รายงานข่าวจาก แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า จากกรณีที่มีการนําเสนอข่าวเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มคนขับผู้ให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะเพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการเรียกรถยนต์โดยสารสาธารณะผ่านแอปพลิเคชัน แกร็บ ประเทศไทย ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียกรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชันในประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงในประเด็นต่างๆ ดังนี้
ปัจจุบัน มีคนขับผู้ให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะจํานวนมากนับหลายหมื่นรายเลือกใช้แอปพลิเคชัน Grab เพื่อเป็นช่องทางเสริมในการเข้าถึงผู้โดยสาร ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้นอกเหนือจากการให้บริการใน รูปแบบดั้งเดิม ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเปิดรับคนขับที่สนใจเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง
โดยมุ่งเน้นให้ความสําคัญกับการ รักษาคุณภาพของการให้บริการและมาตรฐานด้านความปลอดภัยเป็นหลัก ผ่านกระบวนการคัดกรอง การตรวจ ประวัติอาชญากรรมย้อนหลังรวมถึงการประกาศใช้จรรยาบรรณสําหรบัคนขับเพื่อเป็นแนวทางหลักในการให้บริการ
ที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังได้ดําเนินกิจกรรมต่างๆเพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนกลมุ่คนขับให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น การจัดอบรมและพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัลและการวางแผนการเงิน การจัดกิจกรรมที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการของรถแท็กซี่สาธารณะ การให้ความช่วยเหลือและมอบอุปกรณ์ที่จําเป็นต่างๆ ในยามวิกฤติ โดยเฉพาะในช่วงโควิด ตลอดจนการสนับสนุนการจัดกิจกรรมต่างๆ ของกลุ่มคนขับแท็กซี่อยู่เป็นระยะ เป็นต้น
สําหรับการให้บริการที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ รวมทั้งสนามบินอื่นๆ อาทิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่ง อยู่ภายใต้การดูแลของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) นั้น
บริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้ดําเนินการอย่างถูกต้อง โดยได้เปิดจุดให้บริการผู้โดยสาร (Pick-up Point) ซึ่งเป็นคนละพื้นที่และแยกกันอย่างชัดเจนกับจุด ให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะในสนามบิน จึงไม่มีการทับซ้อนของพื้นที่หรือการแย่งผู้โดยสารตามที่มีความเข้าใจ คลาดเคลื่อนแต่อย่างใด
นอกจากนี้ บริษัทฯ จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลและอํานวยความสะดวกในจุดบริการผู้โดยสาร โดย เป้าหมาย สําคัญของบริษัทฯ คือการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นแหล่ง รายได้หลักของประเทศ
ด้วยการนําเสนอทางเลือกของการเดินทางที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และมีการกําหนด ราคาที่โปร่งใส สําหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้จัดทําแคมเปญส่งเสริม การท่องเที่ยวต่างๆ ตลอดทั้งปีเพื่อช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติและกระตุ้นการใช้จ่าย ซึ่งช่วยสร้างโอกาสและ รายได้ให้กับคนขับในระบบมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าบริการรถแท็กซี่สาธารณะและบริการเรียกรถยนต์โดยสารผ่านแอปพลิเคชันสามารถอยู่ร่วมกันในสังคม ได้อย่างสันติ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้โดยสารในการเลือกใช้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละ บุคคล และพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการหาแนวทางแก้ไขและยกระดับมาตรฐานการให้บริการรถรับจ้างสาธารณะใน ประเทศไทย เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้อย่างปรองดอง ขณะเดียวกันก็สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุค ปัจจุบันได้อย่างยั่งยืน
เรื่องของราคาทางผู้บริหารแกร็บเผยว่า โดยปกติการคิดราคาค่าโดยสารบนแพลตฟอร์มจะแพงกว่าแท็กซี่ทั่วไปราว 20-30% อยู่แล้ว “ยืนยันว่าไม่ได้ถูกกว่า” เป็นไปตามที่ทางภาครัฐกำหนดไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้การให้บริการไปแข่งขันหรือเกิดการแย่งผู้โดยสารของแท็กซี่สาธารณะที่มีอยู่เดิม
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 กลุ่มสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ นำโดยนายวรพล แกมขุนทด ได้รวมตัวชุมนุมบริเวณประตู 5 ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการให้บริการของแอปพลิเคชัน Grab ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ อ้างว่าการอนุญาตให้ Grab เข้ามาให้บริการในสนามบินเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนต่างชาติ และใช้วาทกรรมว่า “เลือก Grab เท่ากับขายชาติ” เพื่อกดดันรัฐบาล
ต่อมาวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 นายวรพลได้ชี้แจงว่า คำขู่ปิดสนามบินสุวรรณภูมิเป็นเพียงวาทกรรมเพื่อดึงความสนใจจากสื่อมวลชน และยืนยันว่าจะไม่มีการปิดสนามบินจริง ปัญหาที่แท้จริงคือความไม่เท่าเทียมกันระหว่างคนขับแท็กซี่และผู้ให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน เช่น Grab โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนและรายได้ที่ไม่สมดุล
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.posttoday.com/business/724492&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw31DQOirrIpv5gi67EGs1oC