ราคาทองคำโลกทรงตัว เฟดชี้ความเสี่ยงเงินเฟ้อสูง-เศรษฐกิจถดถอย

รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันพุธ (28 พ.ค.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า ราคาทองคำทรงตัวในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนประเมินรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งระบุความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เพิ่มขึ้น ตอกย้ำความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเวลาที่สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโลกยังคงผันผวน

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ทรงตัวที่ 3,299.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 14.20 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18.20 GMT)

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ (Gold Futures) ปิดตลาดลดลง 0.2% ที่ 3,294.90 ดอลลาร์ 

• อัปเดต:ราคาทองร่วงแรงเช้าวันนี้ (29 พ.ค.) หลังศาลสหรัฐยกเลิกภาษีตอบโต้ทรัมป์

บลูมเบิร์ก รายงาน ราคาทองคำลดลงถึง 1.1% ในวันพฤหัสบดี หลังลดลง 2% ในสามวันก่อนหน้า เนื่องจากศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ตัดสินว่าภาษีส่วนใหญ่ของทรัมป์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อส่วนใหญ่

ราคาทองคำในตลาดสปอตลดลง 0.7% เหลือ 3,264.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 8.40 น. ตามเวลาในสิงคโปร์ ดัชนี Bloomberg Dollar Spot เพิ่มขึ้น 0.3% เงินและแพลตตินัมลดลง ขณะที่แพลเลเดียมแทบไม่เปลี่ยนแปลง

“ตลาดทองคำผันผวนเล็กน้อยในช่วงนี้ โดยตอบสนองต่อเหตุการณ์ข่าวพื้นฐานรายวันใหม่ๆ โดยไม่มีแนวโน้มราคาที่ชัดเจน” จิม ไวคอฟฟ์ นักวิเคราะห์อาวุโสของ Kitco Metals บริษัทผู้ค้าโลหะมีค่า กล่าวกับรอยเตอร์ 

ในการประชุมวันที่ 6-7 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่เฟดยอมรับว่าอาจเกิด “การจำต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งที่ยากลำบาก” ในอนาคตอันใกล้นี้ จากอัตราเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานที่สูงขึ้น และเตือนถึงความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เพิ่มขึ้น ตามบันทึกการประชุม

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าโลก หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่เมื่อต้นเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม ภาษีบางส่วนที่เรียกเก็บในอัตราสูงได้รับการผ่อนปรนหรือเลื่อนออกไปหนึ่งสัปดาห์ต่อมา

• คาดราคาทองคำยังแข็งแกร่ง

ทองคำ ซึ่งทำผลงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และทำหน้าที่เป็นที่หลบภัยของนักลงทุนในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนนั้น ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 26% ในปีนี้จนถึงขณะนี้ และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเมษายน

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โกลด์แมน แซคส์แนะนำให้จัดสรรทองคำในพอร์ตโฟลิโอระยะยาวมากขึ้นกว่าปกติ โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อความน่าเชื่อถือของสถาบันของสหรัฐฯ โดยมีแรงกดดันต่อเฟด และความต้องการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกที่มีอย่างต่อเนื่อง

ตลาดจับตาดูข้อมูลการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี ตัวเลขดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)  ในวันศุกร์ และความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ 

ขณะที่ การนำเข้าทองคำจากสหรัฐฯ ไปยังสวิตเซอร์แลนด์พุ่งสูงขึ้นในเดือนเมษายน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดรายเดือนนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นอย่างน้อย หลังจากที่สหรัฐฯ ยกเว้นโลหะมีค่าจากภาษีนำเข้า

ด้านราคาโลหะเงินในตลาดลดลง 0.9% เหลือ 32.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลตตินัมเพิ่มขึ้น 0.1% อยู่ที่ 1,081.09 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมลดลง 1.2% อยู่ที่ 967.10 ดอลลาร์