ฤดูกาลเก็บเกี่ยวทุเรียนในจังหวัดเชียงรายเริ่มขึ้นอย่างคึกคัก โดยเฉพาะพันธุ์มูซังคิงที่ทยอยสุกในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ขณะที่พันธุ์หมอนทองจะเริ่มออกผลต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ส่งสัญญาณชัดเจนว่า “ทุเรียนเชียงราย” กำลังกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของภาคเหนือ
พื้นที่ปลูกทุเรียนในจังหวัดเชียงรายมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมือง อำเภอแม่สาย และอำเภอเวียงชัย ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศและอากาศที่เอื้อต่อการเพาะปลูกไม้ผล แม้ต้องใช้การดูแลอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะช่วงออกดอกและติดผล แต่ผลผลิตที่ได้ถือว่าคุ้มค่าและมีคุณภาพสูง
พันธุ์มูซังคิง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ราชาทุเรียนมาเลเซีย” เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มเกษตรกรเชียงราย โดยพบว่าสามารถปลูกได้ดีในพื้นที่สูง ผลทุเรียนมีน้ำหนักเฉลี่ย 3–4 กิโลกรัม กลิ่นหอมละมุนคล้ายดอกมะลิ เนื้อเนียน รสชาติกลมกล่อม และได้รับความสนใจจากตลาดอย่างต่อเนื่อง
เกษตรกรในพื้นที่ระบุว่า ทุเรียนที่ปลูกในเชียงราย หากมีอายุระหว่าง 5–10 ปี จะให้ผลผลิตเฉลี่ยราว 60–80 ลูกต่อต้นต่อฤดูกาล โดยทุเรียนพันธุ์หมอนทองยังคงเป็นพันธุ์หลักที่ปลูกควบคู่กัน ทั้งนี้ การปลูกทุเรียนในพื้นที่เหนือสุดของประเทศไทยแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวของเกษตรกร ที่สามารถนำพืชเขตร้อนมาปลูกบนพื้นที่สูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากทุเรียนแล้ว ยังมีการปลูกผลไม้อื่น ๆ แซมในพื้นที่ เช่น เงาะ ฝรั่ง และไม้ผลอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรายได้และความยั่งยืนในการทำเกษตรแบบผสมผสาน
ทุเรียนเชียงรายจึงไม่เพียงเป็นแค่ผลไม้ตามฤดูกาล แต่ยังสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของภาคการเกษตรภาคเหนือ ที่กำลังก้าวสู่การเป็นแหล่งผลิตทุเรียนคุณภาพอีกแห่งหนึ่งของประเทศ.











———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.chiangmainews.co.th/social/3684926/&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2NKs62pTNX2X3BuPYuJ9w2