เว็บไซต์รัฐบาลไทย

เว็บไซต์รัฐบาลไทย
เว็บไซต์รัฐบาลไทย

ธนารักษ์ครบรอบ 92 ปี กับการก้าวสู่กรม “เพิ่มมูลค่าและคุณค่าทรัพย์สินของแผ่นดิน” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม เดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน

กรมธนารักษ์ครบรอบ 92 ปี ชูยุทธศาสตร์เดินหน้าสู่กรม “เพิ่มมูลค่าและคุณค่าทรัพย์สินของแผ่นดิน” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยในโอกาสวันสถาปนากรมธนารักษ์ครบรอบ 92 ปี ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมธนารักษ์มีบทบาทและภารกิจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศชาติทั้งด้านที่ราชพัสดุ ด้านการประเมินราคาทรัพย์สิน ด้านเหรียญกษาปณ์ และด้านทรัพย์สินมีค่าของรัฐ ซึ่งกรมธนารักษ์ได้มีการพัฒนาและยกระดับการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้การดำเนินงานของกรมธนารักษ์สอดรับกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ช่วยก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการทำภารกิจหน้าที่ของกรมธนารักษ์ในการดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนคนไทย และเกิดประโยชน์ทั้งเชิงเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม กรมธนารักษ์ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าวจึงได้มีการยกระดับการดำเนินงานทั้งระบบ พร้อมทั้งเดินหน้าการทำงานตามยุทธศาสตร์ในการเพิ่มมูลค่าและคุณค่าทรัพย์สินของแผ่นดิน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งเสริม สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการทำงานเพื่อให้สะดวก รวดเร็ว แม่นยำ โปร่งใส และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับการบริการที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว

ดร. เอกนิติ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2568 กรมธนารักษ์ได้รับมอบหมายให้จัดเก็บรายได้จำนวน 11,000 ล้านบาท ซึ่งจากการยกระดับการทำงานทั้งระบบตามยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ของกรมธนารักษ์ ทำให้ในปีงบประมาณ 2568 กรมธนารักษ์สามารถจัดเก็บนำส่งรายได้ 7 เดือน (เดือนตุลาคม 2567 – เดือนเมษายน 2568) สูงถึง 10,649 ล้านบาท โดยผลการจัดเก็บรายได้เทียบกับประมาณการรายได้ สูงกว่าประมาณการ 8.54 % หรือคิดเป็น 97% ของประมาณการรายได้ทั้งปี

ดร. เอกนิติ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการทำหน้าที่จัดเก็บรายได้ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนั้น กรมธนารักษ์ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ โดยในปีนี้ (ปี 2568) กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการต้นแบบต่าง ๆ เพื่อให้บุคลากรเจ้าหน้าที่ธนารักษ์ทุกพื้นที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการทำงาน เพื่อให้ดำเนินงานได้ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ โดยจะมีการดำเนินการผ่านกลยุทธ์ VALUE ประกอบด้วย

V หรือ Value มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าที่ราชพัสดุ ผ่านการจัดทำ Master Plan เพื่อพัฒนาพื้นที่แบบองค์รวมโดยอยู่ระหว่างการทำพื้นที่ทดลอง Sandbox ในจังหวัดนครนายก หรือ นครนายกโมเดล เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบ

A : Appraise มุ่งเน้นการเพิ่มความแม่นยําในการประเมินราคาที่ดินด้วยการพัฒนาฐานข้อมูลการประเมินราคาให้สอดคล้องกับราคาตลาดและเป็นธรรม โดยตั้งเป้าที่จะลดความต่างระหว่างราคาประเมินและราคาตลาดให้เหลือไม่เกิน 15% ภายในปี 2569 พร้อมทั้งพัฒนาระบบสืบค้นราคาประเมินที่ดินออนไลน์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลราคาประเมินได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว

L : Legacy มุ่งเน้นการเพิ่มคุณค่าทางประวัติศาสตร์ให้เหรียญกษาปณ์และพิพิธภัณฑ์ของกรมธนารักษ์ ด้วยการยกระดับการผลิตและจำหน่ายเหรียญกษาปณ์ให้เป็นมาตรฐานสากลและพัฒนาตลาดรองเพื่อเพิ่มมูลค่าเหรียญกษาปณ์ให้ตรงตามความต้องการของนักสะสมเหรียญ และนำแนวคิด ESG มาใช้ในกระบวนการผลิตเหรียญกษาปณ์ พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับชุมชนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์และอนุรักษ์วัฒนธรรม และยกระดับพิพิธภัณฑ์ของกรมฯ ให้สามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนในพื้นที่และละแวกใกล้เคียง

U : Unity มุ่งเน้นความเป็นหนึ่งเดียวของบุคลากร ส่งเสริมให้คนธนารักษ์ เป็นคนเก่ง ดี (ผ่านองค์กรคุณธรรม) และมีความสุข รวมถึงเพิ่มเติมทักษะที่จำเป็นทั้งในเรื่องงาน Current Skill และ Future Skill ผ่านโรงเรียนธนารักษ์ออนไลน์

E : Efficiency มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการให้บริการประชาชน ด้วยการนำกระบวนการทำงานแบบ Agile และการนำเทคโนโลยีดิจิทัล การวิเคราะห์ข้อมูล และเอไอ (Digital, Data, AI) มาใช้ยกระดับในการทำงาน

นอกจากนี้ยังมีโครงการต้นแบบที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ อาทิ 1) โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ต้นแบบ โดยมีชุมชนเป็นแกนกลางเพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน 2) โครงการร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อนำที่ราชพัสดุมาใช้ประโยชน์ในการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชน 3) โครงการต้นแบบพัฒนาอาคารเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม 4) โครงการต้นแบบพลังงานสะอาด อาทิ การทำฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ในที่ราชพัสดุ การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคาร เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกรมธนารักษ์ในการเพิ่มมูลค่าและคุณค่าทรัพย์สินของแผ่นดิน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งเสริม สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม เดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน
 

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/96695&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2UoTx4fP5SXCQGI4spVUcF

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *