เกษตรวิถีใหม่และเศรษฐกิจฐานราก แนวทางสู่ความมั่นคงอย่างยั่งยืน

เกษตรวิถีใหม่และเศรษฐกิจฐานราก แนวทางสู่ความมั่นคงอย่างยั่งยืน

ในยุคที่ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนสู่ “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) และ “เศรษฐกิจพอเพียง” ภาคการเกษตรต้องปรับตัวด้วยแนวทาง เกษตรวิถีใหม่ (New Agriculture) และ เศรษฐกิจฐานราก (Local Economy) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร โดยมี หน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง ให้การสนับสนุนทั้งด้านนโยบาย เทคโนโลยี และเงินทุน

เกษตรวิถีใหม่: นวัตกรรมเพื่อเกษตรกรยุคใหม่

1. เกษตรแม่นยำ (Precision Farming) ด้วยเทคโนโลยี

• สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ใช้ข้อมูลดาวเทียมและโดรนช่วยเกษตรกรวิเคราะห์พื้นที่เพาะปลูก ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต

• กรมส่งเสริมการเกษตร ผลักดันการใช้แอปพลิเคชัน “Farmbook” บันทึกข้อมูลการเกษตรแบบดิจิทัล

2. เกษตรอินทรีย์และระบบนิเวศยั่งยืน

• กรมวิชาการเกษตร ส่งเสริมการปลูกพืชผสมผสานและใช้ปุ๋ยชีวภาพ ลดสารเคมี

• โครงการ “เมืองเกษตรสีเขียว” โดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงสิ่งแวดล้อม

3. การแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่ม

• สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) พัฒนานวัตกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร เช่น การทำแพ็กเกจจิ้งรักษ์โลก

• กรมการค้าภายใน ช่วยเกษตรกรสร้างแบรนด์และตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม “ตลาดดิจิทัลเกษตรไทย”

เศรษฐกิจฐานราก: เสริมความแข็งแกร่งให้ชุมชน

1. โครงการชุมชนเข้มแข็ง

• กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) สนับสนุน “โคก หนอง นา โมเดล” ตามหลักทฤษฎีใหม่ของในหลวง รัชกาลที่ 9

• กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดย กระทรวงมหาดไทย ให้เงินทุนหมุนเวียนพัฒนาอาชีพ

2. การตลาดชุมชนและ OTOP

• โครงการ “OTOP นวัตวิถี” ส่งเสริมสินค้าชุมชนด้วยการออกแบบสมัยใหม่ และเชื่อมโยงกับตลาดระดับประเทศ

• ตลาดประชารัฐ และ ตลาดสีเขียว ช่วยกระจายสินค้าฐานรากสู่ผู้บริโภค

3. การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์

• การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่งเสริม “วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยว” เช่น ฟาร์มสเตย์ agro-tourism

• โครงการ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” โดย สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (ททท.) เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับเศรษฐกิจฐานราก

  ที่มา : กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม