รายงาน World Economic Situation and Prospects 2025 คาดว่าเ ศรษฐกิจโลกจะเติบโตชะลอลงจาก 2.9% ในปี 2024 เหลือเพียง 2.4% ในปีนี้ การเติบโตที่ลดฮวบนี้เป็นผลมาจากแนวโน้มการค้าโลกที่อ่อนแอลงแต่กลับตึงเครียดมากขึ้น และกระแสการลงทุนที่ชะลอตัว โดยหนึ่งในสาเหตุหลักคือ นโยบายการค้าที่ไม่แน่นอน ของประเทศมหาอำนาจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ในโลกที่แตกแยกทางเศรษฐกิจ อาเซียนอาจไม่ได้รับเพียงแค่ผลกระทบด้านลบ เพราะผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ในอนาคต อาเซียนเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีแนวโน้มเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุด
สำรวจเศรษฐกิจอาเซียน: ย้อนมองอดีตและแนวโน้มในอนาคต
นับตั้งแต่การเปิดตัวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ในปี 2015 เศรษฐกิจของประเทศสมาชิกอาเซียนโดยรวมได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็น “ม้ามืด” ที่หลายคนมองข้าม อ้างอิงจากบทความ The ASEAN region is the world’s economic dark horse. Here’s why ของ World Economic Forum ในปี 2023 ที่ระบุว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มเติบโตของ GDP ถึง 4.6% โดยมีสาเหตุหลักมาจาก นวัตกรรม และ การเปิดรับอย่างทั่วถึง
จิตติมา นาคมะโน ผู้อำนวยการสำนักประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ฉายภาพกว้างของพัฒนาการทางเศรษฐกิจตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ในการเสวนา ASEAN 2024: วิสัยทัศน์ โอกาส และความ (คาด) หวัง ที่จัดโดยกระทรวงการต่างประเทศ
“ความสำเร็จเชิงเศรษฐกิจของอาเซียนสะท้อนให้เห็นว่า GDP เพิ่มขึ้นถึง 4.66 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มูลค่าการค้าภายในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น และมี FDI (การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ) เพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น ปัจจุบันมีแรงงานที่พร้อมรองรับการค้าและการลงทุนในภูมิภาคจำนวน 325 ล้านคน และยังมีการดึงแรงงานสตรีเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากถึง 66%”
ด้าน ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา (TDRI) กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจโลกจะเผชิญความท้าทายจากภูมิรัฐศาสตร์ แต่อาเซียนยังเติบโตได้มากกว่าภูมิภาคอื่น
“โลกจะเติบโตช้าลงในปีนี้ ทุกภูมิภาคเลยค่ะ แต่อาเซียนของเรายังมีแนวโน้มเติบโตในระดับสูงสุด คือโตเกือบ 10%” อาจารย์กิริฎากล่าว โดยอ้างอิงข้อมูลจาก IMF และเสริมว่า หนึ่งในสาเหตุคือประเทศขนาดเล็กมักมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่า
“และหากเรามองไปในอนาคตปี 2030 จะเห็นว่าอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตมากกว่าปัจจุบันอีก คือมีแนวโน้มโตปีละ 10% ในปี 2030 ซึ่งมากกว่าปัจจุบันที่ราว 4% ดังนั้นอาเซียนจะยังเป็นภูมิภาคที่น่าจับตา น่าลงทุน และยังคง ‘เซ็กซี’ สำหรับนักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะในภาวะที่โลกกำลังแบ่งขั้ว ทุกคนต่างมองหาเพื่อนใหม่ มองหาการลงทุนใหม่ ๆ และมีการปรับ supply chain มาสู่ภูมิภาคที่เติบโตเร็วและตอบโจทย์เขาได้”
ตามข้อมูลของ World Bank ประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียนยังจัดอยู่ในกลุ่มรายได้ระดับปานกลาง (middle-income) แต่ก็มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ อาจารย์กิริฎายังเน้นย้ำถึงข้อได้เปรียบอื่น ๆ ของอาเซียน เช่น การมีประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก เมื่อเทียบกับยุโรป อเมริกาเหนือ หรือเอเชียตะวันออก ขณะที่ประเทศอย่างสิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ที่มีแนวโน้มเข้าสู่สังคมสูงวัยเร็วกว่า c9jก็ยังมีประชากรที่มีคุณภาพและหลากหลาย ซึ่งช่วยให้สินค้าและบริการมีความหลากหลาย และสามารถหมุนเวียนแรงงานจากประเทศที่มีประชากรวัยเยาว์ไปยังประเทศที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุได้อีกด้วย
“อาเซียนมีหลายมิติที่สามารถร่วมมือกันได้ นอกจากเรื่องคน เรายังมีเรื่องการค้าขาย เช่น ASEAN FTA ที่ลดภาษีนำเข้า แม้ว่าการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีจะยังคงมีอยู่ก็ตาม” อาจารย์กล่าว
การกีดกันทางการค้าในลักษณะที่ไม่ใช่ภาษีเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่อาเซียนยังคงเผชิญ แม้จะมีแนวโน้มที่ดี นอกจากนี้ การค้าขายกันเองภายในภูมิภาคอาเซียนก็ลดลงเช่นกัน อุปสรรคเหล่านี้ เมื่อรวมกับเศรษฐกิจโลกที่เติบโตช้าและผันผวน ยังคงเป็นสิ่งที่อาเซียนต้องพิจารณาในการวางแผนเศรษฐกิจของภูมิภาค
แล้วอาเซียนมีวิสัยทัศน์การพัฒนาเศรษฐกิจตลอด 2 ทศวรรษหน้าอย่างไร
วิสัยทัศน์เศรษฐกิจอาเซียน วันนี้–2045
เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจอาเซียน 2045 มีความโดดเด่นจากแผนฉบับก่อนตรงที่ความชัดเจนของเป้าหมาย โดยตั้งเป้าให้อาเซียนก้าวขึ้นเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับสี่ของโลกภายในปี 2045 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่มีความเป็นรูปธรรม และวางอยู่บนหลักของความร่วมมือ ความยืดหยุ่น และความยั่งยืน
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ 6 ข้อ
1. เน้นปฏิบัติ
- เพิ่มประสิทธิภาพด้านศุลกากรด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ
- เร่งเปิดเสรีด้านการค้า เพิ่มการส่งเสริมการชำระเงินด้วยสกุลเงินท้องถิ่น
- อำนวยความสะดวกในการลงทุน ทำธุรกิจในอาเซียนให้ง่ายขึ้น
- เพิ่มข้อตกลงการยอมรับร่วมในสาขาการบริการที่มีศักยภาพ
- ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกิดใหม่
2. ยั่งยืน
- ส่งเสริมตลาดคาร์บอนในอาเซียน
- เพิ่มการใช้เทคโนโลยีลดการปล่อยคาร์บอน
- บูรณาการมาตรฐาน ESG
- ส่งเสริมสาขาเกษตร การขนส่ง การท่องเที่ยว และแร่ธาตุให้มีความยั่งยืน
3. คล่องตัว กล้าหาญ ใช้นวัตกรรมเป็น
- ผลักดันธุรกรรมข้ามพรมแดนโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์
- กระตุ้นการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Big Data, AI, หรือ Cloud
- ส่งเสริมความร่วมมือในสาขาต่างๆ เช่น การคุ้มครองผู้บริโภค การแข่งขัน การขนส่ง MSMEs ภาษี แร่ธาตุ และกฎระเบียบ
- พัฒนาศักยภาพแรงงาน และอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายบุคลากรดิจิทัล
- สนับสนุนทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์
4. ปรับตัวต้องเก่ง
- ยกระดับความตกลง FTA+1
- เพิ่มมิติการค้าใหม่ๆ เช่น แรงงาน สิ่งแวดล้อม และ MSMEs
- ขยายหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไปยังภูมิภาคใหม่ๆ
- ยกระดับห่วงโซ่มูลค่าโลก โดยเน้นสาขาที่มีศักยภาพ
- พัฒนาความร่วมมือในสาขายุทธศาสตร์ เช่น เทคโนโลยี และความยั่งยืน
5. คล่องตัวและเข้มแข็ง
- พัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ตลอดชีวิต
- ใช้ประโยชน์จากกองทุนระดับภูมิภาคเพื่อตอบสนองภาวะฉุกเฉิน
- เสริมสร้างการจัดการทรัพยากรน้ำ
- ขยายและเชื่อมโยงการค้าพลังงานพหุภาคี
- เสริมสร้างกลไกสำรองข้าวฉุกเฉิน และแหล่งอาหารท้องถิ่น
6. ครอบคลุม มีส่วนร่วม ร่วมมือกัน
- เพิ่มการเข้าถึงแหล่งทุนที่ยั่งยืน
- เสริมสร้างความรู้ทางการเงินให้กับกลุ่มเปราะบางและชายขอบ
- เสริมสร้างกลไกร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เช่น เอกชน ประชาสังคม นักวิชาการ และสถาบันการเงิน
กลยุทธ์ในการพัฒนาเศรษฐกิจอาเซียนมองหาโอกาสท่ามกลางวิกฤต เช่น โอกาสในการสร้างความร่วมมือใหม่จากการเปลี่ยนแปลงของการค้าโลก ที่ก่อให้เกิดการแบ่งขั้วและการไม่พึ่งพาตลาดใดมากเกินไป ซึ่งเป็นความท้าทายที่อาเซียนต้องพัฒนาให้เท่าทัน
ยังมีความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยก๊าซคาร์บอนของภูมิภาคที่ยังค่อนข้างสูง และการมองหาเศรษฐกิจแบบยั่งยืนเพื่อรองรับการลงทุนในอนาคต อย่างไรก็ตาม อาเซียนมีแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งในการรับมือกับความท้าทายด้านสภาพอากาศ
การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีอาจเป็นโอกาสหนึ่งที่อาเซียนสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาแรงงาน ธุรกิจ และการหาแหล่งเงินทุน อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่
“อาเซียนนับว่าเป็นภูมิภาคที่มีความพร้อม มีประชากรที่เยาว์วัย และสามารถเติบโตได้อีกมาก” จิตติมากล่าว
คอนเทนต์แนะนำ
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.amarintv.com/spotlight/economy/516258&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3zsSvdwYKHJiOOoXUp5IuJ