รัฐปรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่ม

รัฐปรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ-หนุนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่ม
รัฐปรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่ม

รัฐปรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่ม

วันอังคาร ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนพฤษภาคม2568 อยู่ที่ระดับ 48.9 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนเมษายน2568 ที่อยู่ที่ระดับ 48.8ปัจจัยสนับสนุนมาจากการปรับแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐ ให้สอดคล้องกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจการค้าโลก เน้นการลงทุนโครงการที่มีศักยภาพ แทนการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตรอบ 3 ความกังวลมาตรการภาษีสหรัฐฯ ผ่อนคลายลง หลังชะลอไป 90 วัน และการส่งออกเดือนเมษายน 2568 ขยายตัวต่อเนื่องจากการเร่งส่งมอบ

รายละเอียดผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภค พบว่า ด้านเศรษฐกิจไทยส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคมากที่สุด คิดเป็น 49.84 %รองลงมา คือ มาตรการของภาครัฐ คิดเป็น14.11 %เศรษฐกิจโลก คิดเป็น 9.76% ราคาสินค้าเกษตร คิดเป็น 8.31% สังคม/ความมั่นคง คิดเป็น 6.91 %การเมือง คิดเป็น 4.49% ภัยพิบัติ/โรคระบาด คิดเป็น 3.49 %ผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง คิดเป็น 2.72% และอื่น ๆ คิดเป็น 0.37 %ตามลำดับ

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม ยังอยู่ต่ำกว่าระดับความเชื่อมั่น จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าโลกที่ยังคงยืดเยื้อ ความกังวลของประชาชนต่อระดับหนี้ครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ยังอยู่ในระดับสูง ราคาสินค้าเกษตรบางชนิดของไทยและประเทศคู่แข่งขันที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากปริมาณผลผลิตทางการเกษตรที่ออกสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้น อาจส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกร รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และภาคการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลงตามฤดูกาล ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดพบว่า ภาครัฐดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชน อาทิ การปรับแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้  มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ด้วยการอำนวยความสะดวกในการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการประกาศแผนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งสำหรับการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ และยังมีการติดตามสถานการณ์การใช้มาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับการเจรจาอย่างรอบด้าน เพื่อให้การเจรจาบรรลุผลสำเร็จและเป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.naewna.com/business/890408&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3Wk8RSH7ksEH4NKMK6gSDS

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *