“เศรษฐกิจอุบลฯ” ซบเซากว่า 70 % จากเหตุการณ์ปะทะ ไทย-กัมพูชา

วันที่ 8 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด – ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ ตามที่สื่อมีการนำเสนอไปแล้วนั้น

สำหรับบรรยากาศการค้าขายในตัวอำเภอน้ำยืน ยังคงมีการค้าขายตามปกติ ด้านพ่อค้าแม่ค้า เผยว่า ตั้งแต่มีเหตุการณ์ความไม่สงบการค้าขายซบเซาหายไปประมาณ 70 % หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อแบบนี้อาจจะต้องปรับแผนในการค้าขายใหม่ซึ่งตอนนี้แม่ค้าหลายคนยังไม่กล้าที่จะลงทุนอะไรเพิ่ม

จากการสอบถามนางสาวทัศนีย์ เดียงอุ่น อายุ 30 ปี ผู้จัดการร้านกกเต็ง เปิดเผยว่าการค้าขายในช่วงนี้ค่อนข้างซบเซา คนในพื้นที่เริ่มเก็บเงินมากขึ้น ออกมาจับจ่ายใช้บริการน้อยลงเพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าจะต้องใช้เงินมากน้อยแค่ไหนหากเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่าตนเองและชาวบ้านอยู่อย่างหวาดระแวงได้ยินเสียงดังก็ตกใจ

อีกทั้งประชาชนในพื้นที่เองเริ่มมีความไม่แน่ใจในสถานการณ์ จึงทำให้มีการเตรียมความพร้อมกันมาก ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ผู้ที่มาใช้บริการเหลือเพียง 30 % ผู้ที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นคนนอกพื้นที่ เป็นทหาร หรือ ผู้ที่มามอบของให้กับทางทหาร

ส่วนตนเองมองว่าสถานการณ์นี้น่าจะยืดเยื้อไปอีกนานถ้ายังไม่มีความชัดเจน ในส่วนของร้านค้าเองก็ต้องรอดูสถานการณ์และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์อีกครั้ง และขอเป็นกำลังใจให้กับทางเจ้าหน้าที่ ทหาร ขอให้สู้ๆ เป็นกำลังใจให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว