นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาทนั้น วันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปโครงการที่ขอใช้เงิน เราจะพิจารณาอย่างละเอียด
และโครงการที่ใช้งบดังกล่าวจะต้องเข้าเงื่อนไข 4 กลุ่มเป้าหมายที่กำหนด ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ฉะนั้น ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันพรุ่งนี้จึงจะเลื่อนออกไปก่อน
“การพิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท เราจะไม่รีบร้อน เพราะเงินก้อนใหญ่ และต้องใช้ให้เข้าเงื่อนไขตามกรอบที่กำหนด หากเสนอมาไม่ตามเงื่อนก็ต้องกลับไปทบทวน”
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ นั้น คาดว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะมีการอนุมัติโครงการ เนื่องจากมีคำขอโครงการเข้ามาจำนวนมากกว่า 10,000 โครงการ มูลค่ากว่า 400,000 ล้านบาท
สำหรับการประชุมคณะอนุกรรมการฯ วันนี้ จะมีการกำหนดกรอบการใช้งบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท ให้มีการลงรายละเอียดและมีความชัดเจนมากขึ้น เช่น โครงการน้ำจะต้องเป็นโครงการในพื้นที่ที่เกิดปัญหาน้ำท่วท หรือภัยแล้งซ้ำซาก ไม่ใช่ในพื้นที่ใดก็ได้ ส่วนโครงการถนนต้องเป็นโครงการที่เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันโลจิสติกส์ของประเทศได้
นอกจากนี้ จะมีการกำหนดให้ทุกโครงการไม่ใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างวิธีพิเศษ จะต้องมีการประมูลโครงการตามวิธีปกติ รวมทั้งจะไม่พิจารณาโครงการที่วงเงินต่ำกว่า 500,000 บาท เพื่อไม่ให้เม็ดเงินเกิดการรั่วไหล เหมือนที่หลายฝ่ายกังวล
“วงเงิน 1.57 แสนล้าน ไม่จำเป็นต้องพิจารณาใช้เป็นงบลงทุนทั้งหมดก็ได้ สุดท้ายหากจัดสรรโครงการไม่ครบทั้งหมด ก็จะมีกลไกนำงบประมาณดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ และตอนนี้ยังมีเวลาพิจารณาโครงการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรอบคอบ เนื่องจากประเมินว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 เมื่อมาตรการภาษีของสหรัฐจะมีความชัดเจนและคลี่คลายมากขึ้น“
สำหรับสถานการณ์นโยบายภาษีสหรัฐนั้น ขณะนี้มีข่าวดีแล้วว่าไทยจะได้เจรจากับสหรัฐอย่างเป็นทางการ ซึ่งหากเป็นไปได้ด้วยดี ผลกระทบทางเศรษฐกิจก็จะเบาบางลง อย่างไรก็ตาม ภาษีศุลกากรพื้นฐานที่สหรัฐจะเก็บทุกประเทศ 10% น่าจะยังคงอยู่ แต่ขอให้ไทยไม่เสียเปรียบประเทศคู่ค้าและประเทศคู่แข่ง
ขณะเดียวกัน ในการประชุมครม.วันนี้ (10 มิ.ย.) นายกฯ ได้สั่งการให้พิจารณาเรื่องการใช้งบประมาณใน 3 ส่วน ได้แก่ งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 และงบประมาณกลาง ให้ดำเนินการอย่างรัดกุมและกลั่นกรองอย่างละเอียด ระมัดระวัง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thansettakij.com/economy/629622&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3KrzIpJnWrCFvoGLBMXnXx
