บอร์ดประกันสังคมประชุมด่วน โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 ล้านบาท ยืนยันยังไม่เป็นที่ยุติ

บอร์ดประกันสังคมประชุมด่วน พิจารณามาตรการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการจ้างงานภาคธุรกิจ 10,000 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี ขณะที่ประธานในที่ประชุมยืนยันว่าขณะนี้ เรื่องดังกล่าวยังไม่เป็นที่ยุติ

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม ครั้งที่ 11/2568 ณ ห้องประชุมสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ อาคารเอนกประสงค์ สำนักงานประกันสังคม เพื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานให้กองทุนประกันสังคม

นายบุญสงค์ กล่าวว่า ประเด็นเกี่ยวกับวงเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ยุติ ยังคงต้องมีการหารือและหาข้อสรุปกันในการประชุมครั้งถัดไป

ส่วนประเด็นที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชน โพสต์เกี่ยวกับการบริจาครถของสำนักงานประกันสังคมไปให้วัดแห่งหนึ่งนั้น ตนเองยังไม่เห็นข้อมูล ต้องขอไปตรวจสอบข้อมูลก่อน ว่ามีความผิดปกติอย่างไร

แต่โดยปกติแล้วรถยนต์ของหน่วยงานราชการที่ปลดประจำการแล้ว สามารถนำไปบริจาคให้หน่วยงานราชการด้วยกัน มูลนิธิ องค์กรการกุศล วัดหรือโรงเรียนได้ เมื่อได้บริจาคแล้ว สำนักงานประกันสังคมก็จะโอนกรรมสิทธิ์เป็นของหน่วยงานนั้นๆ แต่ไม่ได้ติดตามว่าหน่วยงานดังกล่าวจะนำรถไปดำเนินการอย่างไร

โดยหลักการปฎิบัติที่ทำมานั้น รถยนต์เมื่อปลดระวางแล้ว หากนำไปประมูลจะได้เงินที่น้อยมาก ดังนั้นจึงนำไปบริจาค ให้วัดให้โรงเรียนจะมีประโยชน์มากกว่า แต่โดยทั่วไปจะบริจาคให้กับหน่วยงานราชการด้วยกัน ก่อนที่จะมอบให้องค์กรการกุศลอื่น

ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นรถยี่ห้อใดประเภทใด ที่มีอายุเกิน 8-10 ปี เมื่อปลดประจำการแล้ว จะใช้การนำไปบริจาคทั้งหมด เพราะการนำไปขายได้เงินเล็กน้อย แต่ถ้านำไปมอบให้หน่วยงานราชการที่ไม่มีงบประมาณใช้งานต่อ จะได้ประโยชน์มากกว่า

ส่วนกรณีที่ สส.พรรคประชาชน โพสต์ระบุว่ารถที่สำนักงานประกันสังคมบริจาค อยู่ในมือของวัดเพียงสี่ถึงห้าเดือน จากนั้นมีการโอนต่อไปยังบุคคล ในประเด็นนี้ตนเองยังไม่เห็นข้อมูล ดังนั้นจึงขอไปตรวจสอบก่อน

ขณะที่ รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการประกันสังคม ผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน ทีมประกันสังคมก้าวหน้า เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ในที่ประชุมกรรมการประกันสังคมฝั่งผู้ประกันตน ยืนยันในที่ประชุมว่า วงเงิน 10,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลให้มานั้น เป็นวงเงินจากใช้หนี้ ไม่ได้เป็นวงเงินให้เปล่าเหมือนหน่วยงานอื่น ดังนั้นรัฐบาลไม่ควรมีเงื่อนไข กำหนดว่าจะให้นำเงินไปทำอะไร ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนขอยืมเงินเราไป แล้วเพื่อนนำเงินมาคืน เพื่อนไม่มีสิทธิ์สั่งให้เรานำเงินที่นำมาคืนให้เอาไปทำบุญด้วย เพราะเงินก้อนนั้นถือเป็นเงินของเรา

แต่สิ่งที่อยากจะเรียกร้องแทนผู้ประกันตน อยากให้รัฐบาลใช้หนี้ในส่วนที่เหลืออีก 40,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินส่วนนั้น มาจ้างงาน เพื่อสร้างความมั่นคงและเป็นสวัสดิการให้กับผู้ประกันตน เพราะเงิน 40,000 ล้านบาท สามารถนำไปทำอะไรได้อีกจำนวนมาก

แต่กรรมการประกันสังคมฝั่งผู้ประกันตน ยืนยันว่าไม่ได้คัดค้านนโยบายของรัฐบาลในทุกเรื่อง เห็นด้วยกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่อยากให้สำนักงานประกันสังคม ให้ความสำคัญกับผู้ประกันตนมากกว่า เพราะนโยบายที่รัฐบาลให้มาเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น เป็นนโยบายที่ส่งเสริมผู้ประกอบการเป็นหลัก