บอร์ด “กระตุ้นเศรษฐกิจ” ต้องเป็น “อัศวิน” ม้าขาว

เมื่อวานนี้ผมเขียนถึงการแถลงข่าวเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี 2568 หรือปีนี้โดยสภาพัฒน์ว่า ขยายตัวถึงร้อยละ 3.1 ถือว่ายังดีอยู่มาก แต่ในอีก 3 ไตรมาสที่เหลือนี่ซิจะ “สาละวันเตี้ยลง” จนเหลืออัตราการขยายตัวเฉลี่ยทั้งปีเพียงร้อยละ 1.8 เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงใยมาก

ผมยํ้าด้วยว่า…นี่คือการพยากรณ์จากหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญช่ำชองและน่าเชื่อถือมากที่สุดของประเทศไทย

เหตุเพราะ “สภาพัฒน์” ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.2493 (75 ปีที่แล้ว) นั้นเป็นหน่วยงานเดียวของประเทศ ที่มี “กอง” คู่บารมีอยู่กองหนึ่ง…ชื่อว่า กองบัญชีประชาชาติ มีหน้าที่หลักในการจัดทำตัวเลข “ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศประจำปี” ที่เรารู้จักในนามของ GDP มาตั้งแต่แรกเริ่ม

นักพยากรณ์เศรษฐกิจสำนักไหน? จะพยากรณ์ล่วงหน้าไป อย่างไร? จะมีมูลค่ารวมเท่าไร? จะขยายตัวกี่เปอร์เซ็นต์? เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจเฉพาะหน้า หรือล่วงหน้าเพื่อการตัดสินใจในนโยบายเศรษฐกิจต่างๆก็ว่ากันไป

แต่หน่วยงานที่มีหน้าที่ไปรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างละเอียดว่ามันเกิดขึ้นจริงๆอย่างไร? เป็นไปตามที่คาดไว้หรือไม่ เพื่อบันทึกไว้เป็นข้อมูลหลักของชาติประจำปีนั้นๆตามมาทีหลัง ก็คือ กองบัญชีประชาชาติ ของสภาพัฒน์นี่แหละครับ

ดังนั้น เมื่อการพยากรณ์ออกมาจากสำนักเศรษฐกิจที่เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำ GDP ของประเทศบอกว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของเรา ณ ขณะนี้ “น่าเป็นห่วง” จึงเป็นเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกห่วงใยมากกว่าการพยากรณ์ของสำนักอื่น

ด้วยเหตุนี้เมื่ออ่านรายละเอียดในการพยากรณ์เศรษฐกิจของสภาพัฒน์จบแล้ว ผมก็รีบเปิดหนังสือพิมพ์อ่านผลการประชุมของ คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือที่รู้จักกันในนามของ บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีการประชุมครั้งที่ 2 พอดิบพอดีว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆอะไรออกมาหรือไม่?

ปรากฏว่าผลการประชุมหลักที่แถลงออกมามีเพียงเรื่องเดียวว่า ต้อง “ทบทวน” งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างรอบคอบ เพราะมีสถานการณ์เร่งด่วนทางเศรษฐกิจอื่นๆจะต้องพิจารณาอีกหลายเรื่อง

ไม่ได้บอกว่า “จะเลิก” แจกแต่ชัดว่า “จะชะลอ” การแจก และอาจนำไปใช้ในโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ชัดเจนก่อน

สำหรับผมถือว่าเป็นบทสรุปที่ถูกต้อง การชะลอการแจกเงินเอาไว้ก่อน เพื่อนำไปใช้ในโครงการที่ให้ประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจมากกว่า เป็นเรื่องที่มีความ “จำเป็น” อย่างยิ่ง ณ นาทีนี้

ถึงแม้ในการประชุมวันดังกล่าวจะยังไม่มีนโยบายหรือมาตรการเศรษฐกิจใดๆที่จะแก้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจอันน่าห่วงที่สภาพัฒน์แถลง…ผมก็เข้าใจ เพราะคณะกรรมการชุดนี้อาจจะยังไม่ได้เตรียมตัวที่จะรับมือกับข้อมูลใหม่ล่าสุดที่สภาพัฒน์เพิ่งแถลง

แต่นับจากวันนี้ไปท่านจะต้องเริ่มแล้ว…มาตรการเร่งด่วนใหม่? ที่จะต้องทำควรมีอะไรบ้าง? รีบคิดอ่านโดยเร็ว

ตัวเลข GDP หมวดไหนที่สภาพัฒน์ชี้ชัดเจนว่าจะถดถอยลงจะย่อหย่อนลง จะมีการแก้อย่างไร? จะต้องรีบหาคำตอบและรีบดำเนินการในทันที

ถ้ารัฐบาลทำงานเป็น…ผมบอกได้เลยว่าคณะกรรมการชุดนี้แหละคือชุดสำคัญที่สุด ขอให้รีบตั้งหลักและลงมือทำงานอย่างเร่งด่วน

หมายเหตุ ก่อนส่งต้นฉบับวันนี้ไปขึ้นแท่น มีรายงานว่าผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 20 พ.ค. มีมติให้ “โอนงบแจกเงินดิจิทัล 1.57 แสนล้านบาทไปสู่โครงการลงทุนนํ้า–คมนาคม–ท่องเที่ยว–ส่งออกแล้ว…ชี้เศรษฐกิจมีปัญหาแทรก จำเป็นต้องคำนึงถึงคนทั้งประเทศเป็นส่วนรวม”

นี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดครับ…ขอบคุณ!

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม