รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประจำเดือนพฤษภาคม 2568 – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา-ประจำเดือนพฤษภาคม-2568-–-กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประจำเดือนพฤษภาคม 2568 – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
  1. ภาพรวมเศรษฐกิจ/ สถานการณ์สำคัญ

สำหรับมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศของโครงการที่ยังดำเนินการอยู่ จนถึงปีงบประมาณ 2024-2025 (ณ เดือนเมษายน 2568) มีมูลค่าทั้งสิ้น 75,015.729 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเทศที่ยังคงลงทุนในเมียนมาสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) สิงคโปร์ 2) จีน 3) ฮ่องกง 4) สหราชอาณาจักร และ 5) ไทย ตามลำดับ โดยไทยอยู่ในลำดับที่ 5 มูลค่า 4,469.194 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 6.14 โดยมีโครงการที่ยังดำเนินการอยู่ จำนวน 103 โครงการ

1.1 เครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รายงานล่าสุด (ข้อมูล ต.ค. 67) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเมียนมา (GDP) ปี 67 ขยายตัวร้อยละ 1 อัตราเงินเฟ้อ ปี 67 อยู่ที่ร้อยละ 22 และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว (GDP per Capita) ปี 67 อยู่ที่ระดับ 1,179 เหรียญสหรัฐฯ รวมทั้งคาดการณ์ ปี 68 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเมียนมา (GDP) ปี 68 คาดว่าขยายตัวร้อยละ 1.08 อัตราเงินเฟ้อ ปี 68 คาดว่าร้อยละ 14.20 และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว (GDP per Capita) ปี 68 คาดว่า 1,187 เหรียญสหรัฐฯ ดังตาราง

ตารางที่ 1 – เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจเมียนมา

ตัวชี้วัดทาง

เศรษฐกิจที่สำคัญ

ปี 2561 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567 ปี 2568

(คาดการณ์)

GDP Growth (%) 6.4 6.8 3.2 -10.49 -3.96% 2.54% 1.02% 1.08%
GDP (billions of US$) 66.7 68.8 81.26 68.05 61.77 64.51 64.28 65.01
GDP per Capita (US$) 1,270 1,300 1,530 1,271 1,146 1,190 1,179 1,187
Inflation (%) 5.94 8.63 5.73 3.64 18.39 27.10 22.00 14.20

ที่มา: IMF  https://www.imf.org/en/Publications/WEO/weo-database/2024/October

1.2 อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ตารางที่ 2 เปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินจ๊าตต่อสกุลเงินสำคัญ พ.ค. 67 และ พ.ค. 68

ประเทศ/สหภาพ สกุลเงิน อัตราทางการ

สิ้นเดือน พ.ค. 67

อัตราทางการ

สิ้นเดือน พ.ค. 68

อัตราตลาดออนไลน์

สิ้นเดือน พ.ค. 68

อัตราตลาด

สิ้นเดือน พ.ค. 68

USA 1 USD 2,100.00 MMK 2,100.0 MMK 3,606.00 MMK 4,380.0 MMK
Euro 1 EUR 2,269.90 MMK  2,377.94 MMK 4,083.25 MMK 4,890.0 MMK
Singapore 1 SGD 1,553.10 MMK 1,626.77 MMK 2,793.40 MMK 3,380.0 MMK
Thailand 1 THB 57.17 MMK 64.07 MMK 110.02 MMK 132.4 MMK

ข้อมูลจากธนาคารกลางเมียนมา : https://forex.cbm.gov.mm/index.php/fxrate, Myanmar Market Price Application

 1.3 ภาวะการลงทุน

1.3.1 มูลค่าการลงทุนตามรายประเทศนักลงทุนสำคัญ

ภาพรวมด้านการลงทุนทางตรงของต่างประเทศในเมียนมา (FDI) ในเดือนเมษายน 2568 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเมียนมา (Myanmar Investment Commission : MIC) อนุมัติโครงการไปแล้ว คิดเป็นมูลค่า 690.189 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังตาราง

ตารางที่ 3 – ประเทศที่มีการลงทุนทางตรง FDI ในเมียนมา เดือนเมษายน 2568

อันดับ ประเทศ มูลค่าการลงทุน

(ล้านเหรียญสหรัฐ)

เม.ย. 68

สัดส่วน (%)
1 สิงคโปร์ 460.458 66.72%
2 จีน 94.177 13.64%
3 ไทย 46.155 6.68%
4 ฮ่องกง 30.236 4.38%
5 อินโดนีเซีย 20.892 3.02%
6 เกาหลีใต้ 10.885 1.57%
7 ไต้หวัน 8.059 1.16%
8 อินเดีย 7.088 1.02%
9 อังกฤษ 2.916 0.42%
10 ญี่ปุ่น 1.673 0.24%
  รวม 690.189 100%

 https://www.dica.gov.mm

 ตารางที่ 4 – มูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศที่เคยได้รับอนุญาตสะสม จนถึงปีงบประมาณ 2024-2025

รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประจำเดือนพฤษภาคม 2568

https://www.dica.gov.mm

สำหรับมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศที่เคยได้รับอนุญาตสะสม จนถึงปีงบประมาณ 2024-2025 (ณ เดือนเมษายน 2568) มีมูลค่าทั้งสิ้น 95,915.507 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเทศที่เข้ามาลงทุนในเมียนมาสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) สิงคโปร์ 2) จีน 3) ไทย 4) ฮ่องกง และ 5) สหราชอาณาจักร ตามลำดับ โดยไทยอยู่ในลำดับที่ 3 มูลค่า 11,680.828 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 12.47 โดยมีโครงการที่ได้รับอนุมัติแล้ว จำนวน 157 โครงการ

 ตารางที่ 5 – มูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศที่ยังดำเนินการอยู่ จนถึงปีงบประมาณ 2024-2025

รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประจำเดือนพฤษภาคม 2568

https://www.dica.gov.mm

สำหรับมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศของโครงการที่ยังดำเนินการอยู่ จนถึงปีงบประมาณ 2024-2025 (ณ เดือนเมษายน 2568) มีมูลค่าทั้งสิ้น 75,015.729 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเทศที่ยังคงลงทุนในเมียนมาสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) สิงคโปร์ 2) จีน 3) ฮ่องกง 4) สหราชอาณาจักร และ 5) ไทย ตามลำดับ โดยไทยอยู่ในลำดับที่ 5 มูลค่า 4,469.194 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 6.14 โดยมีโครงการที่ยังดำเนินการอยู่ จำนวน 103 โครงการ

 1.3.2 มูลค่าการลงทุนตามประเภทสาขาการลงทุนที่สำคัญ

ในส่วนของอุตสาหกรรมที่ต่างชาติลงทุนในเมียนมาของปีงบประมาณ 2024 – 2025 ในเดือน เมษายน 2568 รายละเอียดดังตาราง

ตารางที่ 6 – อุตสาหกรรมที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในเมียนมา

ปีงบประมาณ 2024-2025 (เม.ย. 68)

อันดับ ประเภทธุรกิจ มูลค่า

(ล้านเหรียญสหรัฐ)

เม.ย. 68

สัดส่วน (%)
1 Transport& Communication 87.715 29.32%
2 Manufacturing 182.683 49.69%
3 Services 51.068 17.07%
4 Power 8.501 2.84%
5 Livestock&Fisheries 2.657 0.88%
6 Agriculture 0.525 0.17%
  รวม 299.111 100%

https://www.dica.gov.mm

ตารางที่ 7 สาขาการลงทุนจากต่างประเทศที่ยังดำเนินการอยู่ จนถึงปีงบประมาณ 2024-2025

รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประจำเดือนพฤษภาคม 2568

https://www.dica.gov.mm

  1. สถานการณ์การค้า (การนำเข้า-ส่งออก) ของเมียนมา

1) สถิติการค้าระหว่างประเทศของเมียนมา (ข้อมูล GTA: ม.ค. – มี.ค. 68)

ตารางที่ 8 – มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของเมียนมา (ม.ค. – มี.ค. 2568)

หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Export Import Trade Volume
2025 2024 % 2025 2024 % 2025 2024 %
Jan-Mar Jan-Mar change Jan-Mar Jan-Mar change Jan-Mar Jan-Mar change
4,548 5,354 -15% 4,792 5,594 -14% 9,340 10,948 -14%

GTA: Global Trade Atalas

ในเดือนมกราคม – มีนาคม 2568 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศโดยรวมของเมียนมามีมูลค่า 9,340 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 14%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในส่วนของการส่งออกมีมูลค่า 4,548 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 15% การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศของเมียนมามีมูลค่า 4,792 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 14 ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม – มีนาคม 2568 เมียนมาได้ดุลการค้าเป็นมูลค่า 244 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สินค้าที่เมียนมาส่งออก ที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องแต่งกาย ก๊าซธรรมชาติ พืชพันธุ์ ผักต่างๆ  สินแร่ รองเท้า ยางพารา  ปลา สัตว์น้ำ ไม้ เมล็ดน้ำมัน อัญมณี เป็นต้น

สินค้าที่เมียนมานำเข้า ที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องจักรกล ผ้าทอ เส้นด้าย ยานพาหนะ พลาสติก เหล็ก ปุ๋ย เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ยา เป็นต้น

2) ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา (เม.ย. – มิ.ย. 67)

* กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เปิดเผยข้อมูลล่าสุดเดือน มิ.ย. 67 โดยข้อมูลหลังจากนั้นไม่มีการเผยแพร่เพิ่มเติม*

                สินค้าส่งออกสำคัญของเมียนมา

ตารางที่ 9 – มูลค่าการส่งออกสินค้าที่สำคัญของเมียนมา (เมษายน – มิถุนายน 2567) ที่มา : กระทรวงพาณิชย์เมียนมา

ลำดับ สินค้า มูลค่า (ล้านเหรียญสหรัฐฯ) สัดส่วน (%)
1 MANUFACTURING GOODS 1,896.82 53.06%
2 AGRICULTURAL PRODUCTS 1,405.20 39.31%
3 MARINE PRODUCTS 144.973 4.05%
4 MINERALS 46.838 1.31%
5 FOREST PRODUCTS 15.521 0.43%
6 ANIMAL PRODUCTS 1.851 0.05%
7 OTHER PRODUCTS 63.302 1.77%
  รวม 3,574.520 100.0%

สินค้านำเข้าสำคัญของเมียนมา

      ตารางที่ 10 – มูลค่าการนำเข้าสินค้าที่สำคัญของเมียนมา (เมษายน – มิถุนายน 2567) ที่มา : กระทรวงพาณิชย์เมียนมา

ลำดับ สินค้า มูลค่า (ล้านเหรียญสหรัฐฯ) สัดส่วน (%)
1 สินค้า Commercial Raw material 1,985.968 59.60%
2 สินค้า Investment Goods 519.433 15.58%
3 สินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Goods) 826.467 24.80%
  รวม 3,331.868     100%

ในช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน 2567 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศโดยรวมของเมียนมามีมูลค่า 6,906.388ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าการส่งออกของเมียนมามี 3,574.520 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมูลค่าการนำเข้าของเมียนมามี 3,331.868 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้เมียนมาได้ดุลการค้าเป็นมูลค่า 242.652 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สินค้าที่เมียนมาส่งออก ที่สำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม การเกษตร ประมง สินแร่ ผลิตภัณฑ์ป่าไม้ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นต้น

สินค้าที่เมียนมานำเข้า ที่สำคัญ ได้แก่ วัตถุดิบ สินค้าทุน สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น

3) สถานการณ์การค้าระหว่างไทย – เมียนมา (ข้อมูลกรมศุลกากรไทย: ม.ค. –เม.ย. 68)

ตารางที่ 11 สรุปมูลค่าการค้าระหว่างไทย – เมียนมา

รายการ มูลค่า: ล้านเหรียญสหรัฐฯ อัตราขยายตัว (%) สัดส่วน (%) / โลก
2567

ม.ค. – เม.ย.

2568

ม.ค. – เม.ย.

2567

ม.ค. – เม.ย.

2568

ม.ค. – เม.ย.

2567

ม.ค. – เม.ย.

2568

ม.ค. – เม.ย.

มูลค่าการค้า 2,401.22 2,569.04 -10.79 6.53 1.23 1.18
การส่งออกของไทย 1,377.46 1,511.47 -11.38 8.86 1.46 1.41
การนำเข้าของไทย 1,023.76 1,057.57 -10.34 3.19 1.02 0.96
ดุลการค้าของไทย 353.7 453.9 -14.5 22.07    

ที่มา : Thailand’s Trade Statistic (moc.go.th)

ปี 2568 มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยและเมียนมาระหว่างเดือนมกราคม – เมษายน มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,569.04 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.53 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยไทยมีการส่งออกไปยังเมียนมาเป็นมูลค่า 1,511.47 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.86 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากการขอใบอนุญาตนำเข้าสินค้าของประเทศเมียนมาใช้เวลานาน สำหรับการนำเข้าสินค้าจากเมียนมามายังประเทศไทยมีมูลค่า 1,057.57 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.19 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ไทยได้ดุลการค้าเป็นมูลค่า 453.9 ล้านเหรียญสหรัฐ

สินค้าที่ไทยส่งออกไปเมียนมา ที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่ม น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์   เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ  เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์

เม็ดพลาสติก  สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรอื่นๆ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล เป็นต้น

รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประจำเดือนพฤษภาคม 2568

สินค้าที่ไทยนำเข้าจากเมียนมา ที่สำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ กาแฟ ชา เครื่องเทศ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ลวดและสายเคเบิล ผลิตภัณฑ์ทำจากพลาสติก ไม้ซูงไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เป็นต้น

รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประจำเดือนพฤษภาคม 2568

  1. สถานการณ์สำคัญ

3.1 ประเทศไทยและภาคธุรกิจไทยรวมน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเมียนมา

จากเหตุแผ่นดินไหวเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 จุดศูนย์กลางบริเวณพื้นที่เมืองมัณฑะเลย์ (ห่างจากกรุงย่างกุ้งประมาณ 600 กิโลเมตร) โดยแผ่นดินไหวขนาด 7.7 นับว่าเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงกว่าทุกครั้ง ความเสียหายส่วนใหญ่ในพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดแผ่นดินไหว เช่น เมืองมัณฑะเลย์ เมืองสะกาย เป็นต้น โดยมีสิ่งปลูกสร้าง อาคาร บ้านเรือน กำแพง ถนน บางส่วนได้รับความเสียหาย หลังจากนั้นเกิดแผ่นดินไหว Aftershock ตามมาอีกหลายครั้ง แต่ไม่มีความรุนแรงเหมือนครั้งแรก จนถึงปัจจุบันยังไม่มีแผ่นดินไหวครั้งใหม่ที่มีความรุนแรงเหมือนครั้งแรก

ผลกระทบ/โอกาส ภาคธุรกิจและประชาชนในพื้นที่เมืองมัณฑะเลย์ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว มีอาคารบ้านเรือนหรือทรัพย์สินบางส่วนได้รับความเสียหาย อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหาย เคลมประกัน (ถ้ามีประกันภัย) และฟื้นฟูความเสียหายต่อไป สำหรับธุรกิจที่ไม่ได้รับความเสียหายหรือมีความเสียหายไม่มาก ได้เปิดดำเนินการตามปกติ สำหรับการขนส่งสินค้าไปเมืองมัณฑะเลย์ ได้ข้อมูลจากสมาคมโลจิสติกส์เมียนมาแจ้งว่าสามารถขนส่งได้ แม้มีถนนหรือเส้นทางบางส่วนได้รับผลกระทบ แต่สามารถใช้ถนนท้องถิ่นเป็นเส้นทางเลี่ยงใช้ทดแทนขนส่งสินค้าได้

ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ประเทศไทยและภาคธุรกิจไทยรวมน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเมียนมา โดยมีชุดเฉพาะกิจจากไทยมาเมียนมา รวมทั้ง เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง เป็นผู้แทนรับมอบสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านกระทรวงสวัสดิการสังคม การบรรเทาทุกข์ และการตั้งถิ่นฐานของเมียนมา รวมถึงได้รับของบริจาคจากสมาคมนักธุรกิจไทยในเมียนมา (TBAM : Thai Business Association in Myanmar) และธุรกิจไทยในเมียนมา เช่น Makro เมียนมา ปตท.สผ. เมียนมา เป็นต้น นอกจากนี้ สคต.ย่างกุ้ง ได้ประสานเครือข่ายธุรกิจไทยในเมียนมา ได้แก่ ร้านมหาชัย ร้านอาหาร Thai Select และบริษัท ดัชมิลล์ เมียนมา โดยร้านมหาชัยยินดีสนับสนุนร่วมเป็นจุดรับของบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเมืองมัณฑะเลย์ ตลอดจนทราบจากสภาธุรกิจไทย-เมียนมา (TMBC : Thai-Myanmar Business Council) ที่จะร่วมกับเครือข่ายในไทย ประสงค์บริจาควัคซีน เช่น บาดทะยัก อหิวาห์ ตับอักเสบ ไทฟอยด์ ซึ่งเป็นโรคระบาดหลังเกิดภัยพิบัติ โดยสภาธุรกิจไทย-เมียนมาจะร่วมกับเครือข่ายในเมียนมา ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประภัยแผ่นดินไหวในเมียนมาต่อไป สะท้อนพลังน้ำใจของคนไทยและภาคธุรกิจไทยร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเมียนมา

3.2 ทุเรียนไทยขายดีมากในตลาดเมียนมา

ผู้ขายทุเรียนไทยในตลาดผลไม้เมียนมากล่าวว่า ทุเรียนไทยขายดีมากในตลาดเมียนมา โดยทุเรียนไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดเมียนมา มี 3 สายพันธุ์ ได้แก่ หมอนทอง ชะนี พวงมณี โดยทุเรียนไทยมีรสชาติอร่อย เนื้อหนานุ่ม ในขณะที่ ทุเรียนเมียนมามีเนื้อบางและหวานกว่า โดยทุเรียนไทยขายดีในตลาดเมียนมาหลายเมือง เช่น ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ เนปยีดอ ตองจี เป็นต้น

ผลกระทบ/โอกาส ความนิยมทุเรียนไทยดังกล่าว “เป็นโอกาส” ของสินค้าไทยหรือธุรกิจไทยที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ส่งออกทุเรียนไทยจากประเทศไทย ผู้นำเข้าทุเรียนไทยในเมียนมา จัดจำหน่ายทุเรียนไทยในเมียนมา ผู้ขนส่งทุเรียนไทย โดยทุเรียนไทยมีความเป็นเอกลักษณ์ รสชาติอร่อยและเนื้อหนานุ่ม ซึ่งเป็นความโดดเด่นแตกต่างจากทุเรียนอื่นๆ ทำให้สามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่า ซึ่งเดือน เม.ย.-ก.ย. ของทุกปี เป็นช่วงทุเรียนไทยให้ผลผลิต ทั้งทุเรียนไทยภาคตะวันออกช่วงกลางปี และทุเรียนไทยภาคใต้ช่วงหลังกลางปี จึงเป็นโอกาสธุรกิจของทุเรียนไทยดังกล่าว

ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ แม้ทุเรียนไทยจะมีศักยภาพและได้รับความนิยมในตลาดเมียนมา ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม การนำเข้าสินค้ามายังตลาดเมียนมา รวมถึงทุเรียนและผลไม้ต่างๆ มีความท้าทายเรื่องกฎระเบียบ ซึ่งผู้นำเข้าต้องขอใบอนุญาตนำเข้า (Import License) นำเข้าสินค้าต่างๆ โดยเมียนมามีแนวทางให้จับคู่รายได้ส่งออก (Export Earning) เพื่อประกอบการขอ Import License นำเข้าสินค้าต่างๆ รวมถึงทุเรียนนำเข้าด้วย ดังนั้น ขอให้ผู้นำเข้าทุเรียนไทยมายังตลาดเมียนมา พิจารณาใช้แนวทางการจับคู่ Export Earning กับการนำเข้าทุเรียนไทยหรือผลไม้ไทยอื่นๆ มายังตลาดเมียนมา เพื่อคว้าโอกาสจากความนิยมผลไม้และทุเรียนไทยในเมียนมา

ที่มา: Global New Light Of Myanmar (www.gnlm.com.mm)

3.3 สคต.ย่างกุ้ง จัดงาน Instore Promotion 2025 ปักหมุดสินค้าไทยในตลาดเมียนมา

สคต.ย่างกุ้ง จัดงาน In-Store Promotion 2025 ส่งเสริมการขายร่วมกับห้างและ Supermarket ในเมียนมา ได้แก่ 1) ห้าง Citymart วันที่ 15 พ.ค. – 4 มิ.ย. 68 Theme “Flavors of Thailand” และ 2) ห้าง Makro วันที่ 23 พ.ค. – 5 มิ.ย. 68 Theme “Thai Best Selection” โดยมีสินค้าไทยโปรโมชั่น เช่น ผลไม้ อาหาร เครื่องดื่ม รวมทั้งมีกิจกรรมจูงใจเพิ่มเติม เช่น ซื้อครบ 3 หมื่นจ๊าต ได้ Lucky Draw ชิงรางวัล ได้แก่ 1) Shopping Vouchers 2) ตั๋วหนังไทย 3) คูปองทานอาหารไทยร้าน Thai Select โดยมีการประชาสัมพันธ์การจัดงานผ่านสื่อต่างๆ เช่น สื่อออนไลน์ หนังสือพิมพ์ ใบปลิว Bill Board เป็นต้น เพื่อเชิญชวนผู้สนในมาร่วมงาน อุดหนุนสินค้าไทย ตอกย้ำแบรนด์ประเทศไทย ปักหมุดสินค้าไทยในตลาดเมียนมาต่อไป

ผลกระทบ/โอกาส การจัดงานส่งเสริมการขายสินค้าไทยเป็น “โอกาส” ตอกย้ำแบรนด์ประเทศไทย ปักหมุดสินค้าไทยในตลาดเมียนมา ต่อยอดความนิยมสินค้าไทยในตลาดเมียนมาที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นต่อไป

ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ตลาดเมียนมามีความต้องการและนิยมสินค้าไทย แต่ก็มีความท้าทายเรื่องการขอ Import License ซึ่งเมียนมามีแนวทางให้จับคู่กับรายได้ส่งออก (Export Earning) ประกอบการขอ Import License ด้วย

ที่มา: Global New Light Of Myanmar (www.gnlm.com.mm)

3.4 เมียนมาส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ พื่อการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน

พลเอกอาวุโส มิน ออง ไลง์ ประธานสภาบริหารแห่งรัฐและนายกรัฐมนตรีของเมียนมา ได้กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการวางแผนแห่งชาติว่า เมียนมาส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการเลือกตั้งในเดือน ธ.ค. 68 ให้เป็นไปอย่างราบรื่น รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศึกษา การสาธารณสุข คมนาคม ไฟฟ้า พลังงาน ตลอดจนยกระดับเศรษฐกิจและสังคม และขยายการศึกษาด้านเทคโนโลยี ไปยังทั่วประเทศ ส่งเสริมการพัฒนาภาคการเกษตร ความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และขนาดย่อย (ธุรกิจ MSME) ให้มีความยั่งยืนในระยะยาว ด้วยการเชื่อมโยงการผลิตในเมียนมาสู่ห่วงโซ่การผลิตระดับภูมิภาคและโลก รวมทั้งส่งเสริมการผลิตในเมียนมาทดแทนการนำเข้า ส่งเสริมการส่งออก รวมถึงป้องกันปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายและธุรกรรมการเงินนอกระบบ เพื่อการพัฒนาและเติบโตของเมียนมาอย่างยั่งยืน

ผลกระทบ/โอกาส แผนการพัฒนาของเมียนมา “เป็นโอกาส” ซึ่งส่งผลดีต่อประเทศเมียนมา เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาของเมียนมา เช่น การพัฒนาภาคการเกษตร ความมั่นคงทางอาหาร ธุรกิจ MSME การผลิตในเมียนมาทดแทนการนำเข้า การส่งออกจากเมียนมา

ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ขอให้ภาคธุรกิจติดตามสถานการณ์และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และนำมาวิเคราะห์ปรับใช้เพื่อวางแผนหรือดำเนินการทางธุรกิจต่อไป โดยหากเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาของเมียนมา ก็จะเป็นโอกาสของธุรกิจ สิ่งสำคัญคือสอดรับกับศักยภาพของธุรกิจที่มี และมีคู่ค้าหรือพันธมิตรธุรกิจในเมียนมา ที่เหมาะสม  มีผลประโยชน์ร่วมกันทั้งไทยและเมียนมา ทั้งในระดับประเทศ ระดับธุรกิจ ระดับประชาชนผู้บริโภค

ที่มา: Global New Light Of Myanmar (www.gnlm.com.mm)

 3.5 เมียนมาตั้งเป้าส่งออกสินค้าประมงมูลค่า 700 ล้านเหรียญฯในปีงบประมาณ 67-68 (เม.ย. 67 -มี.ค. 68)

เมียนมาตั้งเป้าส่งออกสินค้าประมงมูลค่า 700 ล้านเหรียญฯในปีงบประมาณ 67-68 (เม.ย. 67 -มี.ค. 68) โดยส่งออกผ่านทางชายแดนและระหว่างประเทศไปยังประเทศต่างๆ ใช่น ไทย จึน บังคลาเทศ ญี่ป่น เป็นตั้น

ผลกระทบ/โอกาส สินค้าประมงเป็นหนึ่งในสินค้าศักยภาพของเมียนมา สอดรับนโยบายเมียนมาในการส่งเสริมการเกษตรและความมันคงทางอาหารของเมียนมา ส่งผลดีต่อความมันคงและการบริโกคภายในเมี่ยนมา รวมทั้งเป็นโอกาสในการส่งออกสินค้าประมงจากเมียนมา

ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ขอให้ผู้ประกอบการไทยพิจารณาโอกาสธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การนำเข้าสินค้าประมงจากเมียนมา การส่งออกสินค้าประมงของเมียนมา หรือการจับคู่รายได้การส่งออกจากเมียนมา (Export Earning) จับคู่กับการขอใบอนุญาตนำเข้า (Import License) เพื่อนำเข้าสินค้าไทยต่างๆ มายังตลาดเมียนมา ตามแนวทางของเมียนมาที่จะพิจารณาอนุญาตให้นำเข้าสินค้าต่างๆ จากต่างประเทศ หากมีรายได้ส่งออก (Export Earning) ประกอบการชอ Import License

ที่มา: Global New Light Of Myanmar (www.gnlm.com.mm)

3.6 เมียนมาลดภาษีนำเข้าให้ 9 ประเทศสมาชิก RCEP

เมียนมาลดภาษีนำเข้าให้ 9 ประเทศสมาชิก RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership) ได้แก่ ไทย กัมพูชา เวียดนาม ลาว บรูไน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และจีน โดยจะมีผลตั้งแต่ 14 พ.ค. 68 โดย 9 ประเทศดังกล่าว ต้องยื่นแบบฟอร์ม RCEP เพื่อใช้สิทธิลดภาษีนำเข้าดังกล่าว สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่กรมศุลกากรเมียนมา เบอร์ +95 01-379429

ผลกระทบ/โอกาส การลดภาษีในกรอบต่างๆ เป็น “โอกาส” ทางธุรกิจ เพราะช่วยลดภาษีนำเข้าประเทศปลายทาง ส่งเสริมการส่งออกของประเทศต้นทาง รวมทั้งช่วยเชื่อมโยงฐานการผลิตและฐานตลาดภายในภูมิภาค โดย RCEP มีสมาชิก 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 10 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ขอให้ผู้ประกอบการไทยศึกษาข้อมูลและพิจารณาใช้ประโยชน์ เช่น การส่งออกจากไทยมาเมียนมาหรือประเทศ RCEP หรือการพิจารณาเมียนมาเป็นฐานผลิต นำเข้า และส่งออกไปยังประเทศ RCEP เป็นต้น

ที่มา: Global New Light Of Myanmar (www.gnlm.com.mm)

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง

                                                                มิถุนายน 2568

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.ditp.go.th/post/206411&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3wulP5Qr5HIOFySyx_dLoD

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *