความเป็นผู้นำองค์กรที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและใส่ใจในทุกมิติของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การที่DMT ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้รับการรับรองมาตรฐานสากลหลายด้าน เช่น ISO 9001, ISO 14001, ISO 45001 และ ISO/IEC27001 ได้ออกมาประกาศนโยบายเช่นนี้ ย่อมส่งผลเชิงบวกต่อภาพลักษณ์ขององค์กร และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้องค์กรอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนหันมาให้ความสำคัญกับการจ้างงานผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประเทศไทยในการรับมือกับความท้าทายของสังคมสูงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

#DMT #ทางยกระดับดอนเมือง #จ้างงานผู้สูงอายุ #สังคมผู้สูงอายุ #แรงงานสูงวัย #เศรษฐกิจไทย #SDGs #การพัฒนาที่ยั่งยืน #ดอนเมืองโทลล์เวย์ #ศักดิ์ดาพรรณไวย #CSR #นโยบายแรงงาน