รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าของประเทศชิลี ฉบับที่ 6 ประจำปี 2568 จาก สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าของประเทศชิลี-ฉบับที่-6-ประจำปี-2568-จาก-สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ-ณ-กรุงซันติอาโก-–-กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าของประเทศชิลี ฉบับที่ 6 ประจำปี 2568 จาก สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

ภาพรวมเศรษฐกิจ 

  • เศรษฐกิจของประเทศชิลีประจำเดือนเมษายน 2568 ในภาพรวม GDP ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 3.4% ภาคการลงทุนของชิลีแม้จะยังอยู่ในแดนลบแต่ปรับตัวดีขึ้นหลังจากภาคธุรกิจและนักลงทุนคลายความกังวลต่อมาตรการด้านภาษีของของสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนโดยชิลีอยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกเก็บภาษีต่ำที่สุด (10%) อัตราเงินเฟ้อภายในประเทศปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.5% ในขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.8% การนำเข้าและการส่งออกโดยรวมของชิลีเพิ่มขึ้นที่ 8.1% และ 5.9% ตามลำดับ โดยมีสินแร่และทองแดงเป็นสินค้าส่งออกหลัก ระหว่างเดือนมกราคม – เมษายน 2568 ชิลีส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นถึง 7.2% รวมมูลค่ากว่า 1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2568 ชิลีมีมูลค่าการส่งออกสินค้าไปยังไทยมากเป็นอับดับที่ 1 และนำเข้าสินค้าจากไทยมากเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมมูลค่าการค้ากว่า 433 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 15.3% ในส่วนของรายละเอียดในแต่ละด้านประจำเดือนเมษายน 2568 สคต. ณ กรุงซันติอาโก ขอสรุปรายละเอียด ดังนี้

1. การบริโภคภาคเอกชน (ข้อมูลจากธนาคารกลางชิลี )

การบริโภคภาคเอกชนของชิลีประจำเดือนเมษายน 2568 ในภาพรวมขยายตัวขึ้น 3.4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า   สอดคล้องกับดัชนีกิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้น 3.1% โดยสินค้าที่มีการบริโภคเพิ่มมากขึ้นสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ (1) หมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ (2) หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี และ (3) หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเพิ่มขึ้น 10.4%, 8.5%, 6.8% ตามลำดับ ทั้งนี้ มีสินค้าเพียงสองหมวดที่มีการบริโภคลดลงในเดือนนี้ ได้แก่ หมวดรถยนต์ใหม่ และหมวดยางรถยนต์-อุปกรณ์แต่งยนต์ โดยลดลงที่ -4.3% และ -1.3%

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนเมษายน 2568   ปรับระดับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากที่ระดับ 42.8  มาอยู่ที่ 43.1 เพิ่มขึ้น 0.8%

2.การลงทุน (ข้อมูลจากธนาคารกลางชิลี https://www.bcentral.cl/)

บรรยากาศการลงทุนในภาครัฐและเอกชนของชิลีประจำเดือนเมษายน 2568 ในภาพรวมปรับตัวลดลง โดยสะท้อนจากตัวเลขการขออนุญาตก่อสร้าง (คิดเป็นตารางเมตร) ลดลง จาก 8.4 แสนตรม. มาอยู่ที่ 6.9 แสนตรม. ลดลง -17.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ถึงแม้ว่าจะยังอยู่ในแดนลบแต่มีการปรับตัวดีขึ้น โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากการก่อสร้างในภาคอุตสาหกรรมและการค้าที่เพิ่มขึ้น 26.5% หลังสหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีโดยชิลีอยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกเก็บภาษีต่ำที่สุด (10%) ทำให้ภาคการลงทุนของชิลีคลายความกังวล

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวมประจำเดือนเมษายน 2568 ปรับระดับจาก 44.1 มาอยู่ที่ 46.1 เพิ่มขึ้น 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยภาคธุรกิจที่มีดัชนีความเชื่อมั่นสูงที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ (1) ภาคธุรกิจเหมืองแร่ (2) ภาคการค้า และ (3) ภาคการผลิต โดยอยู่ที่ 63.8, 50.8 และ 40.4 ตามลำดับ

3. เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ (ข้อมูลจากธนาคารกลางชิลี https://si3.bcentral.cl และสำนักงานสถิติแห่งชาติของชิลี https://www.ine.gob.cl)

อัตราการว่างงานของประเทศชิลีในเดือนเมษายน 2568 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.8% ของจำนวนผู้ใช้แรงงานทั้งหมดในประเทศ หากพิจารณาแยกตามเขตการปกครอง แคว้นที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุดคือ แคว้นตาราปาก้า ที่ 10.8% และแคว้นที่มีอัตราการว่างงานต่ำที่สุดคือ แคว้นมากายาเนส ที่ 4.2%

อัตราเงินเฟ้อของประเทศชิลีในเดือนเมษายน 2568 ปรับระดับลดลงมาอยู่ที่ 4.5% โดยสินค้า 3 หมวดแรก ที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 12 เดือนนี้ ได้แก่ (1) หมวดที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค (2) หมวดร้านอาหารและโรงแรม และ (3) หมวดประกันภัยและบริการทางการเงิน โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นที่  10.6%, 6.7% และ 6.5% ตามลำดับ

4. การส่งออก-นำเข้า (ข้อมูลจากกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศของชิลี SUBREI – www.subrei.gob.cl)

การส่งออกสินค้าของชิลีระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2568   มีมูลค่ารวมที่ 36,036 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่

สินค้า ม.ค.-เม.ย. (ล้านเหรียญสหรัฐ) ขยายตัว

(67/68)

ปี 2567 ปี 2568
สินแร่ 18,071 19,378 7.2%
ผลไม้ 4,738 4,748 0.2%
ปลาแซลมอน 2,160 2,272 5.2%
เคมีภัณฑ์ 2,557 2,602 1.8%
เยื่อกระดาษ 1,394 1,415 1.5%
เครื่องจักรและส่วนประกอบ 712 864 21.3%
เฟอร์นิเจอร์จากไม้ 737 733 -0.5%

การนำเข้าของชิลีระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2568 มีมูลค่ารวมที่ 27,214 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้านำเข้าหลัก ได้แก่

สินค้า ม.ค.-เม.ย. (ล้านเหรียญสหรัฐ) ขยายตัว

(67/68)

ปี 2567 ปี 2568
สินค้าหมวดพลังงาน 14,684 15,213 3.6%
สินค้าอุปโภคบริโภค 7,315 8,220 12.4%
สินค้าทุน 5,036  5,866 16.5%
 -รถยนต์เชิงพาณิชย์ 643 880 36.9%
 -เครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมก่อสร้าง 326 617 89.3%

จากตัวเลขการส่งออกของชิลีที่สูงกว่าตัวเลขการนำเข้า  ทำให้ชิลีได้ดุลการค้าจำนวน 8,822 ล้านเหรียญสหรัฐ

5. การค้าของชิลีกับไทย และกลุ่มประเทศอาเซียน (ข้อมูลสถิติทางการค้าจาก Global Trade Atlas)

ชิลีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม -เมษายน 2568 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 209.04 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 30.25% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า) ซึ่งสินค้าที่นำเข้าจากไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  • รถยนต์และส่วนประกอบ (80.85 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 58.45%)
  • เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (45.28 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 31.45%)
  • ปลากระป๋อง (25.88 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น33%)
  • ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง (23 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.54%)
  • เครื่องจักรไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า (22 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -52.28%)

สำหรับตัวเลขการนำเข้าของชิลีจากกลุ่มประเทศอาเซียนใน 5 อันดับแรก ได้แก่

  • ชิลีนำเข้าจากเวียดนาม 557.67 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 26.08%)
  • ชิลีนำเข้าจากไทย 209.04 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 30.25%)
  • ชิลีนำเข้าจากอินโดนีเซีย 151.84 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 26.73%)
  • ชิลีนำเข้าจากมาเลเซีย 83.43 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 43.83%)
  • ชิลีนำเข้าจากสิงคโปร์ 42.96 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 32.95%)

ชิลีส่งออกสินค้าไปยังประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม -เมษายน 2568 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 224.28 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 4.17% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า) ซึ่งสินค้าที่ส่งออกไปยังไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  • ทองแดง (99 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -14.36%)
  • แซลมอนและอาหารทะเล (53 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 72.93%)
  • เยื่อกระดาษ (53 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.92%)
  • สินแร่อื่น ๆ (03 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -11.74%)
  • ผลไม้และผลิตภัณฑ์ธัญพืช (16.23 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 37.90%)

สำหรับตัวเลขการส่งออกของชิลีไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนใน 5 อันดับแรก ได้แก่

  • ชิลีส่งออกไปยังไทย 224.28 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 4.17%)
  • ชิลีส่งออกไปยังเวียดนาม 121.93 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 18.20%)
  • ชิลีส่งออกไปยังมาเลเซีย 83.13 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 6.47%)
  • ชิลีส่งออกไปยังฟิลิปินส์ 44.73 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -71.74%)
  • ชิลีส่งออกไปยังสิงคโปร์ 31.11 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -50.68%)

มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทย-ชิลี ระหว่างเดือนมกราคม – เดือนเมษายน 2568 อยู่ที่ 433.32 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 15.31%)  โดยชิลีส่งออกสินค้าไปยังไทยมากกว่านำเข้าจากไทย ทำให้ไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้าที่ 15.24 ล้านเหรียญสหรัฐ

_______________________________________

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก

มิถุนายน 2568

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.ditp.go.th/post/205784&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw1MXa4IeT1wOgZgNWm1RMed

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *