วันที่ 5 มิถุนายน 2568 นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และนายภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการและด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน มีนายภัทรวุธ เภอแสละ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และผู้ช่วยศาสตราจารย์สรรเสริญ มิลินทสูต รองอธิการบดีอาวุโสด้านวิชาการลงนามเป็นพยาน ณ ห้อง The Lobby (อาคาร Tourism Tower ชั้น 2) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวภายหลังการลงนามความร่วมมือว่า ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพในวันนี้ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและสถาบันการศึกษาที่ต้องการผลิตกำลังคนภาคการศึกษาป้อนสู่ตลาดแรงงาน ส่งเสริมการมีอาชีพอย่างมั่นคง พร้อมแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังคนในบางสาขาอาชีพ โดยกลุ่มพนักงานบริการบนเรือสำราญ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการประกอบอาชีพ เพราะมีสวัสดิการและค่าตอบแทนที่ค่อนข้างสูง เช่น สายอาชีพงานบริการอาหารและเครื่องดื่มได้รับค่าจ้างตั้งแต่ 30,000 จนถึง 100,000 บาท จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือในครั้งนี้ในการพัฒนาบุคลากรธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ ให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะฝีมือสูงขึ้น ตอบโจทย์การเติบโตของธุรกิจนี้ที่กำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก

นายเดชา กล่าวว่า ทั้งสองหน่วยงานร่วมกันจัดทำหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับเรือสำราญ เช่น พื้นฐานงานบริการและความปลอดภัยบนเรือสำราญ โภชนาการและหน้าที่คนครัวบนเรือ การบริการไวน์บนเรือสำราญ และกลุ่มหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมความงามและการดูแลสุขภาพ และจัดฝึกอบรมให้แก่นักศึกษา แรงงาน และประชาชนทั่วไป ในหลักสูตรต่าง ๆ เช่น การบริการการจัดการการท่องเที่ยวเรือสำราญ ภาษาอังกฤษสำหรับพนักงานบริการ พนักงานเสิร์ฟ เชฟบนเรือสำราญ เป็นต้น นอกจากนี้กรมฯ ส่งเสริมให้มีการเทียบโอนผ่านระบบธนาคารหน่วยกิต เพื่อให้กำลังแรงงาน สามารถนำผลการพัฒนาฝีมือแรงงานมาใช้เทียบโอนเพื่อเข้าศึกษาต่อเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย โดยนำร่องที่คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว และยังส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานในสาขาอาชีพพนักงานผสมเครื่องดื่ม ระดับ 1 อีกด้วย

จากที่กล่าวมาในข้างต้นจะเห็นภาพความร่วมมือที่กลายเป็นแรงผลักดันในการผลิตกำลังแรงงานคุณภาพที่มีความพร้อมทั้งทักษะและจิตบริการในการทำงานบนเรือสำราญ สร้างมูลค่าทางธุรกิจและเม็ดเงินที่จะเป็นรายได้ให้แก่ประเทศ ขอขอบคุณทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในครั้งนี้ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวทิ้งท้าย