วิจัยฮาร์วาร์ดเตือนแรง “ลักษณะของสามี” ที่จะทำชีวิตคู่พัง อัตราการหย่าร้างสูงถึง 30% !!!

วิจัยฮาร์วาร์ดเตือนแรง-“ลักษณะของสามี”-ที่จะทำชีวิตคู่พัง-อัตราการหย่าร้างสูงถึง-30%-!!!
วิจัยฮาร์วาร์ดเตือนแรง “ลักษณะของสามี” ที่จะทำชีวิตคู่พัง อัตราการหย่าร้างสูงถึง 30% !!!

วิจัยฮาร์วาร์ดชี้ “สามีว่างงาน” เสี่ยงหย่าร้างเพิ่ม 30%  ภรรยาแบกรับไม่ไหว ชีวิตคู่พังเพราะปัญหาเศรษฐกิจ

ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่เก็บข้อมูลจากคู่รักมากกว่า 6,300 คู่ ตั้งแต่ช่วงปี 1970 จนถึงปัจจุบัน พบว่า “สถานะการทำงานของสามี” เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลอย่างชัดเจนต่ออัตราการหย่าร้าง ว่างงาน = เสี่ยงหย่าสูงขึ้น 30%

ผลการศึกษาเผยว่า คู่แต่งงานมีโอกาสหย่าร้างเพิ่มขึ้นถึง 30% หากฝ่ายชายตกงาน แม้จะเป็นการว่างงานที่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ เช่น การเลิกจ้าง หรือปัญหาเศรษฐกิจ

ไม่เพียงแค่ว่างงานเท่านั้น แต่การที่ผู้ชายทำงานไม่ประจำ หรือมีรายได้ไม่แน่นอน ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ชีวิตคู่สั่นคลอน เนื่องจากไม่สามารถรักษาบทบาทผู้นำทางการเงินของครอบครัวได้ ส่งผลให้เกิดความเครียดและความขัดแย้งในชีวิตสมรส

ในทางตรงกันข้าม สถานะการทำงานหรือรายได้ของภรรยา “ไม่ใช่ตัวแปรสำคัญ” ไม่ได้มีผลชัดเจนต่ออัตราการหย่าร้าง ซึ่งสะท้อนความจริงว่า ถึงแม้ผู้หญิงจะมีบทบาททางเศรษฐกิจมากขึ้นในยุคปัจจุบัน แต่ยังคงถูกคาดหวังให้รับผิดชอบเรื่องครอบครัวเป็นหลักอยู่ดี

งานไม่ใช่แค่เรื่องเงิน – แต่คือ “ภาพลักษณ์และคุณค่าในตัวตน”

ผลสำรวจเพิ่มเติมระบุว่า ผู้หญิงกว่า 75% ไม่ต้องการเดทกับผู้ชายที่มีหนี้สินจำนวนมาก โดยเฉพาะในกรณีที่ฝ่ายชายไม่มีงานทำ หรือมีปัญหาทางการเงิน ส่งผลให้ความน่าสนใจทางเพศและความสัมพันธ์ลดลงอย่างชัดเจน

นักจิตวิทยาอธิบายว่า ผู้คนต่างสร้าง “มุมมองความจริง” จากประสบการณ์ของตัวเอง เช่น สามีอาจมองว่าช่วงตกงานคือโอกาสเริ่มต้นธุรกิจ แต่ภรรยากลับมองว่าเป็นการนิ่งเฉยและไม่มีเป้าหมาย ทำให้เกิดการไม่เข้าใจกันในมุมลึกของความสัมพันธ์

อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่พบคือ “ภาวะพึ่งพิงร่วม” (co-dependency) เมื่อฝ่ายหนึ่ง (มักเป็นภรรยา) แบกรับหน้าที่เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลลูก การเงิน หรือภาระหนี้ ซึ่งการพึ่งพากันเกินไปในครอบครัวนี้เอง ทำให้ฝ่ายชายขาดแรงจูงใจและความรับผิดชอบในระยะยาว

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำทางออกคือ สื่อสาร–แบ่งหน้าที่–เข้าใจซึ่งกันและกัน โดยให้คู่รัก “แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน” และตั้งเป้าหมายทางการเงินร่วมกัน พร้อมเปิดใจสื่อสารอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่เพียงเรื่องเงิน แต่รวมถึงความคาดหวังในชีวิต เช่น คนหนึ่งอยากซื้อบ้าน อีกคนอยากท่องเที่ยว – หากไม่พูดคุยให้เข้าใจ ก็กลายเป็นชนวนของความไม่พอใจสะสม

การแต่งงานไม่ใช่การแข่งขันว่าใครถูกหรือใครหาเงินได้มากกว่า แต่คือการฟังกันและกันอย่างแท้จริง เพราะท้ายที่สุดแล้ว คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้อยู่ที่การ “ฝืนแบกรับทุกอย่าง” หรือ “เปลี่ยนแปลงสามีให้ได้” แต่อยู่ที่การรู้ว่า “เมื่อไหร่ควรสู้ และเมื่อไหร่ควรปล่อยวาง” การแบ่งปัน–ความเท่าเทียม–ความเข้าใจ คือ 3 เสาหลักของชีวิตคู่ในยุคที่ทั้งเงินทองและอารมณ์ต่างก็ท้าทายไม่แพ้กัน

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.sanook.com/news/9797582/&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw1pdUOe9vilFyBw-FuWf3Xg

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *