DPU ผนึก CSC จัดงานนิทรรศการอุดมศึกษาจีน 2025 ครบรอบ 50 ปีทองแห่งสัมพันธ์ไทย-จีน | เดลินิวส์

dpu-ผนึก-csc-จัดงานนิทรรศการอุดมศึกษาจีน-2025-ครบรอบ-50-ปีทองแห่งสัมพันธ์ไทย-จีน-|-เดลินิวส์
DPU ผนึก CSC จัดงานนิทรรศการอุดมศึกษาจีน 2025 ครบรอบ 50 ปีทองแห่งสัมพันธ์ไทย-จีน | เดลินิวส์

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมกับ คณะกรรมการทุนการศึกษาจีน (China Scholarship Council: CSC) กระทรวงศึกษาธิการ สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้จัดงาน “นิทรรศการการอุดมศึกษาจีน” หรือ 2025 China Higher Education Exhibition ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุมปรีดี พนมยงค์ ชั้น 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติ (อาคาร 7) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ งานนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเปิดโอกาสให้มหาวิทยาลัยชั้นนำจากประเทศจีน รวมถึงสถาบันการศึกษาชั้นนำในกลุ่ม 985/211 (Project 985/211) หรือกลุ่มมหาวิทยาลัยที่ได้รับการคัดเลือกและสนับสนุนเป็นพิเศษจากรัฐบาลจีน ได้เข้ามานำเสนอความก้าวหน้าทางการศึกษา รวมถึงนโยบายทุนการศึกษาที่น่าสนใจแก่เยาวชนไทย ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับข้อมูลการศึกษาต่อในจีนอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษา ขั้นตอนการรับสมัคร ข้อมูลหอพัก หรือแม้แต่รายละเอียดเกี่ยวกับทุนการศึกษาและนโยบายด้านวีซ่า นอกจากนี้การจัดงานมุ่งเน้นการสื่อสารแบบตัวต่อตัว เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนนักวิชาการ นักศึกษา และความร่วมมือด้านการวิจัยระหว่างจีนกับนานาชาติ โดยยึดหลักผลประโยชน์ร่วมกัน ถือเป็นการสานต่อความสำเร็จจากการจัดงานมหกรรมการศึกษาจีนครั้งแรก เมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา

DPU ขับเคลื่อนความร่วมมือทางการศึกษา

ในฐานะองค์กรผู้จัดงาน ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้กล่าวต้อนรับพร้อมกล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมงาน โดยเฉพาะ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คุณสวี่ หลัน ที่ปรึกษาฝ่ายการศึกษา สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย รวมถึงคุณเถียน ลู่ลู่ รองเลขาธิการคณะกรรมการทุนการศึกษาจีน โดย ดร.ดาริกา ชี้ให้เห็นถึงบริบทภาษาจีนที่กลายเป็นหนึ่งในภาษาที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก และยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นภายใต้นิยาม “ไทย-จีนเป็นพี่น้องกัน” ซึ่งได้รับการกล่าวขานมายาวนาน โดยตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือระหว่างสองประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในหลายมิติ ทั้งด้านการทูต การค้า เศรษฐกิจ และการศึกษา ดร.ดาริกา เน้นย้ำว่า “ความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นนี้ นำไปสู่ความต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และสื่อสารภาษาจีนได้ดีอย่างยิ่งในปัจจุบัน” ด้วยเหตุนี้เอง มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จึงได้จัดการเรียนการสอนภาษาจีนในระดับปริญญาตรีมานานกว่า 30 ปีแล้ว

ปัจจุบัน DPU มีทั้งหลักสูตรปริญญาตรีสาขาภาษาจีนธุรกิจ รวมถึงหลักสูตรปริญญาตรี โท และเอกอีกหลายสาขาที่ใช้ภาษาจีนในการจัดการเรียนการสอน ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมเสริมทักษะให้นักศึกษาอย่างต่อเนื่อง การประกวดทักษะภาษาจีน โครงการเข้าค่ายที่ประเทศจีน และการจัดสอบวัดระดับภาษาจีน ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมทักษะเหล่านั้น มหาวิทยาลัยยังได้รับเกียรติเป็นที่ตั้งของสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และได้ร่วมมือกับสถาบันฯ ในการเผยแพร่ภาษาและวัฒนธรรมจีนอย่างจริงจังเสมอมา นอกจากนี้ ดร.ดาริกา ยังได้กล่าวชื่นชมศิษย์เก่าและบุคลากร DPU ที่ได้รับทุนจาก China Scholarship Council และมหาวิทยาลัยหลายแห่งในจีน ซึ่งหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว พวกเขาเหล่านี้ได้กลับมาเป็นกำลังสำคัญของมหาวิทยาลัยอีกด้วย ในช่วงท้าย ดร.ดาริกา ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นว่า DPU พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เยาวชนไทยได้คว้าโอกาสทางการศึกษาในระดับโลก และเชื่อมั่นว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอนาคตที่สดใสให้กับนักเรียนไทยทุกคน

การศึกษาคือ รากฐานความเจริญรุ่งเรือง

ขณะที่ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้กล่าวปาฐกถาและแสดงความยินดีที่ได้เห็นความร่วมมือด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่พัฒนาไปอีกขั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนทั้งสองประเทศสู่ความเจริญรุ่งเรือง โดยขอชื่นชมมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดงานนิทรรศการอุดมศึกษาจีนครั้งนี้ และชื่นชมความเข้มแข็งของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งนี้ในการบริหารจัดการ พร้อมกันนี้ท่านยังเน้นว่า “การไปศึกษาต่อในประเทศจีนนั้น เป็นการส่งออกที่ดีที่สุดของทั้งสองประเทศ เพราะทั้งไทยและจีนได้ส่งบุคลากรออกไปศึกษา และได้กำลังคนกลับมา พร้อมด้วยเครือข่ายที่ได้สร้างไว้สมัยยังเรียนอยู่” นอกจากนี้ยังบอกว่า “นักศึกษาไทยที่ไปเรียนที่จีนอย่าเอาแต่เรียนอย่างเดียว แต่ต้องสร้างคอนเนกชั่นกับเพื่อนฝูง กับครูบาอาจารย์ เพื่อวันหนึ่งเมื่อเรากลับมาแล้วจะได้เป็นฟันเฟืองของชาติ”

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก กล่าวเสริมอีกว่า การเลือกไปเรียนต่อที่จีนเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างยิ่ง เนื่องจาก “จีนเป็นประเทศมหาอำนาจที่ในอนาคตอีก 5-10 ปี เราจะได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความสำคัญ” และย้ำถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดว่า “ไทยและจีนเปรียบดังมหามิตรที่ผูกพันกันมาช้านาน และเป็นมหามิตรที่อยู่ใกล้ไทยมากที่สุดไม่ว่าจะในด้านภูมิประเทศ เวลา และภาษา”

ท้ายที่สุดนี้ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก หวังว่าในอนาคตจะมีการสานต่อความร่วมมือด้านทุนการศึกษาและการแลกเปลี่ยนบุคลากร โดยเฉพาะในสาขา AI ที่จีนมีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากจีนได้พัฒนาองค์ความรู้ในด้านนี้อย่างดีเยี่ยม และพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีและประสบการณ์ให้ไทยอย่างจริงใจ ด้วยความมุ่งมั่นนี้เอง ท่านเชื่อมั่นว่าความสำเร็จเหล่านี้จะหยั่งรากลึกเชื่อมใจประชาชนทั้งสองชาติให้มีความสัมพันธ์ที่ “แน่นแฟ้นและมั่นคง โอนอ่อนแต่ไม่อ่อนแอ เพราะยังคงมีความช่วยเหลือเกื้อกูลกันอยู่เสมอ” ซึ่งเป็นการตอกย้ำมิตรภาพอันยาวนาน

ครบรอบ 50 ปีทองแห่งมิตรภาพ “จีน-ไทย เป็นครอบครัวเดียวกัน”

ด้าน คุณสวี่ หลัน ที่ปรึกษาฝ่ายการศึกษา สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้กล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาร่วมงานในวันนี้ รวมถึงกล่าวขอบคุณมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่เตรียมงานได้อย่างยอดเยี่ยมและราบรื่น ก่อนจะระบุถึง ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์อันยาวนานกว่าพันปีระหว่างจีน-ไทย ความสำเร็จของการแลกเปลี่ยนความร่วมมือในทุกๆ ด้าน ล้วนเกิดขึ้นภายใต้การนำเชิงยุทธศาสตร์ของผู้นำทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์อันดี โดยเฉพาะในปีนี้ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ถือเป็น “50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย” ที่มีความหมายเชิงประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้งต่อภาคการศึกษาของทั้งสองชาติ และมอบพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาในอนาคต ที่ปรึกษาฝ่ายการศึกษา ยังเน้นย้ำว่า การร่วมมือทางการศึกษาเป็นสายสัมพันธ์ที่สำคัญอย่างยิ่ง ที่จะเชื่อมโยงหัวใจของภาคประชาชนให้มีความเข้าใจตรงกัน ซึ่งเป็นรากฐานทางสังคมและวัฒนธรรมที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอย่างไม่รู้จบ โดยชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันจีนมีสถาบันอุดมศึกษากว่า 3,000 แห่ง และได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษาครอบคลุมทั่วโลกอย่างกว้างขวาง โดยแต่ละปีมีนักศึกษาไทยกว่าหมื่นคนเดินทางไปศึกษาต่อที่จีน ซึ่งแสดงถึงพลวัตและความกว้างขวางของการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาที่ชัดเจน “อยากจะขอเชิญชวนเยาวชนไทยที่มีความมุ่งมั่นให้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศจีน เพื่อสืบทอดมิตรภาพระหว่างจีนไทย ร่วมกันเขียนบทใหม่แห่งความร่วมมือทั้งสองฝ่าย จนก่อให้เกิดเป็นสะพานเชื่อมอนาคตของทั้งสองประเทศสืบไป”

CSC ย้ำความสัมพันธ์และโอกาสทางการศึกษา

คุณเถียน ลู่ลู่ รองเลขาธิการคณะกรรมการทุนการศึกษาจีน (CSC) ได้กล่าวขอบคุณมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์และสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย สำหรับการต้อนรับอันอบอุ่นและการเตรียมงานอย่างดียิ่ง ซึ่งแสดงถึงความพร้อมของเจ้าภาพ โดยกล่าวว่า “จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดดุจภูผาและสายน้ำ” และตลอด 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูต สองประเทศได้เดินเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาอย่างแน่นแฟ้น ในฐานะหุ้นส่วนที่ไว้วางใจและเป็นแบบอย่างความร่วมมือระดับภูมิภาค รองเลขาธิการ CSC อธิบายต่อว่า ภายใต้กรอบ Belt and Road Initiative ความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษาของทั้งสองประเทศทวีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งการแลกเปลี่ยนบุคลากร ความร่วมมือทางวิชาการ และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ซึ่งล้วนเติมเต็มพลังแห่งการพัฒนาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง CSC มุ่งมั่นส่งเสริมการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและอาจารย์มาโดยตลอด โดยปัจจุบันมีนักศึกษาและนักวิชาการไทยกว่า 5,900 คนได้รับทุนจากรัฐบาลจีน แสดงถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการศึกษาอย่างแท้จริง คุณเถียน ยังชี้ว่า การจัดงานในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่นำเสนอความก้าวหน้าทางการศึกษาของจีนและนโยบายการศึกษาต่อ แต่ยังมีเป้าหมายเพื่อเชิญชวนเยาวชนไทยที่มีความสามารถไปศึกษาต่อที่จีน และยังได้อ้างอิงคำกล่าวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ว่า “มิตรภาพจีน-ไทยสืบทอดกันมานับพันปี” รวมถึง “จีน-ไทยเป็นครอบครัวเดียวกัน” รองเลขาธิการ CSC ได้กล่าวทิ้งท้ายแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับวงการศึกษาไทย เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาระดับสูง และขยายโอกาสให้นักศึกษาและนักวิชาการของทั้งสองประเทศได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งจะนำไปสู่การ “ร่วมกันเก็บเกี่ยวผลสำเร็จแห่งความร่วมมือทางการศึกษา” อันเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย

สำหรับงาน “นิทรรศการการอุดมศึกษาจีน 2025” ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักเรียน นักวิชาการ และผู้บริหารจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ที่ร่วมรับฟังและแบ่งปันวิสัยทัศน์ ประกอบด้วย ผศ. ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีสายงานวิชาการ, ผศ. ดร.ศิริเดช คำสุพรหม รองอธิการบดีสายงานภาคีสัมพันธ์, ดร.โหยว เสียง คณบดีวิทยาลัยนานาชาติจีน และ คุณธนเดช กิจศุภไพศาล ผู้อำนวยการสถาบันภาษาจีน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รศ.เฉิน เวย ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล ผู้บริหารและตัวแทนจากมหาวิทยาลัยจีนทั้ง 27 แห่ง สื่อมวลชนทั้งไทยและจีน รวมถึงนักเรียนจากโรงเรียนและวิทยาลัยอาชีวศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก สร้างความครึกครื้นให้แก่งานเป็นอย่างยิ่ง

งานในวันนี้จึงไม่ใช่เพียงเวทีสำหรับข้อมูลการศึกษาต่อเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสะพานแห่งมิตรภาพไทย-จีน ที่จะเสริมสร้างรากฐานความร่วมมือทางการศึกษาและวัฒนธรรม ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และช่วยให้นักเรียนไทยจำนวนมากได้สานฝันเส้นทางการศึกษาต่อในประเทศจีน เพื่อร่วมกันเขียนบทใหม่แห่งความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างสองประเทศให้ก้าวหน้าและยั่งยืนตลอดไป

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.dailynews.co.th/news/4818730/&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3Q9v4nhLdXkqTYliYd9gxh

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *