HoonSmart.com>> บลจ.ยูโอบี (UOBAM) แนะปรับพอร์ตตั้งรับกำแพงภาษีสหรัฐฯ ยังสร้างความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เพิ่มโอกาสสหรัฐฯ เสี่ยงเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น คาดเฟดอาจหั่นดอกเบี้ย 3-4 ครั้ง ในปีนี้ จากเดิมมองไว้ 1-2 ครั้ง กลยุทธ์ลงทุนไตรมาส 2/68 ลดน้ำหนัก “หุ้น” ลดความเสี่ยงด้านเครดิต “ตราสารหนี้” นักลงทุนรับความเสี่ยงได้ต่ำกระจายลงทุนเพิ่มในตราสารหนี้-ทองคำ พร้อมคัด 6 กองทุนเด่นกระจายลงทุนฝ่าความผันผวน
หลังจาก “ประธานาธิบดีทรัมป์” ประกาศมาตราการการตั้งภาษีนำเข้ากับสินค้ากับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ หลายประเทศ ทำให้ “ตลาดหุ้นทั่วโลก” เกิดความผันผวน ผลที่ตามมาต่อสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกไม่ยังชัดเจนนัก ซึ่งนโยบายภาษีอาจแย่กว่าที่คาดไว้และคาดเดาได้ยากว่า จะมีความยืดหยุ่นในการเจรจาเรื่องมาตรการภาษีเหล่านี้ได้หรือไม่ การขยายมาตรการในวงที่กว้างขึ้นจะทำให้การเจรจายากขึ้นในระยะสั้น
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) หรือ UOBAM ประะมินผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นว่า ประเทศจีน กลุ่มประเทศในยุโรป และผู้ส่งออกในเอเชียหลายรายจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เม็กซิโกและแคนาดาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากภาษีนำเข้า 25% ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ แม้ว่าการบังคับใช้จะล่าช้าออกไปก็ตาม อย่างไรก็ตาม ประเทศอย่างจีนยังมีช่องทางให้บริษัทต่างๆ ลดผลกระทบจากภาษีบางส่วนได้
“อุตฯรถยนต์-ชิ้นส่วนรถยนต์-อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์-เครื่องจักรในประเทศ”กระทบมากสุด
“ในมุมกลุ่มอุตสาหกรรม มีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดน่าจะเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรในประเทศ UOBAM คาดว่าผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาสินค้าในวงกว้างอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งแม้ว่าผลกระทบอาจไม่ได้เกิดขึ้นทันที เนื่องจากบริษัทหลายแห่งได้มีการนำเข้าสินค้าไว้ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้ (Stockpiling) และในระยะกลางหากมีการตอบโต้จากประเทศที่ได้รับผลกระทบ คาดว่าอุตสาหกรรมและเกษตรกรในสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบมากกว่านี้”
ในระยะสั้นผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสหรัฐฯ ในระดับผู้กำหนดนโยบาย UOBAM มองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ท้าทายในการประเมินผลกระทบต่อเงินเฟ้อจากมาตรการภาษีเหล่านี้ และหาจุดสมดุลในการดำเนินนโยบายที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ส่วนภาคธุรกิจอาจต้องเผชิญกับปัญหาด้านการจัดการและดำเนินธุรกิจระดับอัตรากำไร (Margin) ที่อาจแคบลงจากราคาต้นทุนที่ปรับขึ้น รวมถึงความยากในการวางแผนจัดสรรเงินลงทุนที่อาจมีเพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้บริโภคในสหรัฐฯ อาจประสบปัญหาในการตัดสินใจว่าควรเลื่อนการซื้อใดออกไป และจะปรับสมดุลงบประมาณอย่างไร โดยเฉพาะอาจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในการจ้างงาน
อย่างไรก็ตาม หากนโยบายและมาตรการต่างๆ เหล่านี้มีความชัดเจนเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ความไม่แน่นอนที่กดดันตลาดและธุรกิจต่างๆ ลดลง ซึ่งอย่างน้อยก็จะช่วยให้สามารถวางแผนและตัดสินใจได้ ซึ่ง “UOBAM” มองว่าความไม่แน่นอนเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อ่อนแอลง และความชัดเจนดังกล่าวอาจช่วยทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจกลับมามีเสถียรภาพได้
“สหรัฐฯ เสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น”
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เราพบว่าโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยมีน้อย โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถรองรับต่อการปรับนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่สุดในรอบหลายทศวรรษจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องได้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงอีกท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นการบริโภคของสหรัฐฯ เริ่มมีสัญญาณชะลอตัวลง ซึ่งหากอัตรากำไรของธุรกิจหดตัวลงอาจนำไปสู่การที่บริษัทต่างๆ พิจารณาลดต้นทุนและลดการจ้างงาน ซึ่งอาจทำให้การบริโภคลดลง และอาจทำให้ต้องเลิกจ้างเพิ่มมากขึ้น ทำให้ ณ จุดนี้ เมื่อพิจารณาจากความแข็งกร้าวของการประกาศนโยบายภาษี “UOBAM” จึงเพิ่มโอกาสที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยขึ้นเป็น 40% จากระดับ 25%
ในกรณีฐาน (Base Case) “UOBAM” มีมุมมองว่า มาตราการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ นั้น จะส่งผลให้การคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการค้าโลก (Global Trade) ในช่วงข้างหน้าชะลอตัวลง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากหลายๆ ประเทศมีโอกาสที่จะบรรลุการเจรจาการค้ากับประเทศสหรัฐฯเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงอัตราภาษีการค้าในระดับสูงได้
นอกจากนั้น ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังสามารถลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจได้ โดย UOBAM ได้ปรับเพิ่มมุมมองต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed จาก 1-2 ครั้ง เป็น 3-4 ครั้ง ในปี 2568 นี้
กระจายลงทุนลดน้ำหนัก “หุ้น” – ลดความเสี่ยงด้านเครดิต “ตราสารหนี้”
สำหรับพอร์ตการลงทุน แนะนำให้นักลงทุนให้ความสำคัญอย่างมากกับ “การจัดการความเสี่ยงพอร์ตอย่างเหมาะสม” และประเมินความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจต่อนโยบายต่างๆ อย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกันนักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนกมากเกินไป ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายภาษีที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจมีเพิ่มมากขึ้น
“เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว และหากยังคงชะลอตัวลงต่อเนื่อง เราอาจต้องปรับเพิ่มคาดการณ์การเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยขึ้นตามมา และจะนำสู่โอกาสปรับลดลงของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ของสหรัฐฯ “UOBAM” แนะนำให้ลดความเสี่ยงของพอร์ตในภาพรวมลง และลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นลงมาเป็น “Slightly Underweight” จาก “Neutral” ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้เราแนะนำให้ลดความเสี่ยงด้านเครดิตลง”
ในทางกลับกัน เศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถทนทานต่อการหยุดชะงักจาก COVID และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างดี และอาจต้านทานนโยบายภาษีศุลกากรที่กดดันตลาดอยู่ในปัจจุบันได้เช่นกัน
กรณีพื้นฐานของ “UOBAM” คือ การเติบโตที่ช้าลง ไม่ใช่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในสถานการณ์เช่นนี้ การปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จนถึงขณะนี้ สะท้อนปัจจัยด้านลบไปบางส่วน กรณีที่ตลาดปรับลดลงอย่างมากอาจเป็นโอกาสให้สามารถ “ทยอยสะสมลงทุนเพิ่มเติม” สำหรับนักลงทุนที่สามารถ “รับความเสี่ยงได้สูง” และนักลงทุนควรกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคอื่นๆ ได้
ส่วนนักลงทุนที่สามารถ “รับความเสี่ยงได้ต่ำ” อาจเพิ่มกระจายการลงทุนยังสินทรัพย์ประเภทเสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้คุณภาพ เป็นต้น และอาจพิจารณาลงทุน “ทองคำ” เพื่อป้องกันความเสี่ยงขาลงให้กับพอร์ตการลงทุน
สำหรับการจัดสรรเงินลงทุนตามประเภทสินทรัพย์ แนะนำให้ระมัดระวังการลงทุนใน “กองทุนหุ้น” สำหรับนักลงทุนที่ “รับความเสี่ยงได้ปานกลาง” อาจรอดูสถานการณ์และจังหวะการลงทุน (Wait & See) โดยสามารถพักเงินในกองทุนตลาดเงิน แนะนำ กองทุน TCMF และอาจหาจังหวะลงทุนในกองทุนตราสารหนี้โลกที่มีการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพซึ่งมี Duration ของกองทุนไม่ยาวนัก ซึ่งจะช่วยสร้าง Income ที่ดี ในขณะที่สามารถ Protect Downside ให้กับพอร์ตการลงทุนได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวน แนะนำกองทุน UGIS-N
สำหรับนักลงทุนที่สามารถ “รับความเสี่ยงได้สูงถึงสูงมาก” และสามารถ “ลงทุนในระยะเวลาที่ยาว” ขึ้นได้ แนะนำ “ช่วงที่ตลาดปรับลดลงทยอยลงทุน” (Buy on Dip) ในกองทุนหุ้นโลกที่มีการกระจายตัวและผันผวนต่ำ แนะนำกองทุน UGD, กองทุน UESG
นอกจากนี้อาจกระจายลงทุนในสินทรัพย์หรือกองทุนที่ลงทุนด้วยกลยุทธ์ที่ไม่เคลื่อนไหวตามตลาด เพื่อลดความเสี่ยงตลาดของพอร์ตลง แนะนำกองทุน UOBSG-N, UGEAR
การจัด “Asset Allocation” ช่วยสร้างโอกาสการลงทุน พร้อมกับการกระจายความเสี่ยงไปในตัว เพื่อรับมือความไม่แน่นอนและความผันผวนตลาด
———————————————————————————————————————————————————–
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://hoonsmart.com/archives/359369&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw07rKrP2K0auLKcnY0Jbdsa