การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกับพฤติกรรมการบริโภคของผู้คน ถึงแม้ในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนเข้าปกคลุม แต่ผู้บริโภคจำนวนมากกลับยังคงเลือกซื้อสินค้าเล็กๆ ที่มอบความรู้สึกพิเศษให้กับตัวเอง หนึ่งในปรากฏการณ์ที่สะท้อนพฤติกรรมเช่นนี้ได้อย่างชัดเจนคือ “Lipstick Effect” ซึ่งถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องทั้งในแวดวงธุรกิจ ความงาม และจิตวิทยาผู้บริโภค
แนวคิดเรื่อง Lipstick Effect ได้รับความสนใจในวงการเศรษฐกิจและความงามอย่างกว้างขวาง โดยมีจุดเริ่มต้นจากการสังเกตของ Leonard Lauder อดีตประธานบริษัท Estée Lauder ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 เขาพบว่าแม้จะอยู่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและความไม่แน่นอนหลังเหตุการณ์วิกฤตต่างๆ แต่ยอดขายลิปสติกของแบรนด์กลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแม้ผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงจะลดการใช้จ่ายในสินค้าหรูหราราคาแพง เช่น เสื้อผ้าแบรนด์เนม กระเป๋าดีไซเนอร์ หรือการท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่พวกเธอกลับยังคงเลือกลงทุนกับสิ่งเล็กๆ ที่ให้ความรู้สึกพิเศษและเติมเต็มคุณค่าทางใจได้อย่างน่าประหลาดใจ
ภายใต้สถานการณ์ที่รายจ่ายต้องได้รับการควบคุมอย่างรอบคอบ สินค้าชิ้นเล็กอย่างลิปสติก น้ำหอมขนาดพกพา กาแฟพรีเมียม หรือเครื่องประดับแฟชั่นจึงกลายเป็น “รางวัลเล็กๆ” ที่ช่วยปลอบประโลมความรู้สึกและสะท้อนความหรูหราในระดับที่จับต้องได้ เป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจในตัวเอง แม้ท่ามกลางข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของปรากฏการณ์ Lipstick Effect อย่างแท้จริง
Photo : IG : @kendalljenner, @sooyaaa__
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.vogue.co.th/beauty/make_up/article/lipstick-effect&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw0YA5n-y-GePLArAJXWwsaL