เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า รัฐบาลฮ่องกงเตรียมเปิดมหาวิทยาลัยรับนักศึกษาต่างชาติมากขึ้น โดยเน้นไปที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของรัฐบาลสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ที่ห้ามไม่ให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดรับชาวต่างชาติเข้าเรียน
การทะเลาะวิวาทที่ยาวนานระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติแห่งนี้เกิดขึ้นในขณะเดียวกันกับความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลวอชิงตันและปักกิ่งเกี่ยวกับการค้าและประเด็นอื่นๆ
การตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์เมื่อวันพฤหัสบดีซึ่งในเวลาต่อมาถูกระงับชั่วคราวโดยผู้พิพากษาของสหรัฐฯ หลังจากที่ฮาร์วาร์ดฟ้องร้อง ทำให้อนาคตของนักศึกษาต่างชาติหลายพันคนและกระแสรายได้มหาศาลที่พวกเขาได้รับตกอยู่ในความไม่แน่นอน
คริสติน ชอย รัฐมนตรีศึกษาธิการฮ่องกง ได้เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยต่างๆ ในเกาะแห่งนี้ต้อนรับ “นักศึกษาที่โดดเด่นจากทั่วทุกมุมโลก”
“สำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการรับนักศึกษาของสหรัฐฯ สำนักงานการศึกษาได้เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยทั้งหมดในฮ่องกงจัดเตรียมมาตรการอำนวยความสะดวกสำหรับนักศึกษาเหล่านั้นและผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์” ชอยกล่าวในแถลงการณ์ โดยระบุถึงการห้ามรับนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เธอกล่าวว่ามหาวิทยาลัยในท้องถิ่นกำลังใช้มาตรการของรัฐบาล รวมถึงการผ่อนปรนขีดจำกัดสูงสุดสำหรับนักศึกษาต่างชาติเพื่อดึงดูดให้เข้ามาเรียนในฮ่องกงมากขึ้น
ในการตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง (HKUST) ได้เชื้อเชิญนักศึกษาต่างชาติที่ลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด รวมถึงผู้ที่ได้รับข้อเสนอให้เข้าเรียนในสถาบันการศึกษาชั้นนำแห่งนี้ ให้มาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยของตน
“มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกงกำลังขยายโอกาสนี้เพื่อให้แน่ใจว่านักศึกษาที่มีความสามารถจะมีทางเลือกในการมุ่งไปสู่เป้าหมายทางการศึกษาของพวกเขาได้โดยไม่หยุดชะงัก”
“มหาวิทยาลัยจะมอบข้อเสนอโดยไม่มีเงื่อนไข, ขั้นตอนการรับสมัครที่กระชับ และการสนับสนุนทางวิชาการเพื่ออำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงที่ราบรื่นสำหรับนักศึกษาที่สนใจ” มหาวิทยาลัยฯกล่าวในแถลงการณ์
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกประจำปีล่าสุดโดย US News and World Report ขณะที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกงอยู่ในอันดับที่ 105 จากทั้งหมด 2,000 แห่ง
ประธานาธิบดีทรัมป์โกรธแค้นมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ปฏิเสธความพยายามของรัฐบาลในการกำกับดูแลการรับเข้าเรียนและการจ้างงาน ท่ามกลางข้อกล่าวหาที่ว่ามหาวิทยาลัยเป็นแหล่งเพาะพันธุ์การต่อต้านชาวยิวและอุดมการณ์เสรีนิยมแบบ “ตื่นรู้”
คริสตี โนเอม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการตัดสินใจของรัฐบาลจะทำให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดต้องรับผิดชอบต่อการส่งเสริมความรุนแรง, การต่อต้านชาวยิว และการประสานงานกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนในมหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ ผู้พิพากษาของสหรัฐฯ ได้สั่งระงับการดำเนินการของรัฐบาลที่ห้ามไม่ให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดรับนักศึกษาต่างชาติ หลังจากมหาวิทยาลัยฟ้องร้อง โดยระบุว่าการกระทำของรัฐบาลนั้นผิดกฎหมาย
เช่นเดียวกับรัฐบาลปักกิ่งที่ออกมาประณามการกระทำของรัฐบาลทรัมป์ว่าเป็นการเมืองในความร่วมมือทางการศึกษา และการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และสถานะในระดับนานาชาติของสหรัฐฯเอง
ฐานข้อมูลของฮาร์วาร์ดระบุว่ามีนักศึกษาชาวจีนราว 1,300 คนลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัย ซึ่งคิดเป็นประมาณหนึ่งในห้าของจำนวนนักศึกษาต่างชาติทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาอีกหลายแสนคนที่เข้าเรียนในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งชาวจีนจำนวนมากมองว่าเป็นประภาคารแห่งเสรีภาพและความเข้มงวดทางวิชาการ.
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thaipost.net/abroad-news/794801/&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw0RN09cAYCwX334YfDXU4NA