“ศิริกัญญา” ห่วงเศรษฐกิจไทยปัญหาซ้ำเดิม หนี้สาธารณะท่วม แตะ 69% ของ GDP

“ศิริกัญญา”-ห่วงเศรษฐกิจไทยปัญหาซ้ำเดิม-หนี้สาธารณะท่วม-แตะ-69%-ของ-gdp
“ศิริกัญญา” ห่วงเศรษฐกิจไทยปัญหาซ้ำเดิม หนี้สาธารณะท่วม แตะ 69% ของ GDP

“ศิริกัญญา” ห่วงเศรษฐกิจไทยปัญหาซ้ำเดิม หนี้สาธารณะท่วม แตะ 69% ของ GDP เหลืออีก 2 แสนล้านจะชนเพดาน เสี่ยงเบียดบังเงินคงคลัง รัฐต้องพึ่งปันผลวิสาหกิจโปะรายได้ หลังเก็บภาษีต่ำเป้าต่อเนื่อง “คลัง” รับมืออย่างไร จี้ถาม “ธปท.” ไทยเข้าสู่ภาวะเงินฝืดจริงหรือไม่

11 มิ.ย. 2568 ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 สภาผู้แทนราษฎร วาระการพิจารณาภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ โดยมี 4 หน่วยงานเข้ามาชี้แจง ประกอบด้วย สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์), ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ

ในช่วงหนึ่ง ศิริกัญญา ตันสกุล สส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการ สอบถามหน่วยงานถึงปัญหาภาพรวมเศรษฐกิจ โดยระบุว่า พูดถึงเรื่องนี้ทุกปีจนเหมือนกับคนที่มีอาการวิตกจริต แต่คิดว่าปีนี้มีความเหมาะสมที่จะพูดเรื่องนี้มากที่สุด ซึ่งไม่ใช่การตามจับผิด แต่เข้าใจได้ว่าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า จึงต้องการฟังยุทธศาสตร์ในการเตรียมตัวรับมือกับเรื่องนี้

ศิริกัญญา ยกข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒน์ และรายงานนโยบายการเงิน ธปท. ชี้ว่า GDP ที่เป็นตัวเงิน หรือ Nominal GDP ลดลง จึงคาดว่าน่าจะกระทบกับประมาณการรายได้ ประมาณ 0.85% แล้วยังมีตัวแปรอื่นๆ เช่น ราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดลง 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล รวมแล้วจะทราบผลกระทบต่อประมาณการรายได้ราว 2% จึงน่าจะจัดเก็บรายได้ตกเป้าไปแล้วประมาณ 63,000 ล้านบาท

“เรื่องนี้ไม่ได้โทษใคร เพราะเราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสงครามการค้าจะหนักขนาดนี้ แต่แนวทางในการรับมือดังกล่าวควรจะเป็นอย่างไร” ศิริกัญญากล่าว

นอกจากนี้ จากรายงานของงบประมาณปี 2567 พบว่ารายได้การจัดเก็บภาษีตกเป้าไปเกือบ 8 หมื่นล้านบาท กระทรวงการคลังพยายามทำให้ปิดหีบได้ ด้วยเงินปันผล ปตท. ก่อนหมดปีงบประมาณ รวมถึงกองทุนวายุภักดิ์ และกองสลาก ต่อมาในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 เหตุการณ์เหมือนกลับมาซ้ำเดิม การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตก็ตกเป้าแล้ว 3.3 หมื่นล้าน ทำให้รัฐวิสาหกิจต้องมาแบกรับภาระ รายได้นำส่งคลังจึงเพิ่มขึ้นกว่าประมาณการถึง 26.5% ซึ่งฝากกระทรวงการคลังชี้แจงว่า รัฐวิสาหกิจใดรับภาระอยู่ตอนนี้

สำหรับปีงบประมาณ 2569 ได้มีความพยายามปรับเป้าของการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตลงมา 3.1 หมื่นล้านบาทจากปีก่อนหน้า ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี จึงอยากสอบถามว่าปัญหาเดิมๆ ที่เคยทำให้เราจัดเก็บภาษีสรรพสามิตได้ไม่ตรงเป้าสามารถจัดการได้หรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษีรถยนต์มีอุปสรรคจาก ปริมาณรถยนต์ที่ขายได้น้อยลง ประเภทรถยนต์ที่เปลี่ยนไปใช้รถ EV ขณะที่ภาษีบุหรี่จัดเก็บได้น้อยลง เนื่องจากผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่เถื่อนมากขึ้น ทำให้แนวโน้มของภาษียาสูบลดลงจากปี 2560 เกือบ 20,000 ล้าน จึงอยากทราบเหตุผลที่ปรับเป้าการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตลงมาว่าได้แก้ไขปัญหาเดิมแล้วหรือไม่

สำหรับคาดการณ์รายจ่ายที่ 3.78 ล้านล้านบาท อาจมีบางส่วนที่ไม่พอและจำเป็นต้องเบียดบังงบกลางเงินสำรองฉุกเฉิน หรือไปจนถึงเงินคงคลัง อย่างงบตาม พ.ร.บ.ที่ต่ำกว่าเบิกจ่าย ทั้งในส่วนของเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ และค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ เหตุใดสำนักงบประมาณกับกรมบัญชีกลางจึงไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะมีข้าราชการเกษียณหรือเสียชีวิตกี่คน

ส่วนงบชำระดอกเบี้ยก็มีการตั้งงบประมาณไว้ต่ำกว่า แผนการคลังระยะปานกลาง ซึ่งในปี 2568 ต้องชำระดอกเบี้ยสูงถึง 11.3 % แต่เมื่อชำระจริงผ่านการตั้งงบประมาณในปี 2567 กลับอยู่ที่เพียง 8% กว่าๆ ซึ่งท้ายที่สุดในปี 2567 ก็ต้องไปใช้เงินคงคลังนำมาจ่ายดอกเบี้ย และในปี 2569 ก็จะเกิดเหตุการณ์แบบเดิมอีก เมื่อต้องใช้ชำระดอกเบี้ยสูงถึง 11.5% แต่ร่างงบประมาณปี 2569 กลับตั้งงบประมาณไว้เพียง 9.20%

“ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ถ้าไม่ทำไปตามที่วางแผนไว้ตามแผนการคลังระยะปานกลางเลย เพราะนอกจากกรอบวงเงินแล้ว ส่วนข้างในที่เหลือแทบจะไม่ปฏิบัติตามเลย แล้วเราจะยังมีแผนการคลังระยะปานกลางเอาไว้ทำไม” ศิริกัญญาระบุ

ขณะที่งบประมาณ ในการกู้นั้น ตั้งแต่ปี 2568 ยอดหนี้สาธารณะใกล้จะชนเพดาน จนมาในปี 2569 ที่มีการกู้ 13.5 ล้านล้านบาท ทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ 69% เหลือพื้นที่ให้กู้เพิ่มได้เพียง 2.1 แสนล้านบาทเท่านั้น ซึ่งไม่ช้าก็เร็วก็คงจะต้องขยายเพดานหนี้สาธารณะ จึงขอถามความเห็นจากกระทรวงการคลัง ว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้

นอกจากนี้ ยังสอบถามไปถึง ธปท. ด้วย ในเรื่องของภาวะเงินฝืด เพราะเมื่อวานมีนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่ภาวะเงินฝืด กำลังซื้อเราอ่อนแอลงจริงหรือไม่

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://ch3plus.com/news/economy/morning/441485&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw1CSu0uKxj9CQE5PH-1b3ui

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *